บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอังคารที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2553

ยกแรก

ที่มา ไทยรัฐ

ในที่สุดประเทศไทยก็หาทางออกจากความขัดแย้งทางการเมืองด้วยการเจรจา ซึ่งถือว่าเป็นบทเรียนสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองที่น่าจะใช้เป็นแบบอย่าง หลังจากที่เกิดการเผชิญหน้าและเป็นปัญหามาอย่างยาวนาน

การพบปะกันระหว่างรัฐบาล ซึ่งนำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ และแกนนำเสื้อแดงนำโดยนายวีระ มุสิกพงศ์ นพ.เหวง โตจิราการ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่สถาบันพระปกเกล้า

บรรยากาศดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดี ต่างฝ่ายต่างก็ยกเหตุผลขึ้นมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่าด้วยระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทย

ซึ่งฝ่ายเสื้อแดงยืนยันว่าวันนี้ประเทศไทยไม่ได้เป็นประชาธิปไตย เพราะผลพลวงมาจากการยึดอำนาจเมื่อ 19 ก.ย. 49 ทำให้กลไกต่างๆที่เกิดขึ้นอยู่ภายใต้ระบบนี้ ซึ่งเรียกว่าอำมาตยาธิปไตย

เสนอทางออกว่าควรจะ "ยุบสภา" คืนอำนาจให้ประชาชน

และรัฐธรรมนูญปี 50 คือปัญหาที่เป็นกลไกของการยึดอำนาจ

ทั้งนี้ ให้ทุกพรรคที่เสนอตัวให้ประชาชนเลือกตั้งว่าจะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากการเลือกตั้งแล้วปรากฏพรรคที่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญชนะเลือกตั้งเมื่อเข้าไปเป็นรัฐบาลก็แก้ไขรัฐธรรมนูญ หากพรรคที่ไม่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญชนะเลือกตั้งก็ไม่ต้องแก้ไข

ถือว่าเป็นประชามติของประชาชนและจะไม่มีการต่อต้าน เสื้อแดงจะหยุดเคลื่อนไหวและไม่มีปฏิกิริยาแต่อย่างใด

เพราะถือว่าเป็นอำนาจการตัดสินใจของปวงชนชาวไทย

ซึ่งฝ่ายรัฐบาลมีความเห็นว่าทุกฝ่ายต่างก็ต้องการให้ประเทศไทย เป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ และต้องการหาทางออกให้กับประเทศ

นายกฯให้ความเห็นว่าไม่สนับสนุนการปฏิวัติรัฐประหารแต่ อย่างใด แต่หากให้มีการยุบสภาแล้วจะแก้ปัญหาของประเทศได้จริงหรือ หากพรรคที่ไม่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญชนะเลือกตั้งและไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ

มันเป็นทางออกของประเทศจริงหรือ?

มันจะแก้ไขความขัดแย้งได้จริงหรือ?

ขณะเดียวกันรัฐธรรมนูญปี 2540 ซึ่งถือว่าเป็นฉบับที่ดีที่สุดเมื่อประชาชนได้มีส่วนร่วมมากที่สุด แต่ในทางปฏิบัติที่เป็นจริงปรากฏว่าได้มีการแทรกแซงองค์กรอิสระ ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลจนทำให้มีความเห็นว่าควรจะมีการแก้ไขด้วยซ้ำไป

นอกจากนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวข้องกับส่วนอื่นๆอีกมาก ไม่เฉพาะรัฐบาลกับผู้ร่วมเจรจาแต่อย่างใด และไม่ต้องการแก้ไขในลักษณะเพื่อตัวเองหรือเพื่อการนิรโทษกรรม

อย่างไรก็ดี การที่บอกว่าจะสามารถเดินทางไปหาเสียงพื้นที่ใดก็ได้หรือการบอกว่าหากยุบสภาแล้วสามารถสั่งซ้ายหันขวาหันเสื้อแดงหรือให้หยุดการเคลื่อนไหวได้ทันที มันจะเป็นอย่างนั้นหรือ

นายกฯยังระบุต้องการใช้เวลาสักนิดเพื่อแก้ไขปัญหาให้อารมณ์ ทางการเมืองของผู้คนดีขึ้น บรรยากาศทางการเมืองที่ดีขึ้น

จากนั้นก็พร้อมที่จะ "ยุบสภา"

และยืนยันว่าพร้อมที่จะรับฟังความเห็น แต่ต้องรับฟังเสียง จากประชาชนในส่วนอื่นๆด้วย เพราะอยู่ในฐานะที่ต้องรับผิดชอบทั้งหมดด้วย

เหนืออื่นใดการเจรจาครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรก ซึ่งคงจะต้องมีการพูดคุยกันอีกหลายครั้งเพื่อหาข้อสรุป เป็นการเริ่มต้นที่ดีและน่าจะหาทางออกต่อสังคมไทยได้

เพียงแต่ว่ามีความพยายามที่จะไม่พูดถึงตัวปัญหาจริงๆอีก ตัวหนึ่งเท่านั้น.

"สายล่อฟ้า"

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker