บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2553

ข้อเสนอแนะก้าวข้ามวิกฤต

ที่มา ข่าวสด

รายงานพิเศษ




1.อนุสรณ์ ธรรมใจ

2.รสนา โตสิตระกูล

3.พงศ์เทพ เทพกาญจนา

4.สุนีย์ ไชยรส

เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่ห้องประชุมวรรณไวทยากร ตึกโดม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีการจัดเสวนาเรื่อง "ก้าวข้ามวิกฤตด้วยอภิวัฒน์สู่สันติ"

ผู้เข้าสัมมนา ประกอบด้วย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และสมาชิกบ้านเลขที่ 111 นางรสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. นางสุนีย์ ไชยรส อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชน และ นางวิภา ดาวมณี อ.ประจำวิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อนุสรณ์ ธรรมใจ ดำเนินรายการ



อนุสรณ์ ธรรมใจ

การจัดเสวนาครั้งนี้เพื่อรำลึกถึงรัฐบุรุษอาวุโส ปรีดี พนมยงค์ ในฐานะที่ท่านเป็นผู้มีคุณูป การมากมายในการแก้ปัญหาของชาติในช่วงที่มีปัญหาเรื่องของความขัดแย้งทางการเมืองที่มีการเผชิญหน้าอย่างรุนแรง

ท่านยังได้นำ เสนอแนวคิดเรื่อง "การอภิวัฒน์สู่สันติ" คำว่า อภิวัฒน์ คือความก้าวหน้าที่ใหญ่กว่าการปฏิรูป แต่เราอาจเทียบเคียงได้ว่าการอภิวัฒน์คือการปฏิรูปประเทศไทย ความสงบสู่สันติไม่อาจเกิดขึ้นได้ถ้าไม่มีการอภิวัฒน์ เราต้องเปลี่ยนแปลงประเทศให้อำนาจประชาธิปไตยเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ต้องสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ สังคม และระบบความยุติธรรมที่ให้ความเป็นธรรม การอภิวัฒน์ การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ต้องทำอย่างสันติ และต้องช่วยกันรณรงค์เรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง

การรณรงค์เรื่องการอภิวัฒน์สู่สันติจะทำไปเรื่อยๆ และยินดีที่เห็นความขัดแย้งของประเทศไปในทิศทางดีขึ้นบ้าง มีการเจรจาหารือมากขึ้น แต่เราก็ไม่อยากให้การเจรจาหารือระยะสั้นเท่านั้น แต่ต้อง การมีการปฏิรูปประเทศไทย การอภิวัฒน์ประเทศไทย นำมาสู่สันติสุข ความเป็นประชาธิปไตยและความเป็นธรรมให้กับสังคม



รสนา โตสิตระกูล

ส.ว.กทม.

การเคลื่อนไหวของมวลชนเพื่อแก้โครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเหลือง หรือเสื้อแดง ด้านหนึ่งอาจมองว่าเป็นปัญหาแต่ควรมองสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการพัฒนาหรือการตื่นตัว

ส่วนที่จะให้มีการแก้โดยการยุบสภาและมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ก็เห็นด้วย เพราะรัฐธรรมนูญปี 50 เกิดจากพื้นฐานไม่ดี ออกหลักเกณฑ์ทำให้คนอีกกลุ่มพ้นจากอำนาจไป

ส่วนการยุบสภาอาจไม่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะระบบการเมืองที่ยังมีนอมินีอยู่ ถ้าคืนอำนาจให้ประชาชนแล้วขอให้คืนยาวกว่าการที่จะไปเลือกตั้ง เพื่อกากบาทให้คะแนนให้นักการเมืองเพียง 2-3 นาที

เวลานี้เป็นไปได้หรือไม่รัฐบาลใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส เปิดเวทีให้คนรากหญ้าพูดถึงปัญหาของตัวเองและต้องทำอย่างทันที แทนที่จะบอกต่อไปยังนักการเมือง วัฒน ธรรมการพึ่งระบบอุปถัมภ์จะไม่เกิดขึ้น

ส่วนระบบอำมาตย์นั้นมีอยู่เมื่อปี 2475 รวมทั้งไพร่ แต่มีการเปลี่ยนผ่านไปแล้ว คำว่าศักดินาก็หมดไปแล้ว ปัจจุบันเราเหลือแต่ศักดิทุนที่เข้ามาครอบงำ ความยากจนไม่ได้เกิดจากความขี้เกียจแต่เกิดจากศักดิทุนเข้ามา

ตอนนี้มีการใช้วาทกรรมให้คนเกลียดกัน แบ่งแยก ซึ่งไม่อยากเห็นเหมือนกับกรณี 6 ต.ค. ที่เอาคนไทยด้วยกันมาแขวนคอ ตอกลิ่ม เผานั่งยาง ดังนั้นสื่อไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง หรือสีแดง ไม่ควรใช้วิทยุ ทีวีของตนเผยแพร่ สิ่งที่เกิดความขัดแย้ง

การเจรจาไม่ใช่ว่ามาวิ่งวนแต่เรื่องว่าการเจรจาจะจบไม่จบ หรือรอให้จัดงบประมาณเสร็จแล้วยุบสภา ซึ่งเป็นเรื่องน้ำเน่ามาก



พงศ์เทพ เทพกาญจนา

สมาชิกบ้านเลขที่ 111

ปัญหาหรือวิกฤตของประเทศขณะนี้ไม่ได้มาจากเรื่องเดียว แต่มีต้นเหตุจากปัญหาเดิมๆ คือการจัดสรรทรัพยากรที่ไม่เป็นธรรม สืบเนื่องจากการจัดสรรอำนาจไม่เป็นธรรม เป็นปัญหาใหญ่มาก

ทุกคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันมีปัญหาเรื่องความแตกต่างในเรื่องของรายได้ที่ยังมีต่างกันมาก เรื่องอำนาจการจัด สรรทรัพยากรคนกลุ่มหนึ่งที่มันเอียงหนักไปข้างเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้สังคมไทยคงอยู่ไม่ได้ ดังนั้นควรทำอย่างไรที่จะยกคนที่เสียเปรียบ หรือด้อยโอกาสมาตลอดดันตัวเองให้เข้าถึงแหล่งทุนต่างๆ ยังเป็นส่วนหนึ่งที่คาหรือเป็นปัญหาอยู่

อีกทั้งพบว่าปัญหาวิกฤตที่มีอยู่ขณะนี้มาจากการใช้อำนาจนอกระบบเข้ามาแทรกแซงกลไก หรืออำนาจจากการทำรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 โดยองค์กรที่มองว่าเป็นกลาง ซึ่งมีหลักฐานชัดเจน

ผลการยึดอำนาจคือการช่วงชิงอำนาจอธิปไตยของประชาชน ให้ไปสู่องค์กรเล็กๆ หรือศาลบ้าง ซึ่งมีปัญหามากมาย ส่งผลให้เห็นหรือเกิดระบบตัวแทนในฝ่ายบริหาร แม้แต่พรรคการเมือง หรือที่เรียกว่านอมินี

จากปัญหากลไกที่ให้มีการยุบพรรค หรือตัดสิทธิ์กรรม การบริหารพรรคให้เว้นวรรค 5 ปี ซึ่งปัจจุบันจะเห็นว่าไม่มีใครอยากเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง เพราะตัวจริงอยู่ข้างนอกส่วนคนที่อยู่ข้างในเป็นตัวแทน ทำให้การเมืองไทยตรวจสอบได้ยากและลำบาก

รัฐมนตรีหลายคนหากพูดไปแล้วส่วนใหญ่ไม่ใช่ตัวจริง เมื่อมีปัญหาที่จะตัดสินอะไรเขาก็จะวิ่งไปหาคนที่อยู่เบื้องหลังซึ่งเป็นตัวจริงและไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน หรือการซื้อขายตำแหน่ง

การทุจริต ตัวจริงไม่ได้ลงมาเล่น แต่คนที่เหมือนเป็นตัวจริงเป็นหุ่นเชิดให้ ต้องทำตามที่เขาบอก ความยับยั้งชั่งใจยิ่งไม่มี จนเกิดปัญหาเรื่องการทุจริต คอร์รัปชั่นมากมาย

หรืออาจกล่าวได้ว่าปัญหาเกิดจากคนที่อยู่นอกระบบ รวมทั้งการร่างกติกาที่สร้างปัญหาพยายามแก้ให้โปร่งใสยิ่งสร้างความไม่โปร่งใสมากขึ้นไปอีก

รวมทั้งยังมีโรคแทรก คือ เสื้อเหลืองเข้ามา ซึ่งเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก อย่างน้อยเป็นหลักหมื่นที่กระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย มีการยึดทำเนียบ ปิดสนามบิน ทำให้ผู้ที่เข้าไปเกี่ยวข้องพะวักพะวนหรือมีชนัก เพราะติดในเรื่องของกฎหมาย ส่วนสีแดง ก็มีปัญหาเช่นกันแต่อาจไม่เท่ากับเสื้อเหลือง ดังนั้นความสงบอาจเกิดยากขึ้น

ทางออกคือควรมีสติ มีเหตุผล และต้องวางโครงสร้างการอยู่ร่วมกันใหม่ให้เป็นธรรมมากขึ้น ปลดชนักติดหลังเหล่านี้ออกและเคารพในกติกาใหม่

รัฐบาลชุดนี้จะให้วางโครงสร้างที่พูดมาคงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นควรคืนอำนาจให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ หากสรุปคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ ควรให้มีการเสมือนเป็นนิรโทษกรรมกรณีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือการอภัยโทษอย่างใดอย่างหนึ่งที่เกี่ยวข้องคนจำนวนมาก

จะเห็นเคยมีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมมาแล้วในเหตุการณ์ 14 ตุลา ส่วนการอภัยโทษก็คือการไม่ต้องรับโทษซึ่งต่างประเทศเขามองเรื่องนี้กว้างกว่าเรา



สุนีย์ ไชยรส

อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชน

ความรุนแรงของสังคมไทยที่ได้รับทั้งหมดถูกฝังหรือตอกตะปูตลอดเวลา ส่งผลถึงชนชั้นหรือที่ตามทฤษฎีที่เรียกไพร่-อำมาตย์ เป็นจุดที่มีการถกเถียงกันโดยตลอด แต่ก็เป็นความงดงามจากการต่อสู้ที่เห็นถึงความไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะปัญหาโครงสร้างที่ไม่มีใครปฏิเสธได้

วิกฤตที่เราเผชิญหน้าขณะนี้คือความแตกต่าง โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรมที่หยั่งรากลึกถ้าไม่จัดการจะรุนแรงมากขึ้น

สถานการณ์ในกรุงเทพฯในปัจจุบันคนเริ่มบ่นว่าไม่มีทางออก แต่รากเหง้าของมันคือการจัดการกับวิกฤต โดยคำนึงถึงความต่าง ต้องก้าวข้ามไปให้ได้ คนจนต้องไม่เป็นหางเครื่องของสีไหนเลย

การยุบสภาเพื่อเปลี่ยนรัฐบาลจึงไม่ใช่ทางออก แต่ไม่ปฏิเสธที่จะให้ยุบสภา แต่การชูธงการยุบสภาไม่ได้แก้ปัญหาได้เลย เพราะเราเคยมีบทเรียนซ้ำซากตลอดเวลา ในเรื่องการยุบสภาเปลี่ยนหน้ารัฐบาล โจทย์ตรงนี้ชัดเจน

แต่สิ่งที่เราพูดคือการคัดค้านความรุนแรงเพื่อ นำไปสู่ความสันติ ฟังดูง่ายแต่ทำยาก แม้แต่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังทำไม่ได้เลย ดังนั้น การเมืองต้องเป็นการเมืองของประชาชน ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเราต้องการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker