วิกฤติการเมืองไทยเคลื่อนเข้าใกล้จุดไคลแมกซ์เต็มที
ถึงแม้ในภาพรวมการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง กับกองกำลังของรัฐบาล ยังไม่มีฝ่ายใดใช้ความรุนแรง
แต่ก็มีรังสีอำมหิตแผ่ซ่านให้ชาวบ้านหวาดเสียวไม่เว้นแต่ละวัน
ล่าสุด กรณีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายใช้เครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79 ถล่มกระทรวงสาธารณสุข 2 นัดซ้อน หลังการประชุม ครม. เสร็จ และ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั่งรถเบนซ์กันกระสุนกลับออกไปไม่ถึงชั่วโมง
โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย
แต่แรงระเบิดทำให้รถยนต์ที่จอดอยู่ เสียหายหลายคัน
"แม่ลูกจันทร์" ประเมินจากพฤติกรรม ชี้ว่ามือยิงระเบิดเอ็ม 79 ไม่มุ่งหวังทำอันตรายนายกรัฐมนตรี
เพราะอุตส่าห์รอให้ประชุม ครม. เสร็จแล้วจึงเริ่มปฏิบัติการ
แต่การก่อเหตุกลางวันแสกๆ ในระหว่างประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เป็นความอุกอาจท้าทายอำนาจรัฐชัดเจน
กลุ่มคนที่กล้าท้าทายอำนาจรัฐขนาดนี้ได้ ต้องไม่ธรรมดา!!
ประเด็นที่น่าสังเกตเป็นการยิงจากรถยนต์ที่กำลังวิ่งบนทางด่วนแบบเดียวกับกรณียิงระเบิดเอ็ม 79 ถล่มกรมทหารราบที่ 1 รอ. 6 ลูกซ้อน เมื่อบ่ายวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา
"แม่ลูกจันทร์" ไม่อยากตั้งความหวังว่าตำรวจจะติดตามจับมือยิงเอ็ม 79 ที่กระทรวงสาธารณสุขได้รวดเร็วทันใจ
เพราะการไล่ล่าหามือยิงระเบิดกลางวันแสกๆ อาจจะดูไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายนะคุณโยม
และถ้าบังเอิญไปเจอตอ...ตำรวจเอง ก็ลำบากใจ??
ข้อสำคัญ เครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79 ไม่ใช่ หาซื้อกันได้ง่ายๆเหมือนขนมจีบซาลาเปา
เนื่องจากเป็นอาวุธสงครามร้ายแรงที่มี ใช้เฉพาะในหน่วยรบของกองทัพเท่านั้นเอง
จุดดีของการใช้...ระเบิดเอ็ม 79 ก่อเหตุ เพราะมีขนาดไม่ใหญ่โต พกพาสะดวก ใช้งานง่าย ยิงไม่มีเสียงดัง ไม่ต้องเห็นเป้าก็ยิงได้ เพราะเป็นเครื่องยิงระเบิดวิถีโค้งระยะไกล
ข้อเสียคือระเบิดเอ็ม 79 ความแม่นยำ ต่ำกว่า 60 เปอร์เซ็นต์
"แม่ลูกจันทร์" เห็นว่าการที่เครื่องยิง ระเบิดเอ็ม 79 ไม่มีความแม่นยำยิ่งน่ากลัว
กลัวชาวบ้านโดนลูกหลงโดยไม่ ตั้งใจ??
ยิ่งถ้าเป็นจรวดทำลายรถถัง "อาร์พีจี" ที่ใช้ก่อเหตุลอบยิงกระทรวงกลาโหมเมื่อวันเสาร์ก็ยิ่งน่ากลัว
เพราะถ้าพลาดตกใส่บ้านใครก็ตายฟรี!!
อย่างไรก็ตาม "แม่ลูกจันทร์" ไม่เชื่อว่าการก่อเหตุระเบิดหลายครั้งจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มเสื้อแดง
เพราะแนวทางของเสื้อแดงไม่ใช้ความรุนแรงชัดเจน
แต่กลุ่มที่ใช้อาวุธสงครามก่อเหตุน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบัน
อาจเป็นกลุ่มใหญ่กลุ่มเดียว? หรือแยกเป็นกลุ่มย่อยๆไม่ขึ้นต่อกัน?
แต่มีเป้าหมายเหมือนกันคือมุ่งใช้ความรุนแรง
"แม่ลูกจันทร์" เชื่อว่าเหตุระเบิดที่ผ่านมาเป็นแค่สัญญาณเตือนอันตราย
ถึงแม้รัฐบาลจะใช้กำลังทหารตำรวจมากมายควบคุมความปลอดภัย ก็ป้องกันการ ก่อเหตุร้ายไม่ได้อยู่ดี
โดยเฉพาะในวิกฤติใหญ่ที่ใกล้สุกงอม มีขบวนการติดอาวุธที่รอสร้างสถานการณ์ ป่วนบ้านป่วนเมือง
ถ้าเกิดเหตุปะทะกันเมื่อไหร่ก็พร้อม ร่วมผสมโรง
การใช้กำลังสลายการชุมนุมอาจจะเป็นตัวเร่งให้เกิดเหตุบานปลาย
และถ้าบานแล้วจะบานไม่หุบแน่นอน.
"แม่ลูกจันทร์"
