คำถามมีว่า...ทำไมรัฐบาลต้องพยายามต่อ...ทำไมรัฐบาลจึง “ไม่ยอมพ่ายแพ้” กับการตั้งโต๊ะเจรจา “รอบ 3” ผมไม่รู้ว่าตัวเอง “หูฝาด” ไปหรือไม่? ทำไม “ประชาธิปัตย์” จึงลุกขึ้นมากินยาโด๊ป “เอาจริงเอาจัง” กับเรื่องที่พวกเขาคิดว่าสามารถ “ควบคุมได้” เพราะในอาณัติทั้ง “พลังอำนาจ” ด้วยกำลังทหาร สื่อ และความอุปถัมภ์ของผู้ยิ่งใหญ่ใน “เงามืด” เป็นเหตุผลว่า...ประชาธิปัตย์มีคมหอกดาบและโล่ห์หนาที่ “แข็งแกร่งที่สุด” สมบูรณ์แบบทั้งการรุกและการรับแต่วันนี้ประชาธิปัตย์กลับต้องมาเดินตามตูด “สามเกลอ” ต้อยๆ เพื่อเจื้อยแจ้วเจรจาหากให้ไปถาม “สามคนในรัฐบาล” บนโต๊ะเจรจา...ผมคงเลือกไปถามเรื่องนี้
กับ “กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ” เพราะดูจากอากัปกิริยาของ “กอร์ปศักดิ์” ท่านเป็น “ตัวตั้งตัวตี” ในการเปิดโต๊ะเจรจารอบ 3 ให้เกิดขึ้น“กอร์ปศักดิ์” ออกมากระตุ้นคนในพรรคประชาธิปัตย์ให้เลิกดำเนิน “กิจการทางการเมือง” ที่พวกเขาฝักใฝ่และเชื่อถือ เพราะนั่นเป็นความคิดที่ผิดพลาด!โดยเฉพาะมนุษย์เราถูกปลูกฝังในบันทึกทาง “ประวัติศาสตร์” ซึ่งได้รับการสั่งสอนและบอกเรื่องราวให้เรียนรู้ว่า... การปฏิวัติของประชาชนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง...แต่การปฏิวัติของทหาร
ทำให้สภาพบ้านเมืองยังคงเดิมผมเชื่อว่า “กอร์ปศักดิ์” เป็นบุคคลหนึ่งที่รู้ดี...ท่านจึง “กระตือรือร้น” หาทางเจรจากับประชาชนเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งกอร์ปศักดิ์บอก...ผมไม่เคยยอมแพ้ มีแต่ต้องพยายามสาทิตย์บอก...เงื่อนเวลายุบสภาสามารถปรับลดได้หากเป็นค่าย รด. ต้องบอกว่า “นักศึกษาวิชาทหาร” สองคนนี้มีความ “พร้อมเพรียง” ในการสั่งซ้ายหัน - ขวาหันหรือนี่คือ “ใบสั่ง” ซึ่งว่ากันว่าไม่ธรรมดา!