เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกระแสข่าวมือมืดปาอุจจาระและถุงปลาร้าใส่บ้านพักในซอยสวัสดี ถนนสุขุมวิท 31 ว่า ไม่ใช่ระเบิด เห็นบอกว่าเป็นการปาสิ่งของเข้าไป ไม่มีอะไร ก็คงเป็นการก่อกวน ซึ่งเจ้าหน้าที่คงกำลังดูแลอยู่เพราะมีกล้องวงจรปิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดมือมืดถึงปาสิ่งของใส่บ้านนายกฯ ได้ ทั้งที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารคอยอารักขาบริเวณรอบ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กำลังจะดูว่าอะไรเป็นอะไร เพราะเหตุเพิ่งเกิดประมาณ 12.00 น.เศษ และเพิ่งได้รับรายงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่มีภาพวงจรปิดหมดแล้ว ส่วนจะมีการเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยหรือไม่ แล้วแต่เจ้าหน้าที่
เมื่อถามต่อว่า ชัยภูมิของบ้านพักนายกฯ ยากต่อการดูแลความปลอดภัยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มันมีระบบอยู่ แต่เจ้าหน้าที่คงจะเข้มงวดกวดขันขึ้น
เมื่อถามอีกว่า จำเป็นต้องมองหาที่อยู่สำรองหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวปฏิเสธว่า "ไม่ต้อง"
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คนในครอบครัวหวาดผวาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ไม่หรอกครับ เขาไม่หวั่นไหวหรอก ผมยังไม่ได้สอบถามไปที่ครอบครัว แต่ทราบว่าเขาไม่หวั่นไหว"
เมื่อถามต่อว่า เคยคิดหรือไม่ว่าจะโดนเหตุการณ์แบบนี้ นายกฯ กล่าวว่า "ก็โดนมามากกว่านี้แล้ว"
เมื่อถามอีกว่า นายกฯ จะนอนหลับได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "หลับครับ เมื่อคืนก็หลับ"
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัยของบุคคลสำคัญหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่บอกว่าจะต้องเข้มงวดกวดขันกันมากขึ้น เมื่อถามต่อว่า เรื่องนี้ส่งผลในเชิงจิตวิทยาในแง่ว่าสถานการณ์ไม่ปกติหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อย่างที่ตนเคยบอกว่าช่วงนี้จะมีเหตุการณ์ต่างๆ ตามสมควร เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องเข้มงวดกวดขันมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ใครจะได้ประโยชน์จากการก่อกวน หรือทำให้สถานการณ์ไม่ปกติ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้จะเห็นว่ามีความพยายามจะทำให้เกิดข่าวในทำนองว่าจะมีความวุ่นวาย มีการพูดถึงการปฏิวัติรัฐประหาร มีการพูดว่าต้องมาต่อต้านอะไรต่างๆ ก็คงเห็นภาพ เพราะตนได้บอกไปแล้วว่าในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ จะมีเหตุการณ์ มีความเคลื่อนไหวในลักษณะนี้
เมื่อถามต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลจากคดียึดทรัพย์พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ก็... มันก็เป็นปัจจัยหนึ่งน่ะครับ"
เมื่อถามว่า นายกฯ กังวลกับการข่มขู่ที่เกิดขึ้นในขณะนี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ได้บอกกับทุกคนที่มีหน้าที่ไปแล้วว่าต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ต้องไม่เกรงกลัวต่อการข่มขู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายความมั่นคงเคยบอกหรือไม่ว่าบ้านนายกฯ เป็นจุดเสี่ยง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "เขามีเจ้าหน้าที่มาดูแลอยู่"
เมื่อถามอีกว่า ประเมินว่าสถานการณ์จะเลวร้ายกว่านี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คิดว่าเป็นสิ่งที่สังคมไทยต้องช่วยกัน เราอย่าไปหวั่นไหว และต้องทำให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า รักษากฎหมาย หากเราเข้มแข็งเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย เราก็จะผ่านไปได้
มือมืดปา "อึ" ใส่บ้านนายกฯ ทั้งๆ ที่มีป้อมตร.ดูแลถึง 2 แห่ง
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งเหตุ มีวัตถุต้องสงสัยถูกปาเข้าไปภายในบริเวณบ้านเลขที่ 32/1-3 ซอยสุขุมวิท 31 แขวงคลองตันเหนือ เขตทวีวัฒนา กทม. ซึ่งเป็นบ้านของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผบ.ตร. ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่รอบนอกของตัวบ้าน บริเวณริมรั้วด้านข้างพบถุงพลาสติก เปิดดูภายในพบเป็นถุงอุจจาระหลายถุง เบื้องต้น พล.ต.ท.อัศวิน ได้ทำการเดินตรวจสอบบริเวณรอบบ้านพักนายกรัฐมนตรี และขึ้นไปบนเกสต์เฮาส์ที่เป็นตึกสูง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เพื่อตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบ
ต่อมา พล.ต.ท.อัศวิน พร้อมนายตำรวจระดับสูง ได้เดินทางมาที่ สน.ทองหล่อ เพื่อประชุมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่เปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณข้างบ้านนายกรัฐมนตรีนั้น มีป้อมตำรวจประจำอยู่ 2 ป้อม ป้อมแรกอยู่ข้างรั้วบ้าน คนละฝั่งกับที่คนร้ายปาถุงอุจจาระใส่ อีกป้อมอยู่บริเวณด้านหน้าบ้าน และล่าสุด ตำรวจ ปจ. ได้นำแผงเหล็กมากั้นไว้บริเวณรอบรั้วบ้านแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้เคยมีคนร้ายปาก้อนหิน ปลาร้า และอุจจาระ เข้ามาภายในบริเวณบ้านของนายกรัฐมนตรีมาแล้วหลายครั้ง
ตรวจกล้องวงจรปิดรอบบ้านนายกฯ เจอคนร้ายสวมหมวกปิดหน้า เตรียมออกหมายจับ
พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผบก.น.5 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายปาของเสียเข้าไปในบริเวณบ้านนายกรัฐมนตรีเมื่อช่วงเที่ยงได้กำชับไปยังฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ และกก.สส.บก.น.5 ให้ติดตามผู้ที่ก่อเหตุ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดรอบบริเวณพบภาพคนร้ายก่อเหตุเพียง 1 คน สวมหมวกปิดหน้า ยังไม่ชัดเจนว่า เป็นหญิงหรือชาย เป็นใครมาจากไหนเดินเข้ามา ใช้รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ตอนนี้ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว อยู่ระหว่างการสแกนและดึงภาพ เนื่องจากยังไม่ชัดเจน ขอเวลาในการสืบสวนสอบสวนก่อน จากนั้นจะภาพสเก็ตซ์คนร้ายและขอหมายจับต่อไป คงไม่ยาก สามารถติดตามจับกุมได้อย่างแน่นอน ส่วนมาตรการคุมเข้มบ้านพักนายกรัฐมนตรีและบุคคลสำคัญ บช.น.ดำเนินการตามแผนมาโดยตลอด สนธิกำลังหลายหน่วยทั้งตำรวจท้องที่ บก.สปพ. บก.ป. และบช.ส. ดูแลเต็มที่ หากสั่งเพิ่มกำลังคุมเข้มก็พร้อมดำเนินการทันที
ขณะที่เวลา 13.00 น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผบก.น.5 พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.บก.น.5 พร้อมตำรวจ สน.ทองหล่อ เข้าตรวจสอบเหตุปาก้อนอิฐ และถุงน้ำปลาร้า ใส่บ้านพักนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซอยสุขุมวิท 31 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตวัฒนา กทม. ในช่วงเวลาไล่เรียงกันที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าทำข่าว ขณะเกิดเหตุนายอภิสิทธิ์ ไม่อยู่ในบ้านพัก มีเพียงคนรับใช้อยู่ในอาการตื่นตระหนก ส่วนทรัพย์สินไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ทั้งนี้รอบบ้านจะมีกำลังตำรวจจาก บก.สปพ. สายตรวจสน.ทองหล่อ และสารวัตรทหาร รวมประมาณ 20 นาย รักษาความปลอดภัยอยู่
ด้านตำรวจซึ่งเข้าเวรรักษาความปลอดภัยจำนวนหนึ่ง เปิดเผยว่า มีการขว้างปาอุจจาระ และก้อนหิน ใส่บ้านพักนายกรัฐมนตรีเป็นประจำ ซึ่งเจ้าหน้าที่มักจะได้แค่มองดู เพราะหลังก่อเหตุคนร้ายจะหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เป็นปกติ ที่มีทั้งคนรักและคนเกลียด
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. กล่าวถึงมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยบ้านพักนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในซอยสุขุมวิท 31 หลังเกิดเหตุปาถุงอุจจาระ เข้าไปในบ้านพัก ว่า ตำรวจมีมาตรการดูแลความปลอดภัยบ้านพักนายกรัฐมนตรีอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว แต่หลังเกิดเหตุการเช่นนี้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจสันติบาล(บช.ส.) ประสานงานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)และหน่วยข่าวกรอง ร่วมกันวางมาตรการเพิ่มเติมในการดูแลทั้งที่บ้านพัก ความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี และติดตามการข่าวเพิ่มเติม
โฆษก ตร. กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.ปทีป สั่งการให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดูแลคดีด้วยตนเองทันที ได้ประชุมพนักงานสืบสวนสอบสวนที่ สน.ทองหล่อ เชื่อว่า น่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ไม่ยากเพราะมีภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพคนร้ายได้ค่อนข้างชัดเจน เชื่อว่าหลังการประชุมจะแถลงผลต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการคาดโทษเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า เป็นกำลังผสมหลายหน่วยทั้งตำรวจและทหารคงไม่มีการคาดโทษ แต่เป็นการประชุมหารือร่วมกันเพื่อวางมาตรการเพิ่มเติมไม่ให้เกิดเหตุการณ์อีก ส่วนความบกพร่องในการทำหน้าที่ต้องวางมาตรการป้องกันให้เข้มงวดขึ้น
