พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี
"พัลลภ" รับไม่ได้ พวกเดียวกันด่า อัดเป็นรุ่นพ่อ "จตุพร" แต่ถูกหยามเกียรติ ขอยุติบทบาท เป็นแค่คนดู หากเสื้อแดงแตกกระเจิงเหมือน เม.ย. 52 อย่าเรียกให้ช่วย "เสธ.แดง" จี้ "ตู่" รีบ ขอโทษ ย้ำเป็นนโยบายทักษิณ...
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่บ้านพักซอยโชคชัย 4 พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย เปิดใจหลังเดินทางกลับจากการพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถึงการจัดตั้งกองทัพประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กปช.) ที่ถูกแกนนำเสื้อแดง และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาปฏิเสธแนวความคิด ว่า จากเหตุการณ์เมื่อเดือน เม.ย. ที่กลุ่มคนเสื้อแดง ต้องถูกล้อมป่าแบบแตกกระเจิงไม่เป็นขบวน วันนั้นมีผู้ใหญ่หลายท่าน รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ โทรศัพท์มาหาตน 2 ครั้ง เพื่อขอให้เข้ามาช่วย ซึ่งตนก็บอกไปว่า คงช่วยไม่ได้เพราะแตกแบบไม่เป็นรูปขบวน และไม่ได้เตรียมการเอาไว้
สำหรับ การช่วยเหลือของตนในวันนี้ เมื่อแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศว่าภายในเดือน ก.พ.หรือเดือน มี.ค.จะใช้มวลชนเป็นล้านคนเข้ามาใน กทม. ซึ่งตนมองว่าจะหลีกเลี่ยงความรุนแรงไปไม่ได้ และไม่อยากเห็นคนไทยฆ่าคนไทย ซึ่งก่อนไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนได้พบ พล.อ.ชวลิต ซึ่งตนมองว่าคนที่จะแก้ปัญหาประเทศไม่ให้คนไทยฆ่าคนไทยมีเพียง พล.อ.ชวลิต คนเดียวเพราะท่านมีบารมี และมีลักษณะประนีประนอม จึงคิดว่าสามารถพูดกับมวลชน และกองทัพเสื้อแดงได้ จึงไปหาและพูดคุยถึงแนวความคิดนี้
พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ได้คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่บ้านพักช่วงเย็นๆ โดยมีนักธุรกิจอยู่ด้วย ตนจึงขายไอเดียเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็อยากเห็นสันติ ไม่อยากเห็นคนไทยต้องมาฆ่าฟันกันเอง ตนจึงบอกว่าได้พบกับ พล.อ.ชวลิต แล้วและขอให้ท่านเป็นผู้นำกองทัพประชาชน ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็บอกว่าดีและเห็นด้วย ทั้งนี้ ตนยอมรับผิดแทนที่จะใช้กองกำลังประชาชน แต่กลับไปใช้คำว่ากองทัพประชาชน และที่ตนใช้กองทัพประชาชน เพราะมีประชาชนที่เป็นกลางอยู่เยอะ หากไปจำกัดคนเสื้อแดงก็มีแค่จำนวนหนึ่ง ซึ่งหากเป็นกองทัพประชาชนก็อาจมีคนเข้ามารวมกัน จึงอยากใช้คำว่ากองทัพประชาชนเพื่อประชาชนแห่งชาติ เมื่อเป็นกองทัพประชาชน พล.อ.ชวลิต ก็ต้องเป็นผู้นำสูงสุด และมีการสื่อสารผิดจากผู้นำสูงสุดกลายเป็น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด จึงกลายเป็นเรื่องขึ้นมา
ส่วนการที่แกนนำเสื้อแดงปฏิเสธที่จะรับแนวคิดนี้แม้จะพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วก็ตามนั้น พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ออกมาพูดคล้ายๆว่า พวก พล.อ.พัลลภ ไม่เกี่ยวซึ่งนั่นหมายถึงพ.ต.ท.ทักษิณ และ พล.อ.ชวลิต ว่าไม่เกี่ยว ทั้งๆที่ได้คุยกับนายจตุพร ถึง 2 ครั้ง แต่ยังไม่ได้คุยกับนายวีระ มุสิกพงษ์ ทั้งนี้ ตนตั้งใจจะพูดคุบกับนายวีระ และนายจตุพร อีกครั้ง แต่เมื่อวานนี้ แกนนำออกมาตัดรอน เมื่อเขาประกาศว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เกี่ยวกันก็จบ
“ผมนอนคิดทั้งคืนในฐานะที่ผมเป็นรุ่นพ่อของเขา งานแบบนี้ ผมทำมาก่อน ทั้งงานสนามรบในประเทศ และนอกประเทศ หรืองานมวลชนใน กทม. เมื่อเขาตัดรอนและไม่ได้ว่าผมคนเดียว แต่ว่าไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ และ พล.อ.ชวลิต ด้วย ผมจึงตัดสินใจว่า ผมจะอยู่เฉย ๆ จะดูเขา และปล่อยให้เขาดำเนินการ ผมจะไม่ยุ่งเกี่ยว ถ้าเกิดเหตุเหมือนช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาก็อย่ามาเรียกกัน เพราะผมช่วยอะไรไม่ได้ ส่วนสถานะภาพในพรรคเพื่อไทย ก็คงทำหน้าที่ไม่เกี่ยวกัน วันนี้เขากลัวผมจะมาชิงการนำ ซึ่งผมไม่เคยคิดเลย แต่ผมจะดูแลเรื่องความปลอดภัยให้” พล.อ.พัลลภ กล่าว
เมื่อถามว่า แสดงว่าการตัดสินใจไม่ยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มคนเสื้อแดง แต่เป็นเพราะ 3 เกลอไม่ให้เกียรติ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ไม่ใช่ ไม่ให้เกียรติ แต่ไม่รับเข้ามาเป็นพวกเลย ตนไม่ได้ว่าอะไร แต่เขาพูดไปถึง พล.อ.ชวลิต และ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย เมื่อถามว่าน้อยใจหรือไม่ ทั้งๆ ที่อาสาเข้ามาช่วยแต่กลับเจอเรื่องแบบนี้ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า คนแก่ความน้อยใจมีเยอะไปตามวัย แต่ว่าคนอื่นมาด่า โดยเฉพาะคอลัมน์ต่างๆ ตนไม่สนใจ เพราะหนักแน่ แต่พวกเดียวกันและคุยกันแล้วมาด่ากัน มันไม่ได้ ตนถือ เมื่อถามว่า ได้คุยกัน พล.อ.ชวลิต หรือยัง พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ยังเพราะเพิ่งตัดสินใจและนอนคิดทั้งคืน ว่าจะโทรศัพท์ไปหา หากเจอหรือได้พูดคุยจะบอกกับท่านว่า ตนจะนั่งดูเฉย ๆ แต่ถ้าแกนนำคนเสื้อแดงมาขอโทษก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะถือว่าตนเป็นรุ่นพ่อเขา แต่ถ้าโทรมาก็จะคุยด้วย
"การต่อสู้มองข้ามถึงเรื่องยึดทรัพย์ไปแล้ว คนไทยสามารถทนได้ทุกอย่าง แต่สิ่งเดียวที่ทนไม่ได้คือ ความอยุติธรรม ดังนั้น คนที่มาชุมนุมอยากจะเรียกร้องคือให้รัฐบาลลาออกเกิดการเลือกตั้งใหม่ ต้องการแค่นั้น ผมพูดคุยกับน้องๆว่า ผมทำปฏิวัติฯมาหลายหนมีทั้งแพ้ ทั้งชนะ แต่สิ่งที่ผมทำเหมือนเป็นกรรมการฟุตบอล เพราะคุณเล่นออฟไซด์ เล่นผิดกติกา ผมก็เป่านกหวีดให้หยุดและเขี่ยลูกให้คุณเล่น ในชีวิตไม่เคยมีผลประโยชน์ปฏิวัติมา 3 ครั้ง ชนะ 2 แพ้ 1 ที่ทำปฏิวัติไม่เคยเบิกเงินหลวง" พล.อ.พัลลภ กล่าว
เมื่อถามว่า สถานการณ์ขณะนี้จะมีการปฏิวัติหรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า การปฏิวัติรับประกันไม่ได้ ถ้าบอกว่ามันไม่เกิด มันก็เกิด มันเกิดมาหลายครั้งแล้ว ผู้ที่มีอำนาจกลัวสูญเสียอำนาจก็เป็นไปได้ที่จะเกิดปฏิวัติ แต่ขอเตือนเลยว่า หากเกิดขึ้นไม่ง่ายเหมือน 19 ก.ย. 2549 เพราะจะมีการต่อสู้กันระหว่างทหารกับทหาร และ ทหารกับประชาชน
ทางด้าน พล. ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ยุติบทบาทว่า อาจเกิดความน้อยใจ ที่ถูกนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. โจมตีกรณีออกมาเปิดเผยเรื่องกองกำลังประชาชน ซึ่งนายจตุพร อาจไม่เข้าใจ เลยไปต่อว่า พล.อ.พัลลภ ทำให้ผู้ใหญ่น้อยใจ เพราะฉะนั้นอยากให้ไปขอโทษ เพราะเป็นเด็กรุ่นลูก ที่สำคัญกองทัพประชาชน เป็นนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งวางแผนให้ทำแบบนี้
"เมื่อทราบว่านายจตุพร โทรศัพท์ไปด่านายสุพร อัตถาวงศ์ (แรมโบ้อีสาน) ทำให้มันเครียดและหงอย เพราะแรมโบ้ รัก จตุพร แต่พอ เสธ.แดง ให้กำลังใจว่าอย่าตกใจ ขอให้ดูเรื่องพาวเวอร์ เพล์ย เป็นตัวอย่าง หลังจากที่กองทัพแดงชนะ เราก็สามารถจับจตุพร ไว้ในขั้นตอนสุดท้าย พอแรมโบ้ฟังถึงกับตบขาฉาดใหญ่ด้วยความสะใจที่ได้ฟังผมอธิบาย"
พล.ต. ขัตติยะ กล่าวว่า ได้อธิบายต่อว่า นายจตุพร ไม่มีกำลังอยู่ในมือ เพราะคุมประชาชนที่ไม่มีอาวุธ แต่เรา เป็นกลุ่มที่เป็นกองกำลังติดอาวุธ เราต้องไปห้ามไม่ให้ฆ่าประชาชน เราเห็นว่า นายจตุพร ไม่มีความหมายสำหรับเรา ต่อไปพอแถลงข่าวก็จะกลายเป็น วีระ มุสิกพงษ์ แรมโบ้ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไม่จำเป็นต้องมี จตุพร เพราะฉะนั้น จึงขอให้ นายจตุพร ทำงานร่วมกัน กลุ่มฮาร์ดคอร์ ที่มี นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง และ นายสุพร อัตถาวงศ์ ต่อไป เพราะนายอริสมันต์ เคยช่วย นายจตุพร ไม่ให้ถูกโยนจาก ฮ. ตอนที่ถูกจับมาแล้ว
ทั้งนี้ พล.ต.ขัตติยะ ยังเปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์มาหา พล.อ.ชวลิต หลังแถลงข่าว ว่าให้เดินหน้าต่อ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ให้อิสระ พล.อ.ชวลิต ส่วนการกลับประเทศ จะให้ พล.อ.ชวลิต เป็นคนคิด และดำเนินการทั้งหมด โดยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ น่ารักมาก ไม่พูดเลยว่าให้ตนเองกลับไปเป็นนายกฯ
"ฉะนั้นแนวทางนี้ต้องเดินหน้าต่อ ผมบอกแล้วว่า พี่จิ๋ว เป็นพระราม พี่พัลลภ เป็นพระลักษณ์ ส่วนผมเป็นหนุมาน ในการต่อสู้ 2 คน นั้นเ ขาไม่ได้รบเอง เวลาจะเดินไปแต่ละก้าวจะเชื่องช้า กว่าจะยิงธนูแต่ละครั้งต้องใช้เวลา เพราะฉะนั้น พี่จิ๋ว จะปฏิเสธไม่ได้ เพราะเป็นคนที่มีบารมีที่สุดในประเทศไทย ที่จะยับยั้งไม่ให้ทหารยิง เหมือนนโปเลียนเรียกทหารอีกฝ่ายมาอยู่ข้างหลังหมด โดยทหารทั้งหมดถูกเรียกว่า my son ทหารไม่มีใครยิงนโปเลียนเลย เพราะฉะนั้น การต่อสู้ของบิ๊กจิ๋ว ทำได้อย่างถูกต้องเต็มที่ ท่านจะปฏิเสธการเป็นผู้นำไม่ได้ เพราะหนุมานคงไม่ยอมแน่ เราตกลงกันแล้วว่า พล.อ.พัลลภ จะล็อคแขนขวา พล.ท.พิรัช สวามิวัศดิ์ จะล็อกแขนซ้ายไว้" พล.ต.ขัตติยะ กล่าว
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า แม้ พล.อ.พัลลภ จะน้อยใจที่ถูกนายจตุพร ด่า และ โทรศัพท์ มาให้ตนหยุดเหมือนกัน แต่ท่านบอกว่า หยุดบนดิน แต่ใต้ดินต้องทำต่อไป เพราะว่าต้องทำตามนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ เหตุที่ นายจตุพร ออกมาเช่นนี้ เพราะไม่ได้โทรศัพท์ถาม พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะฉะนั้น ยังเชื่อว่า นายจตุพร จะเข้าใจได้ ม็อบเสื้อแดงเกิดจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ประชาชนไม่ได้มาเพราะนายจตุพร ถ้าเขาเครื่องบินตกหรือรถชน ม็อบแดงก็ยังอยู่ หรือ เสธ.แดง ตาย ม็อบแดงก็ยังอยู่ เพราะม็อบแดง เรียกร้องประชาธิปไตย ทำลายอำมาตยาธิปไตย สองมาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม เมื่อทำความเข้าใจแล้ว ขั้นตอนแรก พล.อ.ชวลิต ต้องนำการต่อสู้ ขั้นที่สองครอบครัวทหารแข็งขืน และถือป้ายประท้วง ขั้นที่สาม ทหารไม่ออกมาจากค่ายตามคำสั่ง ขั้นที่สี่ ถ้าทหารออกมายิง ก็จะใช้ทหารพรานเข้าตอบโต้
"พัลลภ" รับไม่ได้ พวกเดียวกันด่า อัดเป็นรุ่นพ่อ "จตุพร" แต่ถูกหยามเกียรติ ขอยุติบทบาท เป็นแค่คนดู หากเสื้อแดงแตกกระเจิงเหมือน เม.ย. 52 อย่าเรียกให้ช่วย "เสธ.แดง" จี้ "ตู่" รีบ ขอโทษ ย้ำเป็นนโยบายทักษิณ...
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่บ้านพักซอยโชคชัย 4 พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย เปิดใจหลังเดินทางกลับจากการพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถึงการจัดตั้งกองทัพประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กปช.) ที่ถูกแกนนำเสื้อแดง และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาปฏิเสธแนวความคิด ว่า จากเหตุการณ์เมื่อเดือน เม.ย. ที่กลุ่มคนเสื้อแดง ต้องถูกล้อมป่าแบบแตกกระเจิงไม่เป็นขบวน วันนั้นมีผู้ใหญ่หลายท่าน รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ โทรศัพท์มาหาตน 2 ครั้ง เพื่อขอให้เข้ามาช่วย ซึ่งตนก็บอกไปว่า คงช่วยไม่ได้เพราะแตกแบบไม่เป็นรูปขบวน และไม่ได้เตรียมการเอาไว้
สำหรับ การช่วยเหลือของตนในวันนี้ เมื่อแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศว่าภายในเดือน ก.พ.หรือเดือน มี.ค.จะใช้มวลชนเป็นล้านคนเข้ามาใน กทม. ซึ่งตนมองว่าจะหลีกเลี่ยงความรุนแรงไปไม่ได้ และไม่อยากเห็นคนไทยฆ่าคนไทย ซึ่งก่อนไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนได้พบ พล.อ.ชวลิต ซึ่งตนมองว่าคนที่จะแก้ปัญหาประเทศไม่ให้คนไทยฆ่าคนไทยมีเพียง พล.อ.ชวลิต คนเดียวเพราะท่านมีบารมี และมีลักษณะประนีประนอม จึงคิดว่าสามารถพูดกับมวลชน และกองทัพเสื้อแดงได้ จึงไปหาและพูดคุยถึงแนวความคิดนี้
พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ได้คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่บ้านพักช่วงเย็นๆ โดยมีนักธุรกิจอยู่ด้วย ตนจึงขายไอเดียเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็อยากเห็นสันติ ไม่อยากเห็นคนไทยต้องมาฆ่าฟันกันเอง ตนจึงบอกว่าได้พบกับ พล.อ.ชวลิต แล้วและขอให้ท่านเป็นผู้นำกองทัพประชาชน ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็บอกว่าดีและเห็นด้วย ทั้งนี้ ตนยอมรับผิดแทนที่จะใช้กองกำลังประชาชน แต่กลับไปใช้คำว่ากองทัพประชาชน และที่ตนใช้กองทัพประชาชน เพราะมีประชาชนที่เป็นกลางอยู่เยอะ หากไปจำกัดคนเสื้อแดงก็มีแค่จำนวนหนึ่ง ซึ่งหากเป็นกองทัพประชาชนก็อาจมีคนเข้ามารวมกัน จึงอยากใช้คำว่ากองทัพประชาชนเพื่อประชาชนแห่งชาติ เมื่อเป็นกองทัพประชาชน พล.อ.ชวลิต ก็ต้องเป็นผู้นำสูงสุด และมีการสื่อสารผิดจากผู้นำสูงสุดกลายเป็น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด จึงกลายเป็นเรื่องขึ้นมา
ส่วนการที่แกนนำเสื้อแดงปฏิเสธที่จะรับแนวคิดนี้แม้จะพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วก็ตามนั้น พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ออกมาพูดคล้ายๆว่า พวก พล.อ.พัลลภ ไม่เกี่ยวซึ่งนั่นหมายถึงพ.ต.ท.ทักษิณ และ พล.อ.ชวลิต ว่าไม่เกี่ยว ทั้งๆที่ได้คุยกับนายจตุพร ถึง 2 ครั้ง แต่ยังไม่ได้คุยกับนายวีระ มุสิกพงษ์ ทั้งนี้ ตนตั้งใจจะพูดคุบกับนายวีระ และนายจตุพร อีกครั้ง แต่เมื่อวานนี้ แกนนำออกมาตัดรอน เมื่อเขาประกาศว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เกี่ยวกันก็จบ
“ผมนอนคิดทั้งคืนในฐานะที่ผมเป็นรุ่นพ่อของเขา งานแบบนี้ ผมทำมาก่อน ทั้งงานสนามรบในประเทศ และนอกประเทศ หรืองานมวลชนใน กทม. เมื่อเขาตัดรอนและไม่ได้ว่าผมคนเดียว แต่ว่าไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ และ พล.อ.ชวลิต ด้วย ผมจึงตัดสินใจว่า ผมจะอยู่เฉย ๆ จะดูเขา และปล่อยให้เขาดำเนินการ ผมจะไม่ยุ่งเกี่ยว ถ้าเกิดเหตุเหมือนช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาก็อย่ามาเรียกกัน เพราะผมช่วยอะไรไม่ได้ ส่วนสถานะภาพในพรรคเพื่อไทย ก็คงทำหน้าที่ไม่เกี่ยวกัน วันนี้เขากลัวผมจะมาชิงการนำ ซึ่งผมไม่เคยคิดเลย แต่ผมจะดูแลเรื่องความปลอดภัยให้” พล.อ.พัลลภ กล่าว
เมื่อถามว่า แสดงว่าการตัดสินใจไม่ยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มคนเสื้อแดง แต่เป็นเพราะ 3 เกลอไม่ให้เกียรติ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ไม่ใช่ ไม่ให้เกียรติ แต่ไม่รับเข้ามาเป็นพวกเลย ตนไม่ได้ว่าอะไร แต่เขาพูดไปถึง พล.อ.ชวลิต และ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย เมื่อถามว่าน้อยใจหรือไม่ ทั้งๆ ที่อาสาเข้ามาช่วยแต่กลับเจอเรื่องแบบนี้ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า คนแก่ความน้อยใจมีเยอะไปตามวัย แต่ว่าคนอื่นมาด่า โดยเฉพาะคอลัมน์ต่างๆ ตนไม่สนใจ เพราะหนักแน่ แต่พวกเดียวกันและคุยกันแล้วมาด่ากัน มันไม่ได้ ตนถือ เมื่อถามว่า ได้คุยกัน พล.อ.ชวลิต หรือยัง พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ยังเพราะเพิ่งตัดสินใจและนอนคิดทั้งคืน ว่าจะโทรศัพท์ไปหา หากเจอหรือได้พูดคุยจะบอกกับท่านว่า ตนจะนั่งดูเฉย ๆ แต่ถ้าแกนนำคนเสื้อแดงมาขอโทษก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะถือว่าตนเป็นรุ่นพ่อเขา แต่ถ้าโทรมาก็จะคุยด้วย
"การต่อสู้มองข้ามถึงเรื่องยึดทรัพย์ไปแล้ว คนไทยสามารถทนได้ทุกอย่าง แต่สิ่งเดียวที่ทนไม่ได้คือ ความอยุติธรรม ดังนั้น คนที่มาชุมนุมอยากจะเรียกร้องคือให้รัฐบาลลาออกเกิดการเลือกตั้งใหม่ ต้องการแค่นั้น ผมพูดคุยกับน้องๆว่า ผมทำปฏิวัติฯมาหลายหนมีทั้งแพ้ ทั้งชนะ แต่สิ่งที่ผมทำเหมือนเป็นกรรมการฟุตบอล เพราะคุณเล่นออฟไซด์ เล่นผิดกติกา ผมก็เป่านกหวีดให้หยุดและเขี่ยลูกให้คุณเล่น ในชีวิตไม่เคยมีผลประโยชน์ปฏิวัติมา 3 ครั้ง ชนะ 2 แพ้ 1 ที่ทำปฏิวัติไม่เคยเบิกเงินหลวง" พล.อ.พัลลภ กล่าว
เมื่อถามว่า สถานการณ์ขณะนี้จะมีการปฏิวัติหรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า การปฏิวัติรับประกันไม่ได้ ถ้าบอกว่ามันไม่เกิด มันก็เกิด มันเกิดมาหลายครั้งแล้ว ผู้ที่มีอำนาจกลัวสูญเสียอำนาจก็เป็นไปได้ที่จะเกิดปฏิวัติ แต่ขอเตือนเลยว่า หากเกิดขึ้นไม่ง่ายเหมือน 19 ก.ย. 2549 เพราะจะมีการต่อสู้กันระหว่างทหารกับทหาร และ ทหารกับประชาชน
ทางด้าน พล. ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ยุติบทบาทว่า อาจเกิดความน้อยใจ ที่ถูกนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. โจมตีกรณีออกมาเปิดเผยเรื่องกองกำลังประชาชน ซึ่งนายจตุพร อาจไม่เข้าใจ เลยไปต่อว่า พล.อ.พัลลภ ทำให้ผู้ใหญ่น้อยใจ เพราะฉะนั้นอยากให้ไปขอโทษ เพราะเป็นเด็กรุ่นลูก ที่สำคัญกองทัพประชาชน เป็นนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งวางแผนให้ทำแบบนี้
"เมื่อทราบว่านายจตุพร โทรศัพท์ไปด่านายสุพร อัตถาวงศ์ (แรมโบ้อีสาน) ทำให้มันเครียดและหงอย เพราะแรมโบ้ รัก จตุพร แต่พอ เสธ.แดง ให้กำลังใจว่าอย่าตกใจ ขอให้ดูเรื่องพาวเวอร์ เพล์ย เป็นตัวอย่าง หลังจากที่กองทัพแดงชนะ เราก็สามารถจับจตุพร ไว้ในขั้นตอนสุดท้าย พอแรมโบ้ฟังถึงกับตบขาฉาดใหญ่ด้วยความสะใจที่ได้ฟังผมอธิบาย"
พล.ต. ขัตติยะ กล่าวว่า ได้อธิบายต่อว่า นายจตุพร ไม่มีกำลังอยู่ในมือ เพราะคุมประชาชนที่ไม่มีอาวุธ แต่เรา เป็นกลุ่มที่เป็นกองกำลังติดอาวุธ เราต้องไปห้ามไม่ให้ฆ่าประชาชน เราเห็นว่า นายจตุพร ไม่มีความหมายสำหรับเรา ต่อไปพอแถลงข่าวก็จะกลายเป็น วีระ มุสิกพงษ์ แรมโบ้ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไม่จำเป็นต้องมี จตุพร เพราะฉะนั้น จึงขอให้ นายจตุพร ทำงานร่วมกัน กลุ่มฮาร์ดคอร์ ที่มี นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง และ นายสุพร อัตถาวงศ์ ต่อไป เพราะนายอริสมันต์ เคยช่วย นายจตุพร ไม่ให้ถูกโยนจาก ฮ. ตอนที่ถูกจับมาแล้ว
ทั้งนี้ พล.ต.ขัตติยะ ยังเปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์มาหา พล.อ.ชวลิต หลังแถลงข่าว ว่าให้เดินหน้าต่อ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ให้อิสระ พล.อ.ชวลิต ส่วนการกลับประเทศ จะให้ พล.อ.ชวลิต เป็นคนคิด และดำเนินการทั้งหมด โดยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ น่ารักมาก ไม่พูดเลยว่าให้ตนเองกลับไปเป็นนายกฯ
"ฉะนั้นแนวทางนี้ต้องเดินหน้าต่อ ผมบอกแล้วว่า พี่จิ๋ว เป็นพระราม พี่พัลลภ เป็นพระลักษณ์ ส่วนผมเป็นหนุมาน ในการต่อสู้ 2 คน นั้นเ ขาไม่ได้รบเอง เวลาจะเดินไปแต่ละก้าวจะเชื่องช้า กว่าจะยิงธนูแต่ละครั้งต้องใช้เวลา เพราะฉะนั้น พี่จิ๋ว จะปฏิเสธไม่ได้ เพราะเป็นคนที่มีบารมีที่สุดในประเทศไทย ที่จะยับยั้งไม่ให้ทหารยิง เหมือนนโปเลียนเรียกทหารอีกฝ่ายมาอยู่ข้างหลังหมด โดยทหารทั้งหมดถูกเรียกว่า my son ทหารไม่มีใครยิงนโปเลียนเลย เพราะฉะนั้น การต่อสู้ของบิ๊กจิ๋ว ทำได้อย่างถูกต้องเต็มที่ ท่านจะปฏิเสธการเป็นผู้นำไม่ได้ เพราะหนุมานคงไม่ยอมแน่ เราตกลงกันแล้วว่า พล.อ.พัลลภ จะล็อคแขนขวา พล.ท.พิรัช สวามิวัศดิ์ จะล็อกแขนซ้ายไว้" พล.ต.ขัตติยะ กล่าว
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า แม้ พล.อ.พัลลภ จะน้อยใจที่ถูกนายจตุพร ด่า และ โทรศัพท์ มาให้ตนหยุดเหมือนกัน แต่ท่านบอกว่า หยุดบนดิน แต่ใต้ดินต้องทำต่อไป เพราะว่าต้องทำตามนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ เหตุที่ นายจตุพร ออกมาเช่นนี้ เพราะไม่ได้โทรศัพท์ถาม พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะฉะนั้น ยังเชื่อว่า นายจตุพร จะเข้าใจได้ ม็อบเสื้อแดงเกิดจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ประชาชนไม่ได้มาเพราะนายจตุพร ถ้าเขาเครื่องบินตกหรือรถชน ม็อบแดงก็ยังอยู่ หรือ เสธ.แดง ตาย ม็อบแดงก็ยังอยู่ เพราะม็อบแดง เรียกร้องประชาธิปไตย ทำลายอำมาตยาธิปไตย สองมาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม เมื่อทำความเข้าใจแล้ว ขั้นตอนแรก พล.อ.ชวลิต ต้องนำการต่อสู้ ขั้นที่สองครอบครัวทหารแข็งขืน และถือป้ายประท้วง ขั้นที่สาม ทหารไม่ออกมาจากค่ายตามคำสั่ง ขั้นที่สี่ ถ้าทหารออกมายิง ก็จะใช้ทหารพรานเข้าตอบโต้
