"นิสัยสีม่วง"
สมาคมชาวเกย์ ผู้อนุรักษ์ป่าเดียวกันคงหูผึ่งที่ถูกฟาดหางพาดพิงเต็มๆ
กับบทตอบโต้แบบแสบๆคันๆที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ทวิตเตอร์บลัฟแหลกนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เจ้าของข้อมูลร้อนๆ ตรวจสอบพบการเคลื่อนไหวของเส้นทางเงินจากต่างประเทศ โยงกับเหตุการณ์ชุมนุมของคนเสื้อแดงในเมืองไทย
ข่าวใหญ่ พาดหัวยักษ์หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ
แน่นอนเมื่อเครดิตระดับนายปณิธาน อดีตนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย ในฐานะโฆษกรัฐบาล แย่งงานประจำในหน้าที่ของ "เดอะคึก" นายเทพไท เสนพงศ์ โทรโข่งประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
โดยมาตรฐานมัดคอ มันจึงไม่จบแค่ "ปล่อยของ" กันลอยๆ
อาศัยเล่นบท "หน่วยข่าวไม่ได้กรอง" ตีกินรายวัน
ที่แน่ๆโดยจังหวะที่ "พลาดเปิดคาง" ของมวยอ่อนเชิงการเมืองอย่างนายปณิธาน ก็อย่างที่เปิดช่องให้เครือข่ายเสื้อแดงรุกไล่สวนหมัดกลับ นอกจากอดีตนายกฯทักษิณจะย้อนศร เป็นรัฐบาลมีอำนาจ ทำไมไม่จับ เอาหลักฐานมาแสดงให้ชัด
รับมุกส่งไม้กับ "ตุ๊ดตู่" นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ตั้งโต๊ะแถลงย้อนคอหอย
ถ้าไม่มีหลักฐานอะไร ไม่ควรมาพูด เพราะถ้าไม่จริง แค่ลาออกจากรองเลขาธิการนายกฯไม่พอ ควรลาออกจากความเป็นมนุษย์
ตบด้วยคิวของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. ถากถางนิ่มๆ จะออกมาพูดอะไรควรต้องมีหลักฐานให้ชัด ถ้าเห็นว่าผิดกฎหมายก็ควรดำเนินคดีตามกฎหมาย แม้สถานการณ์ตอนนี้ยอมรับว่าเป็นเรื่องของการต่อสู้จะต้องทิ่มแทงฝ่ายตรงข้าม
แต่ก็ควรจะใช้วิธีที่เป็นสุภาพบุรุษด้วย
สบช่องที่นายปณิธานเปิดคาง ลูกข่ายนายใหญ่แท็กทีมรัวหมัด สวนกลับเป็นชุด
สุดท้ายก็เดือดร้อนถึงมวยเชิงสูงอย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องโยนต้นทุนส่วนตัวออกมาวางเดิมพัน กระโดดออกหน้ามาช่วยการันตีอีกแรงหนึ่ง
ย้ำมีเบาะแสจริง และไม่มีเหตุผลอะไรจะไปใส่ร้าย
แต่คงไม่ได้นัดกันไว้ เพราะอีกทางหนึ่ง เมื่อโดนรุกย้อนคอหอยหนักเข้า นายปณิธานก็ออกอาการอ้อมๆแอ้มๆ ออกลูกชิ่ง ไม่เคยใส่ร้าย ไม่เคยโยงไปถึงบุคคลใด แต่ได้รับเบาะแสจากประชาชนและสมาชิกรัฐสภา เพื่อขอให้ตรวจสอบตัวเลขที่พบความผิดปกติตั้งแต่ปลายปี 2552 เป็นต้นมา
ซึ่งในช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้น จึงเริ่มมีการลงทุนมากขึ้น ดังนั้น อาจจะเป็นตัวเลขที่เป็นผลดีกับประเทศก็ได้
กระมิดกระเมี้ยน เบี่ยงตัวเลี่ยงกันทื่อๆ
ทั้งหมดทั้งปวง มันเป็นอะไรที่สะท้อนกระแสมุมกลับ โดยยุทธศาสตร์ ของฝ่ายถืออำนาจ โดยเฉพาะทีมงานประชาธิปัตย์และขุมข่ายม็อบพันธมิตรฯ ที่ออกมาโหมกระแสตีปี๊บ
ปั่นภาพความรุนแรง ผสมโรงเกมรบใหญ่ของม็อบเสื้อแดง
ไม่ว่าจะเป็นคิว "หน่วยข่าวไม่ได้กรอง" ปล่อยข้อมูลร้อนๆแหลมๆออกมารายวัน การ "ปล่อยของ" ผ่านสื่อของรัฐแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ถ้าเฝือจนเกินธรรมชาติของฝ่ายคุมอำนาจรัฐ ผิดวิสัยของผู้มีหน้าที่คอยป้องกัน
ควันจางก็ชัดว่า ใครที่กระพือไฟ
ยิ่งเป็นอะไรที่เคลียร์ฉาก เปลี่ยนตอนจบกันใหม่ คนเสื้อแดงอาศัยจังหวะแตกคอสลัดทิ้งหน่วยฮาร์ดคอร์ เหลือแต่ฝ่ายมวลชนที่สู้เพื่อทวงคืนประชาธิปไตยยึดธงนำ
ตามยุทธศาสตร์ดึงความชอบธรรมกลับมา
สรุปว่า ประชาธิปัตย์นั่นแหละที่กำลังเต้นเกินเกม อาการเหมือนพะว้าพะวัง
กลัวล็อกอำนาจในมือไม่อยู่
เพราะอีกฉากหนึ่ง หันไปที่เกมการเมืองในสภาฯ กับสัญญาณจากคิวที่ "บิ๊กเติ้ง" นายบรรหาร ศิลปอาชา บอสใหญ่พรรคชาติไทยพัฒนา แตะมือแท็กทีมกับยี่ห้อ "เนวิน ชิดชอบ" ครูใหญ่ค่ายภูมิใจไทย เดินเกมแรงขึ้นเป็นลำดับ
รับกับข่าว "พลิกขั้ว" กลับไปอยู่กับฝั่งของพรรคเพื่อไทย
เอาเป็นว่า เกมอำนาจมาถึงนาทีนี้ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ แม้แต่การจบแบบหักมุม ตามหมากของฝ่ายคุมเกมประเทศไทย
คนเสื้อแดงพลิกจับมือกับฝ่ายเสื้อเหลืองสายที่ไม่มีผลประโยชน์การเมืองแอบแฝง
หารันเวย์แลนดิ้งแบบไม่ต้องเจ็บตัวมากทั้งสองฝ่าย.
ทีมข่าวการเมือง
สมาคมชาวเกย์ ผู้อนุรักษ์ป่าเดียวกันคงหูผึ่งที่ถูกฟาดหางพาดพิงเต็มๆ
กับบทตอบโต้แบบแสบๆคันๆที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ทวิตเตอร์บลัฟแหลกนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เจ้าของข้อมูลร้อนๆ ตรวจสอบพบการเคลื่อนไหวของเส้นทางเงินจากต่างประเทศ โยงกับเหตุการณ์ชุมนุมของคนเสื้อแดงในเมืองไทย
ข่าวใหญ่ พาดหัวยักษ์หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ
แน่นอนเมื่อเครดิตระดับนายปณิธาน อดีตนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย ในฐานะโฆษกรัฐบาล แย่งงานประจำในหน้าที่ของ "เดอะคึก" นายเทพไท เสนพงศ์ โทรโข่งประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
โดยมาตรฐานมัดคอ มันจึงไม่จบแค่ "ปล่อยของ" กันลอยๆ
อาศัยเล่นบท "หน่วยข่าวไม่ได้กรอง" ตีกินรายวัน
ที่แน่ๆโดยจังหวะที่ "พลาดเปิดคาง" ของมวยอ่อนเชิงการเมืองอย่างนายปณิธาน ก็อย่างที่เปิดช่องให้เครือข่ายเสื้อแดงรุกไล่สวนหมัดกลับ นอกจากอดีตนายกฯทักษิณจะย้อนศร เป็นรัฐบาลมีอำนาจ ทำไมไม่จับ เอาหลักฐานมาแสดงให้ชัด
รับมุกส่งไม้กับ "ตุ๊ดตู่" นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ตั้งโต๊ะแถลงย้อนคอหอย
ถ้าไม่มีหลักฐานอะไร ไม่ควรมาพูด เพราะถ้าไม่จริง แค่ลาออกจากรองเลขาธิการนายกฯไม่พอ ควรลาออกจากความเป็นมนุษย์
ตบด้วยคิวของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. ถากถางนิ่มๆ จะออกมาพูดอะไรควรต้องมีหลักฐานให้ชัด ถ้าเห็นว่าผิดกฎหมายก็ควรดำเนินคดีตามกฎหมาย แม้สถานการณ์ตอนนี้ยอมรับว่าเป็นเรื่องของการต่อสู้จะต้องทิ่มแทงฝ่ายตรงข้าม
แต่ก็ควรจะใช้วิธีที่เป็นสุภาพบุรุษด้วย
สบช่องที่นายปณิธานเปิดคาง ลูกข่ายนายใหญ่แท็กทีมรัวหมัด สวนกลับเป็นชุด
สุดท้ายก็เดือดร้อนถึงมวยเชิงสูงอย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องโยนต้นทุนส่วนตัวออกมาวางเดิมพัน กระโดดออกหน้ามาช่วยการันตีอีกแรงหนึ่ง
ย้ำมีเบาะแสจริง และไม่มีเหตุผลอะไรจะไปใส่ร้าย
แต่คงไม่ได้นัดกันไว้ เพราะอีกทางหนึ่ง เมื่อโดนรุกย้อนคอหอยหนักเข้า นายปณิธานก็ออกอาการอ้อมๆแอ้มๆ ออกลูกชิ่ง ไม่เคยใส่ร้าย ไม่เคยโยงไปถึงบุคคลใด แต่ได้รับเบาะแสจากประชาชนและสมาชิกรัฐสภา เพื่อขอให้ตรวจสอบตัวเลขที่พบความผิดปกติตั้งแต่ปลายปี 2552 เป็นต้นมา
ซึ่งในช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้น จึงเริ่มมีการลงทุนมากขึ้น ดังนั้น อาจจะเป็นตัวเลขที่เป็นผลดีกับประเทศก็ได้
กระมิดกระเมี้ยน เบี่ยงตัวเลี่ยงกันทื่อๆ
ทั้งหมดทั้งปวง มันเป็นอะไรที่สะท้อนกระแสมุมกลับ โดยยุทธศาสตร์ ของฝ่ายถืออำนาจ โดยเฉพาะทีมงานประชาธิปัตย์และขุมข่ายม็อบพันธมิตรฯ ที่ออกมาโหมกระแสตีปี๊บ
ปั่นภาพความรุนแรง ผสมโรงเกมรบใหญ่ของม็อบเสื้อแดง
ไม่ว่าจะเป็นคิว "หน่วยข่าวไม่ได้กรอง" ปล่อยข้อมูลร้อนๆแหลมๆออกมารายวัน การ "ปล่อยของ" ผ่านสื่อของรัฐแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ถ้าเฝือจนเกินธรรมชาติของฝ่ายคุมอำนาจรัฐ ผิดวิสัยของผู้มีหน้าที่คอยป้องกัน
ควันจางก็ชัดว่า ใครที่กระพือไฟ
ยิ่งเป็นอะไรที่เคลียร์ฉาก เปลี่ยนตอนจบกันใหม่ คนเสื้อแดงอาศัยจังหวะแตกคอสลัดทิ้งหน่วยฮาร์ดคอร์ เหลือแต่ฝ่ายมวลชนที่สู้เพื่อทวงคืนประชาธิปไตยยึดธงนำ
ตามยุทธศาสตร์ดึงความชอบธรรมกลับมา
สรุปว่า ประชาธิปัตย์นั่นแหละที่กำลังเต้นเกินเกม อาการเหมือนพะว้าพะวัง
กลัวล็อกอำนาจในมือไม่อยู่
เพราะอีกฉากหนึ่ง หันไปที่เกมการเมืองในสภาฯ กับสัญญาณจากคิวที่ "บิ๊กเติ้ง" นายบรรหาร ศิลปอาชา บอสใหญ่พรรคชาติไทยพัฒนา แตะมือแท็กทีมกับยี่ห้อ "เนวิน ชิดชอบ" ครูใหญ่ค่ายภูมิใจไทย เดินเกมแรงขึ้นเป็นลำดับ
รับกับข่าว "พลิกขั้ว" กลับไปอยู่กับฝั่งของพรรคเพื่อไทย
เอาเป็นว่า เกมอำนาจมาถึงนาทีนี้ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ แม้แต่การจบแบบหักมุม ตามหมากของฝ่ายคุมเกมประเทศไทย
คนเสื้อแดงพลิกจับมือกับฝ่ายเสื้อเหลืองสายที่ไม่มีผลประโยชน์การเมืองแอบแฝง
หารันเวย์แลนดิ้งแบบไม่ต้องเจ็บตัวมากทั้งสองฝ่าย.
ทีมข่าวการเมือง
