บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ผบ.ทบ.โผล่ที่เพนตากอน สหรัฐ!!

ที่มา thaifreenews

โดย ป้าพลอย

<โหลดจากประชาไท>>


** ระหว่างฮึ่มๆ เรื่องการทำรัฐประหาร ผบ.ทบ.โผล่ที่เพนตากอน !! ** สหรัฐฯ ถูกลากเข้ามาร่วมสังฆกรรมกับฉากรัฐประหารอย่างช่วยไม่ได้
แปลและเรียบเรียง

สหรัฐฯ ถูกลากเข้ามาร่วมสังฆกรรมกับฉากรัฐประหารอย่างช่วยไม่ได้

กรุงเทพ ประเทศไทย – เมื่อวิกฤติการเมืองไทยร้อนแรงขึ้น เริ่มต้นด้วย: เกมของประเทศกับคำถามซึ่งมีการคาดการณ์อย่างเงียบเชียบ
เพียงข้อเดียวว่า กองทัพจะทำการรัฐประหารอีกครั้งหรือไม่

สำหรับขณะนี้ บุคคลที่กุมคำตอบทั้งหมดกำลังอยู่อีกซีกหนึ่งของโลก

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กำลังเดินทางไปเยือนเพนตากอนตั้งแต่วันที่ ๕-๑๒ กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่การทูตของสหรัฐฯกล่าวว่า
เป็นการเดินทางตามหมายกำหนดการที่ทำขึ้นก่อนหน้านี้หลายเดือนก่อน ตามคำขอของ พล.อ.จอร์จ เคซึ่ เสนาธิการทหารบกสหรัฐฯ

อนุพงษ์หายไปจากประเทศไทยในช่วงเวลาที่ยุ่งยากเช่นนี้ ซึ่งมีการร่ำลืออย่างหนาหูว่าจะเกิดรัฐประหาร การเยือนสหรัฐฯของนายพล
ระดับสูง ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้เป็นการลากเอาอเมริกา เข้ามาเกี่ยวข้องกับละครทางการเมืองไทยเมื่อไม่นานมานี้อย่างไม่ตั้งใจ

อนุพงษ์ถูกประจานจากกลุ่มต่อต้านรัฐบาลของไทย – หรือที่เรียกว่า “เสื้อแดง”
– ซึ่งถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาจากการทำรัฐประหารครั้งล่าสุดนี้ การทำรัฐประหารในปี ๒๕๔๙ ซึ่งปล้นอำนาจของนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร
ในขณะนั้น บุคคลซึ่งเป็นวีรบุรุษของชาวบ้านสำหรับคนยากจนตามชนบท เป็นบุคคลชนชั้นพ่อค้าเศรษฐีใหม่ และเป็นขวัญใจเกษตรกร
ของไทยทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวนนับล้านๆคน

นับตั้งแต่ฝ่ายต่อต้านนี้ประกาศว่าปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้จะเป็น “การต่อสู้ครั้งสุดท้าย” เพื่อล้มรัฐบาลที่กำลังบริหารประเทศอยู่ในขณะนี้
– ร่วมกับการขู่ที่จะล้อมค่ายทหาร และสถานที่ราชการต่างๆ
– สื่อไทยต่างคาดการณ์กันอย่างเปิดเผยว่า อาจจะเกิดรัฐประหาร จากจำนวนการทำรัฐประหารในอดีตของประเทศซึ่งมีถึง ๑๘ ครั้ง
หลังจากเกิดความวุ่นวายบนท้องถนนและนำไปสู่การจลาจล จึงทำให้เชื่อกันว่า บรรดานายพลทั้งหลายจะลากรถถังออกมา และ
เข้ารักษาความสงบ

ขณะนี้ผู้ทำการกล่าวหาอนุพงษ์ได้เรียกร้องให้รัฐบาลโอบามา ตรวจสอบบทบาทจากปากของอนุพงษ์เองในการทำรัฐประหารของ
ประเทศไทยเมื่อปี ๒๕๔๙ อนุพงษ์ในฐานะผู้อำนวยการรักษาพระนคร และมีคำสั่งให้ลากรถถังออกมาสู่ท้องถนนกลางเมืองหลวง
การทำรัฐประหารไม่ได้รับการประณามจากคนทั้งหมด คนไทยที่เป็นชนชั้นกลางบางคน ซึ่งมีความระอากับการกล่าวหาทักษิณว่า
ทำการทุจริต ต่างต้อนรับทหารด้วยดอกกุหลาบผูกโบว์

ใจความจดหมายที่มีถึงโอบามานั้น เสื้อแดงยืนยันว่า อนุพงษ์มีบทบาทในการเป็น “ผู้ร่วมวางแผนทำการรัฐประหาร” และไม่สมควร
ได้รับสิทธิ์เป็นแขกของเพนตากอน เสื้อแดงอ้างว่า การเยือนในครั้งนี้
“ไม่ได้สอดคล้องกับความเห็นของคนไทยจำนวนนับล้านๆคน ซึ่งมองว่าเป็นการเดินถอยหลังของประชาธิปไตย”

ฌอน บุญประคอง โฆษกต่างประเทศของเสื้อแดงกล่าวว่า “จะเป็นการสร้างความขายหน้าให้กับสหรัฐฯพอควร”
“ถ้าเกิดการทำรัฐประหารขึ้น ซึ่งถือว่าอยู่ภายใต้การบงการของอนุพงษ์”

สถานทูตสหรัฐฯกล่าวว่า การเยือนของ อนุพงษ์ครั้งนี้ เป็นการเยือนเพนตากอนตามปกติ ซึ่งถือว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในกองทัพ
ที่เป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ และมีแสนยานุภาพที่สุดในเอเชีย และไม่มีการตอบรับในทันทีในทางการทูตจากจดหมายของเสื้อแดง

ซินเทีย บราวน์ โฆษกสถานทูตสหรัฐฯในกรุงเทพกล่าวว่า “เราได้รับจดหมายแล้ว”
“เราสนับสนุนหลักการทางประชาธิปไตย และเสรีภาพในการพูด ดังนั้นเราเจรจากับทุกฝ่ายเป็นปกติทั้งทางตัวบุคคล และทั้งกลุ่มต่างๆ”

เฟเดอริโก เฟอเรรา ผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ และผู้เขียน
“ประเทศไทยที่ไร้สติ: เปิดโปงตำนานประชาธิปไตยแบบไทยๆ
(Thailand Unhinged: Unraveling the Myth of a Thai-Style Democracy) กล่าวว่า
การ “ออกโรง” ของเสื้อแดงครั้งนี้ ไม่น่าจะเป็นการทำลายความเป็นพันธมิตรระหว่างกองทัพสหรัฐฯ และไทย”

เฟอเรรากล่าวว่า “นอกเหนือจากแถลงการณ์ที่เคยออกมาประจำเพียงไม่กี่ครั้งเกี่ยวกับ “การรักษา” หรือ
“การนำประชาธิปไตยกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว” นั้น “นับตั้งแต่ยุค ค.ศ.๑๙๕๐ ที่ประเทศไทยมีการทำรัฐประหาร สหรัฐฯไม่เคยออก
บทบังคับใดๆ หลังจากการเกิดรัฐประหารอย่างไม่เสียเลือดเสียเนื้อ”

เขากล่าวว่า ความพยายามใดๆที่จะผลักผู้บัญชาการทหารบกของไทย ให้อยู่คนละฝ่ายกับหลักการตามแนวทางอเมริกาแล้วล่ะก็
โดยแท้จริงแล้ว เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ของเสื้อแดง เพื่อที่จะสร้างความแตกแยกให้กองทัพ

โอกาสข้างหน้าหากมีการทำรัฐประหาร ฝ่ายตรงข้ามได้เชื้อชวนทหารชั้นผู้น้อยในกองทัพอย่างหนัก โดยที่แกนนำเสื้อแดงได้ขอร้อง
ให้ทหารต่างๆวางอาวุธ ผูกผ้าพันคอสีแดง และร่วมประท้วงบนท้องถนนเมื่อได้รับคำสั่งให้ทำรัฐประหาร

นายพลระดับกลางหลายนาย และผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา ต่างแสดงความรังเกียจต่อผู้นำกองทัพ ซึ่งก่อการทำรัฐประหารเมื่อสามปีที่แล้ว
อย่างเปิดเผย

โวหารโอ้อวดที่ร้อนแรงที่สุดมาจาก พลตรี ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ขนานนามตัวเองว่า “นักรบ” ซึ่งล้อเลียนนายพลระดับสูงว่า
เป็นนายพลนักกอล์ฟ และมีกองกำลังส่วนตัวของตัวเอง เมื่อไม่นานมานี้เขาถูกกล่าวหาว่า มี “อาวุธสงคราม” ไว้ในครอบครอง
และโยงไปถึงการยิงระเบิดเอ็ม-๗๙ ในตอนดึกใกล้ห้องทำงานของอนุพงษ์ในกองบัญชาการกองทัพบก
(ขัตติยะปฏิเสธการมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆในครั้งนี้)

เฟอเรรากล่าวว่า เสื้อแดงนั้นกำลังเอาใจกลุ่มที่มีการแตกแยกกันภายในกองทัพนี้
“เพื่อหวังจะได้ความร่วมมือจากในส่วนของกองทัพที่กำลังดิ้นรน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หรืออย่างน้อยเป็นการค่อยๆทำลาย
ความสามารถที่กองทัพจะทำการปราบปราม”

ในการวางตัวแทนของ อนุพงษ์ซึ่งกำลังเดินทางออกนอกประเทศนั้น ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ใกล้ชิดได้จัดการนัดชุมนุม เพื่อให้การสนับสนุน
อนุพงษ์ เพื่อให้กำลังใจ และเตือนให้ทหารที่คิดจะลอบโค่นล้มรัฐบาลทั้งหลายให้อยู่ในแถว ในระหว่างที่อนุพงษ์เดินทางไปเยือนกรุงวอชิงตัน

ตัวอนุพงษ์เองได้สาบานว่า จะไม่มีการทำรัฐประหารในระหว่างการเดินทางไปสหรัฐฯ คำสัญญานี้จะเชื่อได้แค่ไหนต้องพิสูจน์กัน
ในวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ เมื่อศาลจะมีคำวินิจฉัยในการยึดทรัพย์สินจำนวน ๗๖,๐๐๐ ล้านบาทของทักษิณ และเสื้อแดงกำลังขับเคลื่อน
“การต่อสู้ครั้งสุดท้าย” ด้วยการล้อมศาล และจะออกมาส่งเสียงประท้วงบนท้องถนน

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker