บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เขมรไม่เลิกตอแย "ฮอร์ นัมฮง"ซัด"มาร์ค"โง่!ค้านขึ้นทะเบียน"พระวิหาร" ผู้นำกัมพูชาเล็งฟ้องศาลโลก

ที่มา มติชน

"ฮอร์ นัมฮง"ถล่ม"อภิสิทธิ์" โง่เขลาที่ค้านขึ้นทะเบียน"พระวิหาร"เป็นมรดกโลก "มาร์ค"เมิน"ฮุนเซน"สาปแช่ง สั่ง"บัวแก้ว"ตอบโต้ฐานละเมิดประเทศไทย "สุเทพ"ชี้ขาดทุนเองที่พูดหยาบคาย เชื่อโกรธที่ไม่ให้เข้าประสาทตาเมือนธม มั่นใจนานาชาติเข้าใจภาพลักษณ์ไทยในทางที่ดี โฆษกปชป.เตือน"เขมร"ระวังถูกอาเซียนโดดเดี่ยว

"ฮอร์นัมฮง"ถล่ม"มาร์ค"ซ้ำ


ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ว่า เว็บบล็อค Ki-media รายงานโดยอ้างเรดิโอ ฟรี เอเชียว่า นายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ระบุว่านายอภิสิทธิ์ เป็นพวกโง่เขลา กรณีให้สัมภาษณ์ว่า ไทยจะคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งต่อไปในเดือนกรกฎาคมนี้ เพราะปราสาทพระวิหารถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปแล้วก่อนหน้านี้

นายฮอร์ นัมฮง ยังปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลกัมพูชาได้ส่งนายพลขาน สะวึน ปลัดกระทรวงกลาโหมกัมพูชาไปยังปราสาทตาเมือน เพื่อเจรจากับฝ่ายไทยในการขออนุญาตให้สมเด็จฮุน เซน เดินทางเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว โดยระบุว่าการเดินทางเข้าไปในพื้นที่ของนายพลขาน เป็นการเดินทางไปด้วยธุระส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับกำหนดการของสมเด็จฯฮุน เซน

"ฮุนเซน" เล็งฟ้องยูเอ็น-ศาลโลก

เว็บบล็อค Ki-media ยังรายงานคำกล่าวบางส่วนของสมเด็จฯ ฮุน เซน ระหว่างการเยี่ยมกองพันที่ 41 เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ว่า กัมพูชาไม่เคยเรียกร้องขอดินแดนที่เคยสูญเสียไปในอดีตกลับคืนมา แม้ว่ากษัตริย์กัมพูชาจะทรงเป็นนักสร้างผู้ยิ่งใหญ่ พระองค์ไม่เคยขโมยดินแดนของใคร แต่เป็นผู้อื่นต่างหากที่ขโมยดินแดนไปจากกษัตริย์ของเรา ดินแดนแห่งนี้ไม่ใช่ไทยเป็นเจ้าของมาตั้งแต่อดีตกาล เรายืนยันว่าวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ เป็นของกัมพูชา และอยู่ในดินแดนกัมพูชา ทหารไทย 10 คน จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปนอนในวัดแก้วฯ พวกเขาเข้ามาได้แต่ในช่วงกลางวันเท่านั้น แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้พกพาอาวุธ เราไม่ขอรับทราบแผนที่ที่กำหนดพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรที่ทำขึ้นเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งไทยเขียนขึ้นเพื่อขโมยดินแดนของเรา ยืนยันว่ากัมพูชาขอปฏิเสธแผนที่ดังกล่าวอย่างสิ้นเชิง

"พวกคุณมีปืน เราก็มีเช่นกัน แต่หากคุณอยากจะเจรจา เราก็พร้อมจะเจรจา หากจำเป็นเราจะรายงานเรื่องนี้ต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จากนี้ไปกัมพูชาจะเริ่มกระบวนการหาทางออกเกี่ยวกับพิพาทเรื่องเขตแดนกับไทยผ่านศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ อีกครั้งหนึ่ง" สมเด็จฯฮุน เซน กล่าว


"สุเทพ"ไม่ตอบโต้"ฮุนเซน"

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ไม่ตอบโต้สมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ให้สัมภาษณ์กล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย โดยเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากโกรธเคืองที่ไทยไม่ให้เข้าพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ และมั่นใจว่านานาชาติจะเข้าใจภาพลักษณ์ของประเทศไทยในมุมมองที่ดี

ในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ นายสุเทพ หัวเราะเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีสมเด็จฯฮุน เซน สาปแช่ง ก่อนกล่าวว่า "เดี๋ยวนี้เขาพัฒนากันอย่างนี้เลยหรือ" จากนั้นนายสุเทพ กล่าวว่า "ก่อนอื่นผมอยากขอบคุณพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรีของประเทศได้อย่างน่าชื่นชม และเหมาะสมกับสถานการณ์ ตอนแรกที่ประชาชนเข้าไปคิดว่าจะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบาก แต่หลังจากขอร้องกันก็ให้ความร่วมมือ ทุกอย่างก็จบลงด้วยดี"

"สมเด็จฯฮุน เซน อาจจะโกรธเคือง เพราะรู้สึกผิดหวังที่ไม่สามารถเข้ามาปราสาทตาเมือนธม ให้เกิดภาพอย่างที่ต้องการได้ คนเมื่อโกรธอาจจะควบคุมตัวเองลำบาก เลยพูดจาออกไป"นายสุเทพ กล่าว


มั่นใจนานาชาติเข้าใจไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองเจตนาที่นายกฯกัมพูชาพยายามเข้ามาชายแดนไทยในช่วงที่การเมืองในประเทศคุกรุ่นอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า "ผมระมัดระวัง ไม่โยง 2 เรื่องนี้ไปด้วยกัน เพราะมีคนคาดการณ์และวิจารณ์เรื่องนี้มากแล้ว ผมเพียงต้องการรักษาแนวทางเข้าไว้บ้าง เผื่อวันข้างหน้าหายโมโหโทโสจะได้พูดคุย ฟื้นฟูสัมพันธภาพกันบ้าง เพื่อนบ้านรั้วติดกันควรจะดีกันดีกว่าโกรธกัน"

นายสุเทพ ยังระบุด้วยว่า รัฐบาลไม่จำเป็นต้องชี้แจงใดๆ ต่อคำหยาบคายที่นายกฯกัมพูชากล่าวหา นายกฯกัมพูชาพูดด้วยความโกรธก็ขาดทุนเอง ทุกคนรู้ดีว่านายอภิสิทธิ์ เป็นคนอย่างไร คนไทยรู้จักนายอภิสิทธิ์ดีอยู่แล้ว ไม่มีอะไรต้องไปกังวลใจ และหากกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ บรรเทาเบาบางลงไป ความรู้สึกของสมเด็จฯฮุน เซน คงเบาบางลง คนไทยรักสงบ มีมิตรไมตรีเพื่อนบ้าน เอื้ออารี ไม่ใช่ประเทศกระหายสงคราม ต้องการรุกรานเพื่อน นานาประเทศก็เห็นภาพลักษณ์ประเทศไทยในมุมมองที่ดี

เมื่อถามว่าหากนายอภิสิทธิ์เจอสมเด็จฮุนเซนในเวทีระดับนานาชาติจะทำอย่าง นายสุเทพ กล่าวว่า “ก็สวัสดี” เมื่อถามว่านายกฯกัมพูชาพยายามก้าวก่ายวิจารณ์การเมืองในประเทศไทยตลอดเวลา นายสุเทพ กล่าวว่า "ท่านขาดทุนไปเอง เราอย่าไปว่าเลยครับ"


"มาร์ค"สั่ง"บัวแก้ว"จัดการ

ด้านนายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ระหว่างมาร่วมงานคล้ายวันเกิดนายนายสุวัจน์ ลิปพัลลภ แกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ที่บ้านพักถนนราชวิถี ว่าจะไม่ไปตอบโต้สมเด็จฯฮุน เซน แต่ในส่วนใดก็ตามที่ละเมิดประเทศไทย ละเมิดระบบหรือสถาบันของประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการตามรูปแบบที่เหมาะสม ซึ่งนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทราบดี ที่สำคัญคือ ไม่ให้มีการรุกล้ำอธิปไตยของไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องตอบโต้ลักษณะไหนถึงจะเพียงพอ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “เราไม่ต้องการที่จะให้เกิดปัญหาขึ้นระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ ก็เป็นเรื่องของสมเด็จฯฮุน เซน เขาก็คงระบาย ไม่มีอะไร” เมื่อถามว่า สมเด็จฮุน เซน ได้ก้าวก่ายและแทรกแซงกิจการภายในของไทยอีกครั้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ใช่ และเป็นจุดที่ยืนยันว่า เพราะอะไรความสัมพันธ์ถึงกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ ซึ่งทุกคนเห็นชัดว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากเรา"

เมื่อถามว่า กลัวคำแช่งของสมเด็จฯฮุน เซนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่

"กษิต" เมินเต้นแรง-เต้นกาตาม

ด้านนายกษิต กล่าวว่า ในส่วนกระทรวงการต่างประเทศ ไม่จำเป็นต้องแสดงท่าทีอะไร เพราะเกินที่จะไปแสดงท่าทีแล้ว แต่เรื่องนี้เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กับโฆษกกระทรวงการต่างประเทศก็ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

เมื่อถามว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน ไม่ยอมหยุดเคลื่อนไหว นายกษิตกล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร จะไปสะดุ้งสะเทือนทำไม ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว คิดว่าประชาชนชาวไทย 65 ล้านคน ได้เห็นแล้วว่า อะไรเป็นอะไร ไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติม แต่ขอย้ำว่าสังคมไทย ประเทศไทย รัฐบาลไทย ปราถนาดีที่สุดต่อประชาชนชาวกัมพูชา อยากให้เจริญ อยากให้มีความสุข และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทย

เมื่อถามว่า ถ้าปล่อยให้เหตุการณ์เป็นอย่างนี้ สถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชาจะเป็นอย่างไร นายกษิต กล่าวว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน ไม่ต้องการที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทยถึงได้ทำอย่างนั้น ทั้งที่ประเทศไทยไม่ได้ไปทำอะไรที่ไม่ดี โดยยืนอยู่บนหลักการณ์และความถูกต้อง สามารถชี้แจงต่อชาวไทยและประชาคมโลกได้ รวมทั้งต่อชาวกัมพูชาด้วย

"ส่วนเขา(สมเด็จฯ ฮุน เซ็น) จะเต้นแร้งเต้นกาด้วยเหตุผลอื่นก็เป็นเรื่องของเขา เพราะสิ่งที่เขาได้คิดได้ทำและตัดสินใจอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคม ไม่มีหลักปฏิบัติระหว่างประเทศไม่มีความถูกต้อง แล้วเราจะไปโอนอ่อนต่อสิ่งที่ไม่ถูกต้องได้อย่างไร" นายกษิต กล่าว


ล็อบบี้ขึ้น"มรดกโลก"ร่วม

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไทยคงไม่ตอบโต้ แต่จะให้กระทรวงการต่างประเทศ โดยเฉพาะนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ชี้แจงทีละประเด็น แต่จะไม่ตอบโต้เรื่องตัวบุคคล โดยยึดหลัก 1.สันติวิธี 2.ให้เกียรติ และ 3.เป็นเพื่อนบ้านที่ดี อย่างไรก็ตาม การเดินทางของสมเด็จฯ ฮุน เซนครั้งนี้ ก็มีข้อดี คือช่วยยืนยันว่าพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทยกับกัมพูชาจริง เพราะนายกฯกัมพูชาพูดเองว่า บริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ บนเขาพระวิหารเป็นพื้นที่พิพาท

นายปณิธาน กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.)จะนำคำพูดดังกล่าว ไปแจ้งต่อที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ที่จะมีการประชุมกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกเขาพระวิหารร่วมกัน โดยขณะนี้นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการ ทส. ได้เดินสายล็อบบี้คณะกรรมการมรดกโลกบางส่วนแล้ว


เตือน"เขมร"จะถูกโดดเดี่ยว

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) แถลงว่า คณะทำงานติดตามสถานการร์การเมือง (วอร์รูม) ได้หารือถึงการเคลื่อนไหวของสมเด็จฯ ฮุน เซน โดยที่ประชุมเห็นว่า ควรจะมองปัญหาเรื่องนี้ในภายรวม ซึ่งเป็นการจูงประเทศเพื่อนบ้านเข้าแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย และยกระดับความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อหวังให้มีการตอบโต้จากนายกรัฐมนตรีของไทย และนำสู่การเผชิญหน้าของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งจะสอดรับกับช่วงการชุมนุมใหญ่ในประเทศไทย ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์

นพ.บุรณัชย์กล่าวอีกว่า การที่สมเด็จฯ ฮุนเซนออกมาพูดพาดพิงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ใน 3 ประเด็นคือ 1.รัฐบาลนายอภิสิทธิ์รุกรานประเทศเพื่อนบ้าน 2.มีผลประโยชน์ทับซ้อน และ3.มีทหารสนับสนุนให้เป็นรัฐบาล ถือว่าเป็นเรื่องเท็จ การแสดงออกของสมเด็จฯ ฮุนเซน ทั้งที่เป็นผู้นำอาวุโสที่สุดในประเทศอาเซียน ถือว่าไม่เหมาะสม ทำให้เกิดความแตกแยกในประเทศอาเซียน และที่สุดประชาชนกัมพูชาจะถูกโดดเดี่ยวจากกลุ่มประเทศอาเซียน


ปชป.ยก"หมากัดอย่ากัดตอบ"

ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้า ปชป. แถลงว่า ในช่วงแรกที่ทราบข่าวไม่แน่ใจว่า คำปราศรัยโจมตีนายอภิสิทธิ์ เป็นคำพูดที่ออกมาจากปากนายกฯ กัมพูชาจริงหรือไม่ เพราะฟังสำนวนแล้วอาจเข้าใจได้ว่า เป็นเขมรขอทานที่มาพูดแถวตลาดโรงเกลือ แต่เมื่อตรวจสอบก็พบว่าเป็นคำพูดของนายกฯกัมพูชาจริง ก็พบว่าคำพูดดังกล่าวใกล้เคียงกับคำปราศรัยบนเวทีของแกนนำคนเสื้อแดง และอยากถามว่าใครเป็นคนเขียนสคริปต์ หรือให้ข้อมูล เพราะปราศรัยโจมตีนายอภิสิทธิ์อย่างบ้าคลั่ง เหมือนคนเสียสติ

นายเทพไทกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่ระบุถึงภรรยาของสมเด็จฯ ฮุน เซน แต่งเครื่องแบบทหาร ยืนยันได้ว่านายอภิสิทธิ์ไม่เคยพูด สมเด็จฯ ฮุนเซน หรือวงศ์ตระกูลจะแต่งชุดเครื่องแบบนายทหาร หรือจะแก้ผ้าก็ไม่มีใครว่า ถือเป็นสิทธิ์ ส่วนการที่สมเด็จฯ ฮุนเซนกล่าวว่า หากนายกฯอภิสิทธิ์โจมตีกลับมาก็จะโจมตีตอบ ขอบอกว่ าแม้นายอภิสิทธิ์จะมีวัยวุฒิน้อย แต่ก็มีวุฒิภาวะสูงพอในการที่เป็นผู้นำประเทศ และไม่ตอบโต้สมเด็จฯ ฮุน เซนให้เสียเวลา เพราะถือคติเขมรที่บอกว่า “จะแกคำ กอมเตาคำต๊อบ” ซึ่งตรงกับสุภาษิตไทยที่แปลว่า หมากัดอย่ากัดตอบ


ไม่เพิ่มกำลังทหารชายแดน

พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.สส.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังสมเด็จฯฮุน เซ็น เดินทางมาในบริเวณพื้นที่ทับซ้อนว่า เหตุการณ์ทุกอย่างปกติ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงข่าวสารที่ทำให้เรื่องปกติเป็นเรื่องไม่ปกติ ทั้งนี้ไม่มีการเพิ่มกำลังทหารบริเวณชายแดน เพราะสถานการณ์ต่างๆยังปกติ โดยที่การทำงานของกองทัพ มี 8 กองกำลัง แบ่งเป็นกองทัพบก 7 กองกำลัง และกองทัพเรือ 1 กองกำลัง ยังทำงานเหมือนเดิม ทุกอย่างยังมีความสุขดี ผบ.สส.กัมพูชายังชวนทหารไทยทอดผ้าป่า เพื่อให้นายทหารชั้นผู้ใหญ่และนายทหารชายแดนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพราะจะยกประเทศหนีออกจากกันไม่ได้

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker