คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวในการแถลงนโยบายประจำปี 2553 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า
ขอให้ทุกฝ่ายเร่งแก้ไขปัญหาความไม่มั่นคงภายในประเทศ และความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งขาดกติกาในการหาทางออกร่วมกันให้กับความขัดแย้งทางสังคม
เพราะกระทบต่อความเชื่อมั่น กระทบต่อภาวะแวดล้อมทางธุรกิจ และบรรยากาศการลงทุน ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน ส่งผลให้การลงทุนของภาคเอกชนไทยอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติมาก อันถือเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดต่อการฟื้นตัวของประเทศไทยในระยะยาว
ทั้งในด้านการผลิตและการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า อาจจะเป็นเรื่องแปลกที่การแถลงนโยบาย ธปท.พูดในเรื่องที่ไม่ใช่นโยบายของตัวเอง
แต่ในระยะสั้นทุกฝ่ายควรจะร่วมกันหาทางออกให้กับปัญหาการเมืองในขณะนี้
เนื่องจากที่ผ่านมาปัญหาการเมืองเป็นอุปสรรคที่สำคัญที่ทำให้การลงทุนเอกชนซบเซา และทำให้การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐล่าช้าไปด้วย
เพราะนอกจากปัญหาในประเทศแล้ว เศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังมีความเสี่ยงต่อการขยายตัวจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอย่างเปราะบาง
ซึ่งจะทำให้เกิดความผันผวนของค่าเงินบาท การเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ
และต้องระมัดระวังปัญหาฟองสบู่ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยมิใช่คนแรกที่ออกมาเรียกร้องให้มีการสะสางปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองลงไปโดยเร็ว
แต่โดยบทบาทของผู้มีส่วนร่วมสำคัญในการกำหนดนโยบายและความเป็นไปทางเศรษฐกิจ และอยู่ในสถานภาพที่ต่างประเทศให้ความเชื่อถือสูงยิ่ง
ประกอบเข้ากับข้อเรียกร้องนั้นเป็นเรื่องมีเหตุมีผล และเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันแล้ว
รัฐบาล นักการเมือง ผู้มีส่วนร่วมในความขัดแย้งโดยตรง ควรจะนำข้อเรียกร้องนี้มาพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ
เพื่อป้องกันมิให้ความเสียหายที่เป็นอยู่ ขยายวงกว้างยิ่งไปกว่านี้
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวในการแถลงนโยบายประจำปี 2553 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า
ขอให้ทุกฝ่ายเร่งแก้ไขปัญหาความไม่มั่นคงภายในประเทศ และความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งขาดกติกาในการหาทางออกร่วมกันให้กับความขัดแย้งทางสังคม
เพราะกระทบต่อความเชื่อมั่น กระทบต่อภาวะแวดล้อมทางธุรกิจ และบรรยากาศการลงทุน ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน ส่งผลให้การลงทุนของภาคเอกชนไทยอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติมาก อันถือเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดต่อการฟื้นตัวของประเทศไทยในระยะยาว
ทั้งในด้านการผลิตและการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า อาจจะเป็นเรื่องแปลกที่การแถลงนโยบาย ธปท.พูดในเรื่องที่ไม่ใช่นโยบายของตัวเอง
แต่ในระยะสั้นทุกฝ่ายควรจะร่วมกันหาทางออกให้กับปัญหาการเมืองในขณะนี้
เนื่องจากที่ผ่านมาปัญหาการเมืองเป็นอุปสรรคที่สำคัญที่ทำให้การลงทุนเอกชนซบเซา และทำให้การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐล่าช้าไปด้วย
เพราะนอกจากปัญหาในประเทศแล้ว เศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังมีความเสี่ยงต่อการขยายตัวจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอย่างเปราะบาง
ซึ่งจะทำให้เกิดความผันผวนของค่าเงินบาท การเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ
และต้องระมัดระวังปัญหาฟองสบู่ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยมิใช่คนแรกที่ออกมาเรียกร้องให้มีการสะสางปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองลงไปโดยเร็ว
แต่โดยบทบาทของผู้มีส่วนร่วมสำคัญในการกำหนดนโยบายและความเป็นไปทางเศรษฐกิจ และอยู่ในสถานภาพที่ต่างประเทศให้ความเชื่อถือสูงยิ่ง
ประกอบเข้ากับข้อเรียกร้องนั้นเป็นเรื่องมีเหตุมีผล และเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันแล้ว
รัฐบาล นักการเมือง ผู้มีส่วนร่วมในความขัดแย้งโดยตรง ควรจะนำข้อเรียกร้องนี้มาพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ
เพื่อป้องกันมิให้ความเสียหายที่เป็นอยู่ ขยายวงกว้างยิ่งไปกว่านี้