บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

คุ้มกันศาล "มาร์ค"ฉุนขาดเสธ.แดง

ที่มา ข่าวสด

เลขาศาลยืนยัน ไม่หวั่นคำข่มขู่




ต้านปฏิวัติ- อดีตทหารพรานค่ายปักธงชัย และการ์ดนักรบคนเสื้อแดงจำนวนกว่า 200 คน ตบเท้าเข้ากราบไหว้อนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม และปฏิญาณตนต่อต้านการปฏิวัติรัฐประหาร พร้อมปกป้องพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง เมื่อวันที่ 31 ม.ค.

"มาร์ค"ฉุนขาดเสธ.แดงข่มขู่ศาล องค์กรอิสระ สั่ง ข้ามทวีปอารักขาเต็มที่ รับไม่ได้มีการขู่อาฆาตกระบวน การยุติธรรม เรียกร้องคนไทยตอบโต้กลับ "เทือก"เล็งเล่นงานทางกฎหมาย เลขาธิการศาลยุติธรรมยืนยันไม่หวั่นไหว ตุลาการทุกท่านพิจารณาตามพยานหลักฐานด้วยความยุติธรรม เพื่อไทยข้องใจคนในทบ.ยิงเอ็ม 79 สร้างสถานการณ์แล้วโยนบาปให้เสธ.แดง จี้อนุพงษ์เปิดให้คนนอกเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

-"มาร์ค"ไม่ยอมให้ใครข่มขู่

เมื่อวันที่ 31 ม.ค.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างร่วมประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ครั้งที่ 40 ณ เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวผ่านรายการ"เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ผ่านระบบถ่ายทอดทางไกล ถึงกรณีทหารออกมาเคลื่อน ไหวเพื่อปกป้องผู้บังคับบัญชาว่า ถือเป็นการแสดงออกที่ทำได้ แต่ส่วนตัวไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งในองค์กรต่างๆ และอยากให้ทุกคนทำหน้าที่ของตนเอง สำหรับกระแสปฏิวัตินั้น ตนยังมองไม่เห็นเงื่อนไขใดๆ ที่จะทำให้ปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้น เพราะมีระบบรัฐสภาอยู่ รัฐบาลยังสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ด้วยโครงการต่างๆ เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวตามลำดับ จึงไม่เห็นว่าการปฏิวัติรัฐประหารจะทำไปเพื่ออะไร และมั่นใจว่าหากทำไป คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้ ทั้งนี้เห็นว่าปัญหาการเมืองในปีนี้ คงไม่ยากไปกว่าปีที่แล้ว และถึงตนจะอยู่ประเทศไทยก็มีคนพูดเรื่องนี้อยู่แล้ว

นายกฯกล่าวอีกว่า ส่วนการเคลื่อนไหวทาง การเมืองเป็นเรื่องที่ทำได้ ถือเป็นสิทธิเสรีภาพ แต่อยากเรียกร้องฝ่ายต่างๆ ช่วยกันดูแล และจะให้เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจเกี่ยวข้องไปดู เพราะการข่มขู่ถือว่าไม่เป็นประชาธิปไตย โดยเฉพาะการพาดพิงผู้พิพากษา ซึ่งทำหน้าที่สร้างความยุติธรรม จึงอยากให้องค์กรต่างๆ หนักแน่น และไม่ยอมให้ใครข่มขู่คุกคามได้ เป็นเรื่องที่สังคมต้องช่วยกันว่าจะยอมรับการข่มขู่คุกคามหรือไม่ ที่สำคัญคือเป็นการพูดในเชิงกดดันผู้ที่จะรักษาความยุติธรรมของบ้านเมือง พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นในสังคม

-ยอมรับปีนี้ 2 เดือนแรกลำบาก

"ต่อไปหากบ้านเมืองของเราปล่อยให้มีการข่มขู่คุกคามกัน เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ หากปล่อยสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นผมเชื่อว่าต่อไปบ้านเมืองเราก็จะอยู่ไม่ได้ อย่างไรก็ตามหากท่านใดถูกข่มขู่คุกคาม กลัวว่าจะมีอันตราย และอยากจะให้รัฐบาลเข้าไปช่วยเหลือดูแล รัฐบาลพร้อมสนับสนุนดูแลให้อย่างเต็มที่" นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลถึงเหตุการณ์ช่วงเดือน ก.พ.ซึ่งจะตัดสินคดีสำคัญหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ช่วงสองเดือนแรกของปีนี้จะลำบากหน่อย แต่รัฐบาลเองมีหน้าที่ดูแลบ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย และขอยืนยันในสิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการมา โดยเฉพาะการเคารพสิทธิเสรีภาพ โดยอยู่ภายใต้กฎหมาย รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลให้บ้านเมืองเรียบร้อย

-ปชป.ซัด"แม้ว"อนาธิปไตย

ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขณะนี้มีเหตุการณ์ที่ส่งสัญญาณในหลายส่วน ซึ่งบ่งบอกถึงความวุ่นวายและความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยังทวิตเตอร์ด้วยข้อความตรงกันข้ามกับการเคลื่อนไหวของเครือข่ายของตัวเอง โดยอ้างว่าเป็นผู้นำที่นำประเทศไปสู่ประชาธิปไตย และยึดแนวทางการไม่ใช้ความรุนแรงของมหาตมะ คานธี แต่พฤติ กรรมที่หนีคดีไปต่างประเทศ และชักใยให้บ้านเมืองวุ่นวาย เพื่อตัวเองพ้นผิด ขณะเดียวกันสนับ สนุนประชาชนทำผิดกฎหมาย ก่อการจลาจลเผาบ้านเมืองนั้น อยากถามว่าเป็นการกระทำของคนที่เชื่อในอหิงสาจริงหรือไม่ และพฤติกรรมเหล่านี้ไม่เกี่ยวกับการทวงคืนประชาธิปไตยเลย ดังนั้นสังคมควรใช้วิจารณญาณ

"การที่เครือข่ายตัวเองออกมาพูดส่งสัญญาณความรุนแรงอย่างชัดแจ้งในหลายส่วน ถือเป็นรูปแบบของรัฐอนาธิปไตย และผู้ก่อการร้ายมากกว่าการอ้างว่าเป็นนักประชาธิปไตยโดยใช้แนวทางอหิงสา" น.พ.บุรณัชย์กล่าว

-อัด"เสธ.แดง"จิตใจไม่สมประกอบ

น.พ.บุรณัชย์กล่าวอีกว่า ส่วนที่พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ. พูดพาดพิงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ว่าควรเอาเอ็ม 79 ไปรดน้ำบูชานั้น นอกจากจะสร้างความหวาดกลัวให้สังคมแล้ว ยังแสดงว่าบุคคลนี้ขาดการยับยั้งสติ พูดจาส่อให้เห็นว่าจิตใจไม่สมประกอบ มีพฤติกรรมนิยมความรุนแรง และเป็นภัยต่อสังคมอย่างชัดแจ้ง รัฐไม่ควรให้บุคคลที่อาจทำอันตรายต่อผู้อื่น อยู่ร่วมในสังคมตามปกติ แต่ควรดำเนินการตามกฎหมายโดยด่วน นอกจากนี้รัฐควรมีมาตรการสร้างความมั่นใจให้ประชาชน โดยขยายผลไปสู่กลุ่มบุคคลอื่นที่มีพฤติกรรมเช่นเดียวกัน ซึ่งชักนำให้คนทำผิดกฎหมายในรูปแบบอื่นด้วย เช่นที่ จ.อุดรธานี มีนายขวัญชัย ไพรพนา เป็นแกนนำชักจูงระหว่างการประชุมของอดีตทหารพรานค่ายปักธงชัย ว่าให้เตรียมน้ำมันใส่ขวดเพื่อเผาศาลากลางจังหวัด โดยอ้างเหตุการณ์ปฏิวัติ ซึ่งเป็นการพูดเพื่อส่งสัญญาณความรุนแรงเช่นกัน และอยากให้รัฐเร่งดำเนินการต่อกลุ่มบุคคลที่ใช้วิทยุชุมชนปลุกระดมคนเพื่อหวังผลสร้างความแตกแยกในสังคมไทยด้วย

-"เทพไท"ดูดีสเตชั่นจับผิดเสื้อแดง

ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ตนลองเปิดสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่นเพื่อดูพิธีการเปิดสถานีวิทยุชุมชนแห่งหนึ่ง พบว่ามีประกาศยุทธศาสตร์ความเคลื่อนไหวที่คล้ายกับยุทธศาสตร์การต่อสู้ของพรรคคอมมิวนิสต์ในอดีต ประกาศสงคราม 3 ประสาน ใช้พรรคชี้นำ ใช้มวลชนสนับสนุน และใช้กองกำลังติดอาวุธยึดอำนาจรัฐ โดยอธิบายว่าขบวนการเสื้อแดงเวลานี้ มีพรรคเพื่อไทยเป็นธงนำ มีคนเสื้อแดงเป็นมวลชน และมีนักรบดำ ทหารพราน และการ์ดเสื้อแดง เป็นกองกำลังติดอาวุธ เรื่องนี้น่ากังวลหากคนเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวโดยใช้กองกำลังติดอาวุธยึดอำนาจรัฐ ฝ่ายความมั่นคงจึงไม่ควรชะล่าใจ น่าจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และควรตรวจสอบว่าการประกาศเช่นนี้เข้าข่ายความผิดข้อหากบฏหรือไม่ เพราะการล้มล้างรัฐบาลถือเป็นกบฏ หากไม่ตัดไฟแต่ต้นลม ก็จะมีการขยายผลในต่างจังหวัด

นายเทพไทกล่าวถึงนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ปูดข่าวเรื่องรัฐประหาร โดยอ้างว่ารัฐบาลมีแผนทำรัฐประ หารตัวเองว่า ยืนยันว่าจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ 63 ปีที่ผ่านมาต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์มีจุดยืนตามแนวทางประชาธิปไตยอย่างชัดเจน ไม่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนอกรัฐธรรมนูญ และไม่มีเหตุผลใดที่รัฐบาลจะปฏิวัติตัวเองเพื่อให้ตัวเองมีอำนาจอยู่ต่อไป การที่บอกว่ามีผู้ใหญ่ขอให้ปลดผบ.ทบ. น่าจะหมายถึงพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธาน องคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นการจับแพะชนแกะ จากกรณีที่นายอภิสิทธิ์เข้าอวยพรปีใหม่พล.อ. เปรม ยืนยันว่านายกฯจะไม่แทรกแซงกองทัพ ทุกอย่างต้องทำตามกฎระเบียบ ไม่มีการล้วงลูกเหมือนสมัยพ.ต.ท.ทักษิณที่นำญาติตัวเองเป็นผบ.ทบ.แล้วคนในกองทัพไม่ยอมรับ

-ปูดพล.อ."ว"ปฏิวัติยิ่งกว่ายกเมฆ

นายเทพไทกล่าวอีกว่า ส่วนที่นายประชาอ้างว่า พล.อ. "ว" เตรียมทหารรุ่น 11 ที่มีอายุ 54 ปี จะเป็นคนออกหน้าทำรัฐประหารนั้น ตนในฐานะนักศึกษาวปอ. เรียนร่วมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพหลายคน เตรียมทหารรุ่น 11 ขณะนี้ เหลืออายุราชการ 1-2 ปีเป็นอย่างมาก คนที่อายุ 54 ปีต้องเป็นเตรียมทหารรุ่น 15-16 ที่สำคัญนายทหารที่อายุ 54 ปียังไม่มีใครเป็นพล.อ.สักคน ส่วนใหญ่มียศพล.ต.ทั้งสิ้น เรื่องดังกล่าวจึงยกเมฆสร้างข่าวอย่างไม่สมเหตุสมผล อยากให้กลับไปดูข้อมูลก่อนสร้างข่าวให้สมจริงสมจัง เพื่อให้สังคมเชื่อถือ

ขณะที่นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง กรรม การพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากเรียกร้องสื่อมวลชนอย่าให้ความสำคัญกับเสธ.แดง เพราะข้อเท็จจริงปรากฏแล้วว่าเป็นเพียงทหารเพี้ยนคนหนึ่ง ที่รับใช้คนซึ่งอยากให้มีคนมารับใช้ โดยไม่สนใจเรื่องคุณภาพ เปรียบได้กับสุภาษิตโบราณ "หมาผอมไปเจอกองขี้แห้ง"

-เด็จพี่ข้องใจจัดฉากเอ็ม79ถล่มทบ.

ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีผู้ลอบยิงเอ็ม 79 เข้าไปบก.ทบ.ว่า ขอตั้งขอสังเกตว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. แต่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ปิดเรื่องเงียบ ไม่แจ้งตำรวจเข้าไปตรวจสอบ แต่เมื่อเรื่องนี้ถูกเปิดเผย พล.อ.อนุพงษ์กลับอนุญาตให้ตำรวจและทหารไปตรวจค้นบ้านพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ทั้งที่ยังไม่มีพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงว่าพล.ต.ขัตติยะเป็นผู้สั่งการ ขณะเดียวกันกลับไม่อนุญาตตำรวจรวมถึงประธานกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนฯ เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาพยานหลักฐาน ถือว่าผิดปกติมากที่พล.อ.อนุพงษ์พุ่งเป้าไปที่พล.ต.ขัตติยะ ส่วนที่มีนายทหารระดับผบ.พัน และผู้การกรมตบเท้าให้กำลังใจและปกป้องพล.อ.อนุพงษ์ ถือเป็นภาพที่สร้างความไม่สบายใจให้กับคนไทย รวมถึงนานาชาติ อาจถึงขั้นทำลายบรรยากาศการลงทุนและการท่องเที่ยว

"ข้อเท็จจริงยังไม่รู้ว่าใครยิงเอ็ม 79 ใส่บก.ทบ. ยังไม่ปรากฏหลักฐานใดๆ แต่พล.ต.ขัตติยะ หรือเสธ.แดง ตกเป็นจำเลยของกองทัพไปแล้ว จึงขอถามพล.อ.อนุพงษ์ว่าเหตุการณ์ยิงเอ็ม 79 ใส่บก.ทบ. เป็นเรื่องสร้างสถานการณ์ขึ้นเองของฝ่ายทหารหรือไม่" โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว

นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า ขอเรียกร้องพล.อ. อนุพงษ์แสดงความบริสุทธิ์ใจและจริงใจ โดยให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมาธิการการทหาร ที่ขอตรวจสอบหาข้อเท็จจริงและตรวจสอบหลักฐานต่างๆ เพื่อสร้างความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายทำความจริงให้ปรากฏแก่สังคม เพราะกองทัพเป็นสถาบันหลักของชาติ ประชาชนต้องมีส่วนรับรู้ข้อเท็จจริงต่างๆ ไม่ใช่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทำลายล้างบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีความคิดเห็นตรงข้ามกับรัฐบาล หรือกองทัพ นอกจากนี้ขอให้พล.อ.อนุพงษ์ตรวจสอบนายทหารระดับสูงบางคนที่มีความใกล้ชิดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นผู้สร้างสถานการณ์ดังกล่าวขึ้นเองหรือไม่ เพื่อเป็นข้ออ้างปฏิวัติรัฐประหาร ตนทราบข่าวว่าช่วงต้นเดือนมี.ค.นี้ จะมีกลุ่มผู้มีอำนาจที่ขณะนี้กำลังเช็กขุมกำลังฝ่ายต่างๆ เพื่อสร้างสถานการณ์นำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหาร โดยจะรอหลังตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของพ.ต.ท.ทักษิณ ขอให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย

-ณัฐวุฒิปลุกเสื้อแดงต้านปฏิวัติ

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. เป็นคนสำคัญในการทำรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 ขณะนี้คนพวกนี้กำลังให้นายทหารใต้บังคับบัญชาออกแอ๊กชั่นเดินสายในค่าย หรือหน่วยทหารต่างๆ เพื่อตรวจสอบกองกำลัง ใครต้องการเอาหน้าให้นายเห็นก็ทำตาม แต่จะมีอีกพวกที่ต้องจำใจทำ เพราะหัวใจยังมีประชาธิปไตย

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า จะเห็นว่าช่วงนี้นำรถถังออกมา โดยให้เหตุผลว่าเป็นการซ้อมรบ แต่หากสังเกตให้ดีสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้มันเหมาะสมหรือไม่ และมติครม.ที่ให้ทหารเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานควบคุมการชุมนุมของคนเสื้อแดง เป็นยุทธวิธีหนึ่ง แต่รัฐบาลเร่งทหารออกมาเร็วเกินไป ถ้ามีการยึดอำนาจคราวนี้ก็เป็นการสมยอมของรัฐบาล เป็นการยึดอำนาจจากประ ชาชนไม่ใช่รัฐประหารแต่เป็นประชาประหาร ทั้งนี้ตนอยากขอฉันทามติจากพี่น้องเสื้อแดงให้แกนนำจากส่วนกลางทำหน้าที่ต่อสู้การต่อต้านรัฐประหาร ถ้าไม่ชนะหรือโชคชะตายังไม่เห็นใจเรา ตนก็จะใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อรักษาองค์กรเสื้อแดงไว้ พวกตนยินดีแลกกับอิสรภาพ กองทัพเสื้อแดงจะไม่มีวันล่มสลายไปกับขุนศึกแน่นอน

-จับตาประยุทธ์ช่วงอนุพงษ์ไปนอก

นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ขอให้จับตาช่วงวันที่ 4-14 ก.พ.นี้ให้ดี เพราะพล.อ.อนุพงษ์จะไปราช การต่างประเทศ อำนาจจึงอยู่ที่พล.อ.ประยุทธ์ รองผบ.ทบ. นี่คือการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ การทำรัฐประหารถือเป็นกลยุทธ์สำคัญ หรือสุดยอดวิชา แต่วิธีที่จะเอาชนะสุดยอดวิชาคือการ เคลื่อนไหวกดดัน จนไม่สามารถออกอาวุธได้ เราก็จะชนะ

นายณัฐวุฒิยังกล่าวถึงกระแสข่าวลอบสังหารคตส.และศาล ว่า ขอยืนยันว่าคนเสื้อแดงไม่ประสงค์มุ่งร้ายชีวิตใคร ไม่ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ หรือคนบางกลุ่ม หากดำเนินการขอให้ฝ่ายบ้านเมืองรับผิดชอบ แต่ขอเตือนว่าอย่า ตกใจมากเกินไป เสธ.แดงอาจจะได้ข่าวหรือได้ ยินอะไรมา ส่วนตัวตนไม่ทราบ และไม่มีหลักฐานเอาผิดได้ ถ้ามีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ต้องรับผิดชอบ อย่าตื่นเต้น อย่าห่วงแต่คตส.หรือศาล ขอให้ดูแกนนำคนเสื้อแดงบ้าง เพราะมีข่าวลอบสังหารแกนนำเสื้อแดงทุกวันเหมือนกัน

-200นักรบดำผนึกเสื้อแดงอุดร

เมื่อเวลา 13.00 น. นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร นำนักรบเสื้อดำ อดีตทหารพรานค่ายปักธงชัย และการ์ดคนเสื้อแดงกว่า 200 คน เดินทางจากสถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร ไปกราบไหว้อนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานี เพื่อกล่าว ปฏิญาณตนเป็นนักรบชุดดำต่อต้านเผด็จการ หากมีปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้นในเร็วๆนี้พร้อมจะต่อสู้เพื่อปกป้องสถาบัน จนกว่าชีวิตจะหาไม่

นายขวัญชัยกล่าวถึงความเป็นมาของกลุ่มนักรบชุดดำว่า นักรบชุดดำมาจากทหารพรานค่ายปักธงชัยเพื่อร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับคนเสื้อแดง ก่อนจะไปสมทบนักรบชุดดำในการปราศรัยใหญ่ที่จ.ขอนแก่น ต้องยอมรับว่าช่วงนี้กองทัพกำลังแตกแยกไร้เอกภาพ ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้พิสูจน์ถึงความอ่อนแอของทหารไทย แต่นายทหารชั้นนายพลหลายคนร่ำรวยขึ้นมาแบบไร้ร่องรอย และประโคมข่าวกองโจรเทียม อ้างเสธ.แดงก่อการร้ายในกรุง พยายามสร้างสถานการณ์เข้าสู่คิลลิ่งโซน เมื่อผู้นำกองทัพนำพากองทัพมาแปดเปื้อนกับเกมการเมืองน้ำเน่า กระทั่งกองทัพตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายอำมาตยาธิปไตย มุ่งทำลายคนเสื้อแดงที่พยายามก่อตัวกันทั่วประเทศให้แตกสลายให้ได้ ชมรมคนรักอุดรขอเป็นกำลังใจแก่กำลังพลสีแดงในกองทัพ และเดินเคียงข้างกับนักรบชุดดำจากค่ายปักธงชัยที่เข้ามาเสริมทัพเสื้อแดงอุดรแข็งแกร่งขึ้น เมื่อมีปฏิวัติรัฐประหาร นักรบชุดดำและพลังคนเสื้อแดงจะลุกฮือขึ้นมาต่อสู้ทันทีจนกว่าชีวิตจะหาไม่

-ศาลไม่หวั่นลอบฆ่า-ยันยุติธรรม

วันเดียวกัน นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงกระแสข่าวลอบสังหารองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของพ.ต.ท.ทักษิณว่า ไม่มี กระแสข่าวดังกล่าวไม่จริง สำนักงานศาลยุติธรรมตรวจสอบกระแสข่าวดังกล่าวจากสำนัก งานข่าวกรองแห่งชาติ และหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังไม่มีการแจ้งเตือนมา ซึ่งได้เรียนนายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกาทราบแล้ว เชื่อว่ากระแสดังกล่าวเป็นการปล่อยข่าวเพื่อหวังผลทางคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของพ.ต.ท.ทักษิณ ก่อนหน้านี้ก็มีการปล่อยข่าวลักษณะนี้ จึงตรวจสอบไปยังหน่วยข่าวกรอง แต่ก็ไม่มี และได้เรียนองค์คณะทั้ง 9 ท่านทราบ และประสานหน่วยงานความปลอดภัยมาช่วยดูแลองค์คณะ แต่ไม่ได้รักษาความปลอดภัยแบบประชิดตัว เชื่อว่าจะไม่มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น

"เรื่องกระแสข่าวลอบทำร้ายองค์คณะนั้นคงไม่ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการ(ก.ต.) เพราะได้เรียนประธานศาลฎีกาแล้ว และไม่มีวาระเข้าสู่ที่ประชุม แต่อาจมีก.ต.บางท่านที่เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยขององค์คณะอาจเสนอหยิบเข้าสู่ที่ประชุมก.ต.พิจารณาได้" นายวิรัชกล่าวและว่า ก่อนการตัดสินคดีคงไม่จำเป็นต้องเก็บตัวผู้พิพากษาไว้ในที่ปลอดภัย เพราะผู้พิพากษาไม่มีศัตรู ปฏิบัติหน้าที่ไปตามกฎหมาย ตามพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ไม่อิงเข้าข้างฝ่ายใด ไม่มีใครขอมา และไม่มีอะไรบังคับองค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 ท่าน ซึ่งจะใช้ดุลพินิจตัดสินคดีอย่างอิสระ และทุกท่านไม่มีอคติกับเรื่องอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นตัวบุคคลหรือหลักการ ขอให้เชื่อมั่นในตัวผู้พิพากษา ที่จะแสดงให้เห็นว่ายังเป็นที่พึ่งได้

-"เทือก"ไม่ได้ฟังรายการมาร์ค

ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ให้สัม ภาษณ์กรณีนายกฯระบุในรายการ "เชื่อมั่นประ เทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ว่าการพูดของเสธ. แดงจะต้องตรวจสอบขยายผลว่าพูดจาข่มขู่หรือไม่ ว่า ตนไม่ทราบ บังเอิญเมื่อช่วงเช้าติดภารกิจ จึงพลาดชมรายการ ไม่ได้ฟังนายกฯพูด

ผู้สื่อข่าวถามว่าพล.ต.ขัตติยะระบุว่าจะมีการลอบสังหารบุคคลสำคัญในองค์กรอิสระ เข้าข่าย สามารถดำเนินคดีได้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ต้องดูว่าพูดจาในลักษณะเข้าข่ายข่มขู่หรือไม่ ตนไม่ใช่นักกฎหมายคงต้องไปตรวจสอบ ที่สำคัญต้องดูว่าคำพูดจริงๆ เป็นอย่างไร ถ้าพูดในลักษณะข่มขู่จริงก็ยอมไม่ได้ เพราะผู้พิพากษาเหล่านี้ทำหน้าที่ของท่าน เราจะยอมให้ใครขู่ศาลหรือผู้พิพากษาไม่ได้

-ดูแลศาลต้องรักษาความพอดี

เมื่อถามว่าในฐานะดูแลฝ่ายความมั่นคงจะเพิ่มการดูแลอารักขาหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ในฐานะฝ่ายความมั่นคงได้ตรวจสอบเรื่องนี้ และพยายามดูแลเรื่องความปลอดภัยบรรดาผู้ที่อยู่ในข่ายที่ปรากฏเป็นข่าว แต่ว่าจะทำอะไรเป็นพิเศษคงไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะถูกพวกที่ไม่หวังดีกล่าวหาว่าเป็นพวกเดียวกัน ซึ่งระบบของศาลต้องเป็นอิสระ ผู้พิพากษาต้องรักษาความเป็นกลาง หากเข้าไปใกล้ชิดท่านเกินไปจะเป็นอันตราย จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ให้ท่านเสียหาย แต่ถ้าอยู่ห่างออกไปก็เป็นห่วงท่าน เพราะฉะนั้นจึงรักษาความพอดี เพราะการเมืองขณะนี้กล่าวหาและใส่ร้ายป้ายสีกันง่าย แต่ได้กำชับเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย เพราะถือว่าท่านเป็นประชาชนคนหนึ่ง เมื่อมีข่าวว่าจะถูกปองร้ายก็ไม่ประมาท เช่น จัดเวรยามที่บ้านพักคอยตรวจสอบเป็นระยะๆ แต่คงไม่ถึงมีรถมาประกบตามไปไหนมาไหนด้วยทุกที่เหมือนอย่างตน ท่านก็คงไม่ยอม

ผู้สื่อข่าวถามว่าต้องขอหน่วยพิเศษมาดูแลหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปกติ โดยให้รรท.ผบ.ตร.ดูแล ซึ่งสั่งการไว้นานแล้ว และผบช.น.ดูแลเต็มที่ด้วยเช่นกัน เมื่อถามว่าจะต้องดูแลอีกนานแค่ไหน นายสุเทพกล่าวว่า ดูแลไปจนกว่าจะไม่มีปัญหา ตนขอถือโอกาสฝากพี่น้องประชาชนว่าหากเห็นอะไรผิดสังเกต หรือเรื่องไม่ดีขอให้แจ้งข้อมูลข่าวสารกับทางราชการด้วย

เมื่อถามย้ำว่าจะเอาผิดกับคนที่พูดลักษณะนี้ได้อย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ทราบ ยังตอบไม่ได้ แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย บางคนเราเห็นแล้วว่าพูดจามีเจตนาแต่เมื่อถอดคำพูดออกมาแล้วไม่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย เราต้องอดทนเอา แต่ถ้าเข้าข่ายต้องดำเนินคดี เมื่อถามว่าการพูดในที่สาธารณะอย่างนี้จะต้องปรามกันหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า คงจะปรามไม่ได้เพราะเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อฟังใคร โดยเฉพาะกับเราแต่ก็คงรู้ว่าถ้าทำอะไรที่ผิดกฎหมายต้องดำเนินคดีแน่นอน

-ต้องมีสติอย่าให้ข่าวลือชักนำ

ต่อข้อถามว่าหน่วยข่าวกรองรายงานข้อมูลตรงกับน.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตสนช. ที่ระบุว่ามีแนวโน้มเกิดการลอบสังหารและวินาศกรรมหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า คงตอบไม่ได้ว่าข้อมูลของหน่วยข่าวกรองตรงกับใครหรือไม่ตรงกับใคร แต่ตรวจสอบทุกข่าวโดยไม่ประมาท ไม่มองข้ามทุกเรื่อง เมื่อมีหน้าที่ดูแลต้องทำให้ดีที่สุด ยังอยู่ในวิสัยที่หน่วยงานภาครัฐรองรับได้ ไม่จำเป็นต้องอาศัยวิธีพิเศษ

เมื่อถามถึงกรณีพล.ต.ขัตติยะระบุว่าจะไม่วิจารณ์นายกฯ เพราะเกรงใจนายไตรรงค์ สุวรรณ คีรี รองนายกฯ แสดงว่านายไตรรงค์สามารถเจรจากับพล.ต.ขัตติยะได้ นายสุเทพกล่าวว่า ขอให้ไปถามนายไตรรงค์เองแล้วกัน

นายสุเทพกล่าวถึงเสียงวิจารณ์การเคลื่อนไหวของกองทัพขณะนี้จะกลายเป็นการนำร่องไปสู่การปฏิวัติว่า สังคมต้องมีสติ หากปล่อยให้กระ แสข่าวลือ ชักนำไปทุกวันๆ ชีวิตคงจะหาความสงบสุขได้ยาก เมื่อมีทหารบางคนบางกลุ่มนอกลู่นอกทางและออกมาแสดงอาการกระด้างกระ เดื่อง ด่าทอไม่เคารพผู้บังคับบัญชา ประชาชนจึงตั้งข้อสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมกองทัพจึงปล่อยให้เป็นอย่างนี้ คนในกองทัพจึงต้องลุกขึ้นมาแสดงพลัง เพื่อยืนยันว่ากองทัพมีวินัย คนส่วนใหญ่เป็นคนดีมีเอกภาพ อย่าไปแปลว่าข่มขู่ ต้องเห็นใจบ้าง หากไปเข้าใจว่าทำตัวเป็นเช่นนั้นคงทำตัวกันลำบาก

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยพยายามประ โคมข่าวเรื่องรัฐบาลจะปฏิวัติตัวเอง นายสุเทพกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยพยายามสร้างกระแสอย่างนี้อยู่แล้ว เพื่อสร้างกระแสให้เห็นว่าบ้านเมืองวุ่นวายคุมสถานการณ์ไม่ได้แล้ว เพราะการเคลื่อน ไหวของพรรคเพื่อไทยกับกลุ่มคนที่เคลื่อนไหวอยู่ข้างนอก สอดประสานกันอยู่ เพื่อต้องการให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง จึงไม่น่าแปลกใจ ดังนั้นเมื่อรับฟังข่าวแล้วก็ต้องใจเย็นตั้งสติ ค่อยๆ คิด ตนยืนยันว่าไม่มีการทำปฏิวัติตัวเอง จะทำไปทำไม เพราะการปฏิวัติคือการยึดอำนาจรัฐ แต่วันนี้เราเป็นรัฐบาลกุมอำนาจรัฐอยู่แล้ว แล้วจะทำทำไม ไม่มีเหตุผล พูดไปเรื่อยเปื่อย

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker