เคยเป็นกันบ้างไหมกับอาการ “หวาดผวา”ยกตัวอย่างเช่น...มีโจรปล้นบ้านถือปืนเข้ามาจี้...ซึ่งไม่อาจเดาใจถูกว่าพวกโจรต้องการทำเพื่อ “ข่มขู่”หรือพร้อม “สับไก” หมายปองเอาชีวิตแต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ทำให้บุคคลนั้นมิอาจลืมไปชั่วชีวิต!เรื่องที่ยกตัวอย่างดังกล่าว...คงไม่แตกต่างกับเหตุการณ์ ปฏิวัติ 19 กันยา 49 ที่ประเทศชาติถูกทหารผู้กล่าวอ้างตนเองว่า “รักชาติ”แต่สุดท้าย กลืนนํ้าลายตัวเอง ลุกขึ้นมาทำการปฏิวัติ...เสมือนทหารกลุ่มนี้ถูกอบรมมาจากตำรา
เล่มเดียวกันว่าการ “ปฏิวัติ” คือสิ่งที่เรียกว่า “ความรักชาติ”ทั้งที่ความเป็นจริง!...มันคือ “การผ่องถ่าย” ทั้งอำนาจ และงบประมาณมหาศาลของแผ่นดิน ให้ตกทอดไปถึงคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง...โดยเฉพาะ “ประโยชน์” ในวัยเกษียณของผู้ที่ทำการปฏิวัติ...มันจะเป็นผลสืบเนื่องถึง คนรุ่นลูกรุ่นหลานซึ่งจะเกิดมาลืมตาดูโลกด้วยทรัพย์สมบัติเงินทอง...มีข้าทาสบริวารคอยรับใช้โดยคำบัญชา “ชี้นิ้วสั่ง”“การปฏิวัติ” จึงทำให้ประชาชนออกอาการคล้ายๆ“หลอนประสาท” สุดขีด...
อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ทราบข่าวว่ามีรถถังออกมาวิ่งเพ่นพล่านกลางกรุง...รวมไปถึงเหตุการณ์บริเวณ“อนุสาวรีย์ชัยฯ” เมื่อไม่กี่วันก่อนโดยกลุ่มทหารแต่งกายครบเครื่อง...แต่ไม่ถืออาวุธ...ยืนจับกลุ่มเป็นจุดๆ ประมาณกลุ่มละ 5 คนซึ่งเป็นการคาดเดาว่า...เนื่องจากใกล้วัน “ทหารผ่านศึก” คงจะมีการตระเตรียมการจัดกิจกรรมเพื่อน้อมรำลึกถึง “วีรชนทหารกล้า”มันไม่ได้มีอะไรนอกเหนือจากนั้น!แต่เป็นเพราะ “ความกลัว” ที่ก่อตัวเป็นความหวาดระแวง...และประชาชนทุกคนก็
อยากจะตะโกนบอกพวกท่านว่า “พอกันที”ไม่เอาอีกต่อไป! กับการตกอยู่ภายใต้ “เงื้อมมือ” ของผู้มีอำนาจที่พยายามแก่งแย่งฉกชิงด้วยวิธี“ใช้กำลัง” ประสานอำนาจกันเป็นใหญ่3 ก.พ. ของทุกปีคือ “วันทหารผ่านศึก” ดอกป๊อปปี้บาน...แต่สำหรับหัวใจ “คนไทย” ไม่เบิกบาน...เพราะมีแต่ความเศร้าหมองและหวาดกลัวผู้กุข่าวปฏิวัติ..มิใช่ผู้ไม่รักชาติหรือไม่จงรักภักดี...แต่ผู้ที่เคยทำ ปฏิวัติมาแล้วต่างหาก...คือผู้ที่อัปรีย์จัญไร!
