"บิ๊กป๊อก" พร้อมขุนทหารพรึ่บ ทั้งจากกรมสรรพาวุธ กรมส่งกำลังบำรุง และ กรมยุทธการทหารบก และ ทอ.แถลง "จีที 200" ยืนยันใช้ต่อเพราะเป็นความต้องการของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ลั่นหากพบโกงฟันไม่เลี้ยง..
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่หอประชุมกองทัพบก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารจากกรมสรรพาวุธทหารบก กรมส่งกำลังบำรุง และ กรมยุทธการทหารบก และกองทัพอากาศ แถลงข่าวเกี่ยวกับเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 หลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงผลการทดสอบโดยศูนย์เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) พบว่าไม่ได้มาตรฐาน ชี้เป้าถูกเพียง 4 ครั้งจาก 20 ครั้ง
โดย พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การออกมาชี้แจงครั้งนี้ เป็นความต้องการของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคใต้ ที่ปฏิบัติงานเพื่อความมั่นคงของชาติ ไม่มีเครื่องมือในการตรวจสอบ ที่ผ่านมาก็ยืนยันว่าเครื่องจีที 200 ใช้ได้ผลมากกว่า 300 ครั้ง แม้ว่าจะไม่ได้มองเรื่องผลทางวิทยาศาสตร์ แต่ความต้องการมาจากหน่วยปฏิบัติ ดังนั้นผู้บัญชาการซึ่งเป็นคนสนับสนุนต้องจัดให้ ส่วนที่ถามว่าทำไมไม่ใช้เครื่องมืออื่น อยากบอกว่ามันมีความแตกต่างกับสุนัข ไม่สามารถตรวจได้ทุกชั้นทุกห้อง และไม่สามารถอยู่หน้าประตูบ้านและบอกว่าข้างในมีอะไร ส่วนเครื่องอื่นๆ เช่น โฟโด้ หรือ ไอออนสแกน ต้องเอาเสื้อที่เปื้อนมาเข้าเครื่องถึงจะตรวจสอบได้ อีกอย่างการใช้สุนัขนั้นจะขัดกับประเพณีของพี่น้องมุสลิมในภาคใต้ ที่จะเอาสุนัขเข้ามัสยิด เข้าบ้านไม่ได้
"เราเคารพการตรวจสอบของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่เราก็เชื่อผู้ที่มีประสบการณ์ของเรา ต่อข้อถามที่ว่ามีการทุจริตหรือไม่ ผมยืนยันว่าดำเนินการตรวจสอบได้หมด ไม่ว่าจะเป็น สตง.(สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน) ป.ป.ช.(คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) สื่อ ผู้ตรวจสอบ และหากผิดแม้แต่ผมเองก็ต้องได้รับโทษ ถึงขณะนี้รัฐบาลเองยังไม่ได้สั่งห้ามใช้ ก็อนุญาตให้ใช้ไปก่อน"
ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ระบุว่า จะเชิญเจ้าหน้าของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมชี้แจง และอธิบายรายละเอียดพร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่หทารที่ปฏิบัติงาน ในพื้นที่ด้วย
ด้าน พล.ต.ศุภกร สงวนชาติศรไกร เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบก กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน มีการจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด จีที 200 จำนวน 757 เครื่อง โดยที่ผ่านมารัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ิ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซื้อจำนวน 59 เครื่อง สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช 7 เครื่อง สมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ 44 เครื่อง และรัฐบาลปัจจุบัน จำนวน 547 เครื่อง เหตุผลที่ต้องซื้อเป็นเพราะใช้ได้ผลและเป็นความต้องการของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เสี่ยงและอันตราย ในส่วนของราคาที่แตกต่างกันแต่ละหน่วยงานนั้น เป็นเพราะใช้ในวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน บางหน่วยอาจใช้เฉพาะตรวจยาเสพติด ตรวจคนเสียชีวิต ตรวจวัตถุระเบิด ตรวจปืน เป็นต้น
ส่วนงบประมาณที่จัดซื้อนั้น แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1. การบริจาค 2. งบฯจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และ 3. งบฯ ประจำปีของกองทัพบก วิธีการจัดซื้อโดยการกำหนดราคา และจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษ มีผู้แทนตรวจรับ ทดสอบในพื้นที่จริงก่อนตรวจรับชัดเจน ส่วนราคานั้นคิดว่าไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับเสียชีวิตคน
พ.อ.จตุพร กลั่มพสุ หัวหน้าฝ่ายข่าว กองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายข่าวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ผลของการใช้เครื่องจีที 200 โดยจากการสนธิกำลังพล ตั้งแต่ปี 2551 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันสามารถตรวจหาวัตถุระเบิดได้ 107 ครั้ง อาวุธปืน 72 กระบอก กระสุน 822 ลูก สารตั้งต้นประกอบวัตถุระเบิด 137 กิโลกรรม ประกอบระเบิดได้ 111 ลูก ดินระเบิดไดนาไมท์ 135 แท่ง สกัดการระเบิดได้ 640 ครั้ง สรุปได้ว่าป้องกันการเกิดเหตุระเบิด 700 ครั้ง ป้องกันชีวิตของบุคลากร ชาวบ้านในพื้นที่ได้ 7,500 คน ขณะนี้ยังไม่มีเครื่องอื่นที่ดีกว่านี้
ทางด้าน พล.ต.อักษรา เกิดผล เจ้ากรมยุทธการทหารบก กล่าวว่า ที่ผ่านมากองทัพบกขอความช่วยเหลือจากกองทัพอากาศ เรื่องเครื่องจีที 200 เพื่อใช้งานในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจ หลังจากนั้นได้ขอซื้อมาใช้เอง และใช้มาแล้วเป็นระยะเวลา 2 ปี ได้ผลดี และมีแผนที่จะซื้อประจำหน่วยต่างๆอีก แต่เราเองก็ยังเชื่อมั่นในตัวบุคคล ไม่ได้ฝากชีวิตไว้กับเครื่องมืออย่างเดียว
ขณะที่เจ้าหน้าที่จากกองทัพอากาศ กล่าวว่า กองทัพอากาศ ได้ศึกษาเครื่องจีที 200 ในพื้นที่จริง กับ สถานการณ์จริง มาเป็นระยะเวลา 1 ปีแล้ว จึงได้ตัดสินใจซื้อเครื่องดังกล่าวมาใช้งาน และจากการใช้งานก็ได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจมาก ที่ผ่านมาได้ช่วยประสานกองกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจคนหาย ตรวจยาเสพติด อาวุธปืน วัตถุระเบิด หลายครั้งหลายเหตุการณ์ ซึ่งก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจและยังไม่พบเครื่องอื่นที่ใช้ได้ดีกว่านี้.
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่หอประชุมกองทัพบก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารจากกรมสรรพาวุธทหารบก กรมส่งกำลังบำรุง และ กรมยุทธการทหารบก และกองทัพอากาศ แถลงข่าวเกี่ยวกับเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 หลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงผลการทดสอบโดยศูนย์เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) พบว่าไม่ได้มาตรฐาน ชี้เป้าถูกเพียง 4 ครั้งจาก 20 ครั้ง
โดย พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การออกมาชี้แจงครั้งนี้ เป็นความต้องการของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคใต้ ที่ปฏิบัติงานเพื่อความมั่นคงของชาติ ไม่มีเครื่องมือในการตรวจสอบ ที่ผ่านมาก็ยืนยันว่าเครื่องจีที 200 ใช้ได้ผลมากกว่า 300 ครั้ง แม้ว่าจะไม่ได้มองเรื่องผลทางวิทยาศาสตร์ แต่ความต้องการมาจากหน่วยปฏิบัติ ดังนั้นผู้บัญชาการซึ่งเป็นคนสนับสนุนต้องจัดให้ ส่วนที่ถามว่าทำไมไม่ใช้เครื่องมืออื่น อยากบอกว่ามันมีความแตกต่างกับสุนัข ไม่สามารถตรวจได้ทุกชั้นทุกห้อง และไม่สามารถอยู่หน้าประตูบ้านและบอกว่าข้างในมีอะไร ส่วนเครื่องอื่นๆ เช่น โฟโด้ หรือ ไอออนสแกน ต้องเอาเสื้อที่เปื้อนมาเข้าเครื่องถึงจะตรวจสอบได้ อีกอย่างการใช้สุนัขนั้นจะขัดกับประเพณีของพี่น้องมุสลิมในภาคใต้ ที่จะเอาสุนัขเข้ามัสยิด เข้าบ้านไม่ได้
"เราเคารพการตรวจสอบของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่เราก็เชื่อผู้ที่มีประสบการณ์ของเรา ต่อข้อถามที่ว่ามีการทุจริตหรือไม่ ผมยืนยันว่าดำเนินการตรวจสอบได้หมด ไม่ว่าจะเป็น สตง.(สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน) ป.ป.ช.(คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) สื่อ ผู้ตรวจสอบ และหากผิดแม้แต่ผมเองก็ต้องได้รับโทษ ถึงขณะนี้รัฐบาลเองยังไม่ได้สั่งห้ามใช้ ก็อนุญาตให้ใช้ไปก่อน"
ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ระบุว่า จะเชิญเจ้าหน้าของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมชี้แจง และอธิบายรายละเอียดพร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่หทารที่ปฏิบัติงาน ในพื้นที่ด้วย
ด้าน พล.ต.ศุภกร สงวนชาติศรไกร เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบก กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน มีการจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด จีที 200 จำนวน 757 เครื่อง โดยที่ผ่านมารัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ิ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซื้อจำนวน 59 เครื่อง สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช 7 เครื่อง สมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ 44 เครื่อง และรัฐบาลปัจจุบัน จำนวน 547 เครื่อง เหตุผลที่ต้องซื้อเป็นเพราะใช้ได้ผลและเป็นความต้องการของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เสี่ยงและอันตราย ในส่วนของราคาที่แตกต่างกันแต่ละหน่วยงานนั้น เป็นเพราะใช้ในวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน บางหน่วยอาจใช้เฉพาะตรวจยาเสพติด ตรวจคนเสียชีวิต ตรวจวัตถุระเบิด ตรวจปืน เป็นต้น
ส่วนงบประมาณที่จัดซื้อนั้น แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1. การบริจาค 2. งบฯจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และ 3. งบฯ ประจำปีของกองทัพบก วิธีการจัดซื้อโดยการกำหนดราคา และจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษ มีผู้แทนตรวจรับ ทดสอบในพื้นที่จริงก่อนตรวจรับชัดเจน ส่วนราคานั้นคิดว่าไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับเสียชีวิตคน
พ.อ.จตุพร กลั่มพสุ หัวหน้าฝ่ายข่าว กองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายข่าวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ผลของการใช้เครื่องจีที 200 โดยจากการสนธิกำลังพล ตั้งแต่ปี 2551 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันสามารถตรวจหาวัตถุระเบิดได้ 107 ครั้ง อาวุธปืน 72 กระบอก กระสุน 822 ลูก สารตั้งต้นประกอบวัตถุระเบิด 137 กิโลกรรม ประกอบระเบิดได้ 111 ลูก ดินระเบิดไดนาไมท์ 135 แท่ง สกัดการระเบิดได้ 640 ครั้ง สรุปได้ว่าป้องกันการเกิดเหตุระเบิด 700 ครั้ง ป้องกันชีวิตของบุคลากร ชาวบ้านในพื้นที่ได้ 7,500 คน ขณะนี้ยังไม่มีเครื่องอื่นที่ดีกว่านี้
ทางด้าน พล.ต.อักษรา เกิดผล เจ้ากรมยุทธการทหารบก กล่าวว่า ที่ผ่านมากองทัพบกขอความช่วยเหลือจากกองทัพอากาศ เรื่องเครื่องจีที 200 เพื่อใช้งานในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจ หลังจากนั้นได้ขอซื้อมาใช้เอง และใช้มาแล้วเป็นระยะเวลา 2 ปี ได้ผลดี และมีแผนที่จะซื้อประจำหน่วยต่างๆอีก แต่เราเองก็ยังเชื่อมั่นในตัวบุคคล ไม่ได้ฝากชีวิตไว้กับเครื่องมืออย่างเดียว
ขณะที่เจ้าหน้าที่จากกองทัพอากาศ กล่าวว่า กองทัพอากาศ ได้ศึกษาเครื่องจีที 200 ในพื้นที่จริง กับ สถานการณ์จริง มาเป็นระยะเวลา 1 ปีแล้ว จึงได้ตัดสินใจซื้อเครื่องดังกล่าวมาใช้งาน และจากการใช้งานก็ได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจมาก ที่ผ่านมาได้ช่วยประสานกองกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจคนหาย ตรวจยาเสพติด อาวุธปืน วัตถุระเบิด หลายครั้งหลายเหตุการณ์ ซึ่งก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจและยังไม่พบเครื่องอื่นที่ใช้ได้ดีกว่านี้.
