บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ตามเส้นทางเช็ค 1.8ล้าน สร้าง"บ้านทักษะชีวิต"หรือเข้ากระเป๋า"ป๋าเปรม"

ที่มา มติชน



หลังจากที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงอ้างว่าได้ติดตามเส้นทางการเงินของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ขณะดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มีความสัมพันธ์อันดีกับบุคคลชั้นนำในสังคมและกลุ่มทุนรวมทั้งกลุ่มธุรกิจใหญ่ในประเทศไทยมากมายพร้อมนำหลักฐานมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน

หลักฐานดังกล่าวเป็น เช็คที่สั่งจ่ายโดย นางกัลยาณี พรรณเชษฐ์ ประธานบริษัทเอ็มเอ็มซี สิทธิผล จำกัด ได้จ่ายเช็คของธนาคารกรุงเทพ สาขาหัวหมากใ เช็คทั้ง 2 ใบสั่งจ่ายระบุชื่อ พล.อ.เปรม ใบละ 1.8 ล้านบาท โดยใบแรกคือเช็คเลขที่ 3745366 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2546 และใบที่ 2 คือเช็คเลขที่ 3748879 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2547


ขณะที่นายวัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย ในฐานะบุตรชายนางกัลยาณี แถลงชี้แจงถึงที่มาที่ไปของเช็คว่า เป็นเงินที่นางกัลยาณีให้กับ พล.อ.เปรมในฐานะญาติผู้ใหญ่รวบรวมไปทำบุญสร้างอาคารบ้านทักษะชีวิต ในวัดสวนแก้วของพระพยอม ระหว่างปี 2546-2547 เพื่อเป็นที่พักของคนต่างจังหวัดที่เดินทางมาทำธุระในกทม.แต่ไม่มีที่อยู่อาศัยได้อยู่


ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดจึงไม่โอนให้กับวัดสวนแก้วกลับโอนให้ พล.อ.เปรมแทน นายวัชระ กล่าวว่า ปกติเวลาทำบุญร่วมกัน จะมีการฝากไว้ทำบุญ ซึ่งพล.อ.เปรมก็เป็นผู้ใหญ่ที่นับถือจึงให้เป็นคนรวบรวม และการให้เงินทำบุญดังกล่าว เป็นงานก่อสร้าง จึงให้เงินเป็นระยะๆ โดยชำระเงินเป็นงวดๆ 4-5 ครั้ง รวม 6 ล้านกว่าบาท โดยมีใบอนุโมทนาบัตรรับเงินเรียบร้อย

"เงินทำบุญจำนวนไม่มาก จึงจ่ายเช็คให้ผู้รับเหมาก่อสร้างที่ทำงานให้กับวัด"


@ทำไมไม่สั่งจ่ายผู้รับเหมา


นายวัชระ กล่าวว่า สาเหตุที่จ่ายผ่าน พล.อ.เปรมเพราะต้องการให้ พล.อ.เปรมเข้าไปดูการก่อสร้าง ให้ได้ความรวดเร็วมากขึ้น เช็คในการทำบุญครั้งนี้ จึงสั่งจ่าย พล.อ.เปรมทั้งหมด เพราะเหมือนทำบุญทอดกฐินด้วยกัน ก็จะให้ผู้ใหญ่เป็นผู้รวบรวม


@เมื่อถามว่าตรวจสอบว่าเงินถึงวัดครบหรือไม่


"ครบสิครับ เพราะอาคารก็สร้างเสร็จ แล้วทุกครั้งที่จ่ายเงินก็มีใบอนุโมทนาบัตรทุกครั้ง วัดจึงไม่ได้เงินแต่ได้อาคารปลูกสร้างไปเลย ซึ่งเป็นหลักการที่ดีกว่าให้เงินไปอยู่ที่ใครที่ไหนก็ไม่รู้"


@นอกจากเครือข่ายบุญเคยทำอย่างอื่นร่วมกันหรือไม่


พล.อ.เปรมไม่เคยเป็นที่ปรึกษาบริษัทใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเพียงผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ และมีเจตนารมณ์ทำประโยชน์ต่อสาธารณะอยู่ตลอดเวลา


@กลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่านางกัลยาณีอยู่ในคณะ 11


จริงๆ คณะที่เรียกว่าเพื่อน 11 เป็นกลุ่มเพื่อนที่รู้จักกันมากกว่า เหมือนเรามีเพื่อน 5 คน 10 คน ก็มาเจอกันบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา ยืนยันไม่ได้ตั้งขึ้นเพื่อทำธุรกิจหรือมีจุดประสงค์อื่น ที่สำคัญไม่ได้เจอกันบ่อย เพราะแต่ละคนต่างมีหน้าที่อยู่แล้ว ส่วนเรื่องการทำบุญ ตนทราบมาว่า คุณลุงคุณป้าในกลุ่ม 11 ใจบุญกุศลตลอดเวลาอยู่แล้ว

@ทุกครั้งที่คณะ 11 ทำบุญร่วมกันจะสั่งจ่ายเช็คให้ พล.อ.เปรมรวบรวมใช่หรือไม่


เรื่องนั้นตนไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับความสะดวก กรณีมารดาตนก็ทำบุญตลอดเวลา หลายครั้งก็ไม่ได้ให้ พล.อ.เปรมเป็นผู้รวบรวมเงิน ทำบุญเองก็มี ใช้ชื่ออื่นก็มี


@พร้อมให้สอบสวนหรือไม่


ตนทราบว่าหลักฐานมีพร้อมมูล หากจะตรวจสอบไม่มีปัญหาอยู่แล้ว


@ในอนาคตยังจะให้นางกัลยาณีเลิกทำบุญร่วมกับ พล.อ.เปรมหรือไม่


ตอบแทนไม่ได้ เพราะใครทำบุญ ก็คงคิดว่าได้รับกุศล คงทำต่อไป


@เท่าที่ประเมินคิดว่าใครส่งข้อมูลให้กลุ่มคนเสื้อแดงมีหนอนบ่อนไส้หรือไม่


เรื่องเกิดนานแล้วปี 2546-47 ตนจึงไม่ทราบว่ามีคนในเอาเอกสารไปให้ใครหรือไม่ เพราะเรานำเงินไปทำบุญจริงๆ คนที่ทำบุญก็ได้รับการสอนให้มีจิตกุศล คงไม่คิดอะไร


"ความสัมพันธ์ของคุณแม่กับ พล.อ.เปรม ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะเรื่องนี้เป็นแค่การทำบุญ ทั้งสองคนก็นับถือกันนานแล้ว เท่าที่ผมจำความได้ แต่ความนับถือไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเลย เป็นเพียงความเคารพนับถือกัน เรื่องที่เกิดขึ้น ผมพอทราบอยู่บ้างว่า คนเสื้อแดงเอาหลักฐานมาจากที่ไหน แต่ฐานะผู้แทนการค้าไทยคงพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะสำเนาเช็คที่ไปบริจาคนอกจากตัวคุณแม่ของผมแล้ว ก็มีแต่ที่วัดสวนแก้วเท่านั้นที่มี"


ภายหลังการแถลงข่าว นายวัชระได้นำภาพถ่ายอาคารบ้านทักษะชีวิตที่สร้างเสร็จแล้วมาแสดง พร้อมสำเนาเช็คเลขที่ 3745366 ที่นางกัลยาณีสั่งจ่าย พล.อ.เปรม จำนวน 1.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นฉบับเดียวกับที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดงมาเปิดเผย แต่ช่วงล่างของสำเนา มีการลงชื่อรับเงินโดยวิศวกรผู้รับเหมาเพื่อก่อสร้างอาคารในวัดสวนแก้ว รวมถึงสำเนาในอนุโมทนาบัตรจากวัดสวนแก้ว ลงนามโดยพระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ รับเงินบริจาค 1.8 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าผู้สั่งกลับใช้ชื่อบริษัท เอ็มเอ็นเอช โฮลดิ้ง จำกัด ทั้งที่นายวัชระอ้างว่า พล.อ.เปรมเป็นผู้รวบรวมเงินนำไปบริจาคให้กับวัด เมื่อถามถึงเรื่องนี้ นายวัชระ กล่าวว่า "อย่าไปคิดอะไรมากมาย การบริจาคเงินจะใช้ชื่อไหนก็เหมือนกัน"


บ้านทักษะชีวิต สร้างขึ้นเพื่อรองรับเด็กเร่ร่อนเกิดจากปัญหาของสังคม ยากจน แรงงานย้ายถิ่น ปัญหายาเสพติด อาชญากรรม การล่อลวงทางเพศ การติดเชื้อโดยเฉพาะโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง มูลนิธิรัฐบุรุษ โดยคำแนะนำของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานกิตติมศักดิ์ และประธานมูลนิธิรัฐบุรุษ นายแพทย์ประสพ รัตนากร ได้จัดทำเป็นโครงการทดลองขึ้น ที่วัดสวนแก้ว เป็นศูนย์พัฒนาเด็ก และได้ประสานงานกับคณะกรรมการของ "มูลนิธิสวนแก้ว " เพื่อสนับสนุนสิ่งที่ขาดอยู่ คือ หอพักอาคารเรียนเด็กชาย เด็กหญิง

เพื่อให้เป็นโครงการต่อเนื่องในการพัฒนาเยาวชน ให้กลับเข้าสู่สังคมอย่างมีคุณภาพ ซึ่งวัดสวนแก้วได้สนับสนุนในการกินอยู่ มีงานทำในวัด มีรายได้ มีโรงเรียนใกล้เคียง ให้การศึกษาและมีอาสาสมัครช่วยเป็นพี่เลี้ยง ให้เด็กได้ปรึกษา และเรียนรู้อย่างอบอุ่น มีการสอนและอบรมธรรมะ เพื่อให้เด็กได้ยึดมั่นในศีลธรรม และคุณความดี โดยใช้บริเวณพื้นที่ในมูลนิธิสวนแก้ว ที่พระอาจารย์พยอม กัลยาโณ มอบที่ดินเพื่อการก่อสร้างโครงการบ้านทักษะชีวิต


ล่าสุดพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ประธานมูลนิธิวัดสวนแก้ว ออกมาชี้แจงถึงบ้านทักษะชีวิตเป็นอาคาร 2 ชั้น กว้างประมาณ 10 ม. ยาว 20 ม. จำนวน 2 หลัง มีป้ายเขียนว่า "มูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ บ้านทักษะชีวิต สวนแก้ว" ว่า ใช้เงินสร้างเท่าไหร่ไม่รู้ แต่สุดท้ายก็เกิดการทรุดจนต้องซ่อมอีกกว่าล้านบาท

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker