บ่อยครั้งที่ช่วงหลังๆ มานี้ “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ” ชอบหยิบยกเอาเรื่องจากวรรณกรรม“สามก๊ก” มาพูดปราศรัยบนเวทีเสื้อแดงแบบไม่แทงกั๊กและบ่อยครั้งอีกเช่นกันที่ชอบเอ่ยนามถึงตัวละครเด่นอย่าง “โจโฉ” ซึ่งฟังแล้วเพลินได้ทั้งความรู้และมุมมองในแนวคิดพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดงผู้ที่เขียนหนังสือ คม...เสธ.แดง ของตัวเองแล้วใช้นามปากกาว่า “ยะยี่เอ๋ง”เป็นทหารนักรบใจกล้าบ้าเกินพิกัดอีกคนหนึ่งที่ศึกษาและอ่านสามก๊กไม่น้อยกว่าสิบครั้ง ถึงกับตั้งนาม
ปากกาของตัวเองว่า “ยะยี่เอ๋ง”กระทั่งเมื่อไม่กี่วันก่อนก็เห็นพูดผ่านสื่อว่า...ในอดีต ม.ร.ว.ศึกฤทธิ์ ปราโมทย์เคยเรียก “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ว่าเป็น “โจโฉ” ผู้ไม่เคยแพ้ใครจึงทำให้สนใจเรื่องสามก๊กเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา...อันมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องโดยการประยุกต์เข้ากับ “การเมืองไทย”เมื่อมีโอกาสได้เตร็ดเตร่เข้าไปในร้านหนังสือชั้นนำก็พบหนังสืออยู่เล่มหนึ่งชื่อว่า “อ่านสามก๊ก ต่อยอดทางความคิดพินิจการใช้คน” เขียนโดย คุณฐาปนีย์อตีตาซึ่ง
ในเนื้อหาเขาว่า...เป็นการเอาวิชา โหราศาสตร์ชั้นสูง มาถอดและแปลความหมาย...เพื่อสื่อให้เห็นความเป็นสามก๊กในแต่ละก๊กโดยเฉพาะก๊กแรกที่ผู้เขียนเขาเขียนถึงคือ ก๊กศักดินา (วุยก๊ก) โดยในหนังสือเล่มนี้เขาบอกว่า “โจโฉ” เป็นทหารที่เคร่งครัดในวินัยอย่างมากแม้กฎที่ตนเองวางไว้...แต่หากตนเองทำผิดก็ยังจะลงโทษตัวเองด้วยการจะ“ตัดหัว” แต่ได้ถูกค้านเอาไว้ จากนั้นโจโฉเลยตัดผมตัวเองประจานแทนเนื้อหาในเล่มยังบอกเป็นนัยว่า โจโฉแม้จริงๆ แล้วจะมี จุด
อ่อน มากกว่า จุดดีแต่โจโฉก็เป็นนายทหารที่ไม่เคยเลือกปฏิบัติในด้านวินัยกับลูกน้อง หรือที่เราเรียกกันติดปากในเวลานี้ว่า “2 มาตรฐาน”ดูๆ แล้ว “โจโฉ” เป็นทหารที่โหดเหี้ยมมาก เหมือนเป็นคน “ชั่วช้า” ไร้ซึ่งจิตใจ...ชอบหักหลัง ชอบแอบลอบสังหาร และอะไรอีกมากมายแต่ทว่าสิ่งที่ “โจโฉ” โดดเด่น...นอกจากการอ่อนน้อมถ่อมตนและยกย่องคนเก่งแล้ว “โจโฉ” ไม่เคยมี 2 มาตรฐานกับลูกน้องของตัวเองโดยเฉพาะในยามนี้ที่บรรยากาศ “คนเสื้อแดง” เริ่มหันมา
สนใจสามก๊กมากขึ้น...เพราะแรงขับเคลื่อนที่ ณัฐวุฒิ ออกมาพูดมาเล่าให้ฟังอยู่บ่อยครั้งโดยเฉพาะสิ่งที่ปรากฏจากประวัติศาสตร์ย่อมมีความแตกต่างจากความเป็นจริงอยู่หลายแง่มุมวันนี้ ทหารหลายกองพันหลายกองร้อย ออกมาตบเท้าแสดงออกถึงจุดยืนในสิ่งที่จะเชื่อฟังคำสั่งของ “ผู้บังคับบัญชา”ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี และ ควรกระทำโดยมีเรื่องการสอดแทรกเกี่ยวกับกรณี“เสธ.แดง” ที่ออกมากระทำ การท้าทายผู้บังคับบัญชา ซึ่งใครหลายคนในสังคมบอกว่า “เสธ.แดง” ห่าม
เกินเหตุแต่หากหลับตามองและลองนึกภาพดู...โดยระลึกถึงความวุ่นวายในบ้านเมืองยามนี้ที่ “ผู้มีอำนาจ” โดยเฉพาะทหารชุดเขียว...แสดงออกซึ่ง “ความไม่มีใจ” ให้ประชาชนแต่กลับไปให้ใจกับคำสั่งของ “ผู้บังคับบัญชา” ที่สั่งการให้กระทำในสิ่งที่มิชอบ...ที่ว่า “มิชอบ” คือพวกเขาทำเพื่อ “ปกป้อง” พวกเดียวกันเอง...มิใช่เพื่อประชาชนดังนั้น การกระทำของ “เสธ.แดง” คงเป็นความห่ามที่ยังพอมีเหตุและผล...แต่ที่พิสูจน์ได้อย่างหนึ่งคือ...เขาไม่ได้ห่ามบ้าเพื่อตัวเอง
โดยเฉพาะ “ทหารหาญ” ต้องไม่ลืมคำว่า “ชาติ” นั่นหมายถึง ประชาชนคนไทยทุกคนไม่ใช่ประชาชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือ คนใดคนหนึ่งอย่างกรณีของ “เสธ.แดง” มันก็เหมือนสำนวนไทยยิ่งกว่า “การพายเรืออยู่ในอ่าง”เพราะสิ่งที่ “เสธ.แดง” กระทำ...มันก็จะสะท้อนให้เห็นถึงการปฏิบัติของทหารในยศตำแหน่งที่ลดหลั่นกันลงมาหากมีคนบอกว่า เสธ.แดง ไม่ดีต่อ “ผู้บังคับบัญชา” ที่มียศตำแหน่งเหนือกว่าแต่วันนี้ก็ได้เห็นทหารออกข่าวมาตำหนิเสธ.แดง มากมายซึ่งล้วน
แล้วแต่ไม่มีใครยศที่สูงกว่าเสธ.แดง เลยทั้งสิ้นอย่างนี้เรียกว่า...เป็นการตำหนิผู้บังคับบัญชาหรือผู้ที่มียศสูงกว่าหรือไม่ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาสายตรงก็ตามทีเห็นแล้วทำให้อดคิดถึงเรื่องราวของสามก๊กในตัวละครที่ชื่อว่า “โจโฉ” ไม่ได้...เพราะแม้จะถูก “ตราหน้า” ว่าเป็นทหารเลวสุดๆแต่กับ “โจโฉ” เขาเป็นนักรบกล้าที่ไม่มีคำว่า 2 มาตรฐาน...ถึงอย่างไรก็ดูองอาจกว่าเป็นไหนๆจริงหรือไม่? เมื่อเปรียบเทียบกับนักรบไทยของเราบางคน!
