บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

"เสธ.แดง"เตือน"อนุพงษ์"ระวังติดคุก ทุจริตจีที200 ยังมีแฉอีกเยอะ นายกฯปัดไม่แตะกองทัพโวเจอฟันแน่

ที่มา มติชน

"เสธ.แดง"เตือน"อนุพงษ์"ระวังติดคุก ทุจริตจีที200แค่ไม้ลวงโลก นายกฯปัดไม่กล้าแตะกองทัพ คุยไม่เกรงใจใครแต่ต้องเห็นใจคนทำงาน ย้ำเมื่อพิสูจน์ชัดเครื่องจีที 200ลวงแล้ว ต้องแก้ไข หากไม่ชอบมาพากลก็ต้องจัดการ "เพื่อไทย"ถามกลัวอะไรอยู่ ชาติเสียหายเป็นพันล. ต้องตั้งกก.สอบทุจริต อย่าดีแต่พูด


พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ถึงกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และพล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 (มทภ.4) ยืนยันว่า เครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 ใช้ได้จริงว่า ขอเตือน พล.อ.อนุพงษ์ อย่าดันทุรัง และขอให้ยอมรับว่าจีที 200 เป็นเพียงกระบอกเซียมซีที่ใช้ไม่ได้ รวมถึงประเทศอังกฤษก็ได้ออกมาพิสูจน์แล้วว่าจีที 200 เป็นแค่ไม้ลวงโลก ทำอะไรไม่ได้ ขอเตือนว่าระวังจะติดคุก ตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์อุ้ม พล.อ.อนุพงษ์ อยู่เพราะกลัวว่าจะปฏิวัติ จึงเอาใจ เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกัน แต่อีก 7-8 เดือน เมื่อ พล.อ.อนุพงษ์เกษียณอายุราชการ แล้วมีโจทก์ฟ้องศาล พล.อ.อนุพงษ์ อาจจะต้องถูกดำเนินคดี และอาจโดนศาลสั่งจำคุก เหมือนกรณีที่นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ต้องหนี เพราะถูกพิพากษาจำคุกในคดีทุจริตโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน


"ความจริงเครื่องราคาแค่พันกว่าบาท แต่ไปสั่งซื้อราคาเครื่องละล้านกว่าบาท ดังนั้น ขอให้ยอมรับว่าจีที 200 ใช้ไม่ได้ จะได้ไม่ติดคุก และขอให้ลาออกไป ยังมีเรื่องอื่นอีกเช่น การเอาเงินออมทหารของกองทัพไปซื้อหุ้น ซึ่งมีข้อห้ามว่า ห้ามนำเงินนี้ไปใช้ผิดประเภท อีกทั้งเรื่องบอลลูน รถจี๊ปติดเกราะ และรถหุ้มเกราะยูเครนอีก ซึ่งขณะนี้มีคนกำลังจ้องเล่นงานอยู่ ซึ่ง เสธ.แดงตั้งข้อสังเกตว่า ตั้งแต่พักราชการ เสธ.แดงนั้น พล.อ.อนุพงษ์ก็มีแต่เรื่องซวยเข้ามาหา" พล.ต.ขัตติยะกล่าว


พล.ต.ขัตติยะกล่าวว่า เรื่องนี้ พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 อย่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง อย่าเอาใจนายหวังขึ้นมาเป็น 5 เสือ ทบ. เพราะเป็นแม่ทัพ เท่กว่า พล.ท.พิเชษฐ์ที่เป็นนักรบเหมือนกับตนรู้อยู่ว่าจีที 200 ใช้ไม่ได้ ดังนั้น อย่าทิ้งอุดมการณ์เอาใจนาย อย่าเข้าข้างนายในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และอย่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง อย่ามาอยู่บนซากศพของลูกน้อง ผู้ใต้บังคับบัญชา


ก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ตามแนวชายแดน อ.แม่สอด จ.แม่ฮ่องสอน ยังใช้เครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที 200 อยู่ แม้ว่ากระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตรวจพิสูจน์แล้ว พบไม่มีประสิทธิภาพว่า การใช้นั้นผู้ใช้ต้องรู้ว่ามีความเสี่ยง และต้องทราบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ โดยในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ได้ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯทำแผนมารายงานคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะจัดส่งบุคลากรไปทำความเข้าใจและช่วยกระทรวงกลาโหมกับกองทัพในการปรับแผนการปฏิบัติงานอย่างไร จะได้นำไปสู่การยกเลิกการใช้เครื่องมือได้


ส่วนเรื่องที่นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ออกมาระบุก่อนหน้านี้เคยมีการเชิญ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ไปรับทราบข้อมูลเครื่องจีที 200 แต่ ผบ.ทบ.ระบุว่าอังกฤษเลิกใช้แต่ไม่มีข้อห้ามนั้น นายกฯกล่าวว่า ต้องไปดูข้อเท็จจริงในช่วงนั้น เนื่องจากข้อโต้แย้งดังกล่าวมารุนแรงในช่วงหลังที่มีการพิสูจน์เครื่อง เอดีอี 651 ที่เป็นข่าวออกมา และรัฐบาลไม่ได้ละเลย แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้บริษัทอ้างเสมอว่าเครื่องไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ อาจจะมีความผิดพลาดได้ จึงไม่มีการพิสูจน์กันเป็นระบบ แต่ขณะนี้เมื่อพิสูจน์กันเป็นระบบแล้วต้องมีการแก้ไขต่อไป


ผู้สื่อข่าวถามว่า จะตรวจสอบข้อมูลหรือไม่ ว่าทางกองทัพรับทราบเครื่องมีปัญหา ตั้งแต่เมื่อไหร่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะให้กองทัพรายงานมาทั้งหมด เพื่อดูว่าจะให้ทดแทนด้วยอะไร กำลังให้เขาเสนอ แต่ได้พูดเสมอว่าเวลาที่ลงพื้นที่ในช่วงปีที่ผ่านมา ผู้ปฏิบัติงานจะเรียกร้องขอให้ซื้อเครื่องนี้เพิ่มแทบทั้งสิ้น ด้วยความเชื่อ และมั่นใจว่าใช้ได้ และคนที่ไม่มีใช้ต้องการมีใช้บ้าง ผู้บังคับบัญชาก็รับฟังจากผู้ปฏิบัติ ว่าอะไรใช้ได้ ไม่ได้ และเครื่องประเภทนี้ ไม่ว่าจะมีกี่ยี่ห้อก็ตามมันเหมือนกันทั้งหมด มีหลักการทำงานเดียวกัน ดังนั้น หากมีการหลอกลวงก็หมายความว่าหลอกลวงด้วยกันทั้งหมด แต่จะให้มีการตรวจสอบทั้งหมด และหากมีความไม่ชอบมาพากลก็ต้องจัดการ


สำหรับเสียงวิจารณ์ ขณะนี้นายกฯไม่กล้าไปดำเนินการอะไร เพราะไม่ต้องการแตะกองทัพนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ใช่ ไม่เกี่ยวว่าเป็นกองทัพหรือไม่ แต่เป็นประเด็นที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่มีความกังวล เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีความเชื่อมั่นมาก และกระทบต่อขวัญและกำลังใจ ในทางกลับกัน ถ้าสั่งห้ามทันทีโดยที่ยังไม่ได้อธิบาย และเขาไม่เชื่อ เขาใช้ต่อไปก็จะถามกันอีกว่ามีความผิดหรือไม่มันก็จะเป็นปัญหาเกิดความขัดแย้ง และถ้าเขาไปมือเปล่าแล้วเกิดอะไรขึ้นก็จะมีการตำหนิรัฐอีกว่าไม่มีแผนรองรับทดแทน ดังนั้น จึงขอบอกว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเป็นความเกรงใจใคร แต่นึกถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ต้องเห็นใจคนทำงานตรงนั้นด้วย "ผมก็ไม่ได้ช้า การรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรยังไม่เสร็จ แต่ผมได้ประกาศไปแล้วเพื่อให้เตรียมการ และใน ครม.กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯจะได้รายงานแผนที่เตรียมมา เพื่อดำเนินการกับกองทัพ" นายกฯกล่าว


ขณะที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า การจัดซื้ออัลฟ่า 6 ของกระทรวงมหาดไทย เป็นการดำเนินการโดยวิธีพิเศษไม่มีการยื่นซองประกวดราคา และกระทำแบบเร่งด่วนลุกลี้ลุกลน และเป็นการใช้เงินท้ายปีงบประมาณที่ชวนให้สงสัยน่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้น โดยมหาดไทยซื้อเครื่องอัลฟ่า 6 ในราคา 720,000 บาท และจัดซื้อไปแล้วเกือบ 400 ล้านบาท และพบว่าเครื่องราคาสูงกว่าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จัดซื้อ ในราคาเครื่องละ 400,000 บาทเศษ และล่าสุด เครื่องอัลฟ่า 6 ซึ่งเป็นเครื่องตระกูลเดียวกับจีที 200 ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯได้ทดสอบแล้วว่าไม่มีคุณภาพตามที่กล่าวอ้าง ซึ่งเครื่องอัลฟ่า 6 ก็น่าจะใช้งานไม่มีประสิทธิภาพเปรียบเหมือนไม้เสี่ยงทายเช่นเดียวกับเครื่องจีที 200


โฆษก พท.กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนมาจากเจ้าหน้าที่บางคนว่าเครื่องอัลฟ่า 6 ใช้ไม่ได้ผล ต่างจากข้อมูลนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รับประกันว่าใช้ได้ดีไม่มีปัญหา น่าจะเป็นเครื่องลวงโลกเช่นกัน คณะทำงานได้รวบรวมหลักฐานของการจัดซื้อเครื่องอัลฟ่า 6 ที่น่าจะทุจริตของกระทรวงมหาดไทย และจะยื่นเอาผิดกับผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการที่เกี่ยวข้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในสัปดาห์หน้า


นายพร้อมพงศ์กล่าวถึงเครื่องจีที 200 ว่า ขอถามว่าเหตุใดนายอภิสิทธิ์ไม่กล้าตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตซื้อเครื่องจีที 200 จากกองทัพบกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขึ้น เหมือนกับกลัวอะไรอยู่ ทั้งที่ประชาชนและประเทศชาติเสียหายจากเงินภาษีเกือบพันล้านบาท แต่นายกรัฐมนตรีกลับสร้างภาพโดยใช้คำพูดว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับกองทัพและหน่วยงานที่จัดซื้อ ทั้งที่ชีวิตของข้าราชการทหาร ตำรวจ ชั้นผู้น้อย รวมถึงประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ต้องบาดเจ็บล้มตาย จากการใช้เครื่องมือที่ไม่มีประสิทธิภาพ นายอภิสิทธิ์กลับไม่พูดถึง และให้ความสำคัญเลย ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ตั้งคณะกรรมการสอบสวนการทุจริต การจัดซื้อเครื่องจีที 200 เพื่อเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง อย่าสร้างภาพรายวันแบบดีแต่พูดแต่ไม่กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง แล้วอยากอยู่ในอำนาจต่อไปโดยไม่สนใจการทุจริตที่โกงเงินภาษีจากประชาชน" นายพร้อมพงศ์กล่าว


นายเอนก จงเสถียร กรรมการบริษัท แอดวานซ์ เอวิโอนิคส์ แอนด์ เอวิเอชั่น จำกัด (เอเอเอ) กล่าวว่า บริษัทไม่ได้เป็นผู้จำหน่าย หรือเกี่ยวข้องกับเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที 200 โดยธุรกิจหลักของบริษัทคือ การดำเนินการเกี่ยวกับระบบนำร่องของเครื่องบิน และระบบคอมพิวเตอร์ เชื่อว่าชื่อของบริษัทกับชื่อบริษัทจำหน่ายเครื่องจีที 200 คล้ายกัน จึงทำให้หลายคนเข้าใจผิด

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker