"จตุพร"หอบเอกสารแฉแผนลับรบ. เตรียมจับกุมแกนนำแดง
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง นำเอกสารหนา 37 หน้ามาเปิดเผยกับสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พร้อมระบุว่า เอกสารดังกล่าวเป็นแผนการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งอาจมองว่า เป็นแนวทางการรักษาความปลอดภัยตามขั้นตอน แต่ความจริงแล้วมีการสอดแทรกดำเนินการจับกุมคนเสื้อแดงและแกนนำ
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า จะไม่มีการชุมนุมที่ศาลฎีกาในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้แน่นอน และขอยืนยันว่าคนเสื้อแดงมีแนวทางการต่อสู้แบบสันติวิธี
ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง แกนนำโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ นพ.เหวง โตจิราการ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท ได้นำกลุ่มคนเสื้อแดง ประมาณ 500 คน ไปชุมนุมที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ด้านหน้าประตูทางเข้า กกต. พร้อมใช้รถบรรทุกหกล้อ ติดป้ายโปสเตอร์ว่า "หยุดสองมาตรฐาน ต้านองค์กรเถื่อน" จากนั้นแกนนำผลัดเปลี่ยนกันโจมตีและเรียกร้องให้ กกต.อย่า 2 มาตรฐาน และเร่งดำเนินการพิจารณากรณีเงินบริจาค 258 ล้าน ของพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจาก กกต.ได้ใช้เวลานานและน่าจะสรุปคดีได้แล้ว ซึ่งมีกำลังตำรวจปราบจลาจลประมาณ 500 นาย ถือโล่ป้องกันอยู่ด้านหลังแผงเหล็กไม่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงเข้าไปใน กกต.
ทั้งนี้ ในส่วนของ กกต.ทั้ง 5 คนนั้น มีเพียงนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต. และนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.เท่านั้นที่มายังสำนักงาน กกต.ตั้งแต่ช่วงเช้า จากนั้นนายอภิชาต และนายวิสุทธิ์รีบทางออกจากสำนักงาน กกต.ในช่วงเที่ยงทันทีที่กลุ่ม นปช.เริ่มปราศรัยและทยอยมาชุมนุมมากขึ้น ขณะที่นายสุทธิพลยังคงดูสถานการณ์ความเรียบร้อยอยู่ในสำนักงาน ส่วนนายประพันธ์ นัยโกวิท และนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ไม่ได้เข้ามาสำนักงานแต่ ขณะที่นางสดศรี สัตยธรรม ได้เดินทางไปพักผ่อนในต่างประเทศในช่วงเทศกาลตรุษจีน
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พท. และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง แถลงว่า ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ เวลา 10.00 น. ที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว จะมีการแถลงเอกสารลับเพื่อปราบปรามกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวน 37 หน้า จากวอร์รูมเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่นายอภิสิทธิ์เป็นประธานประชุมร่วมกับศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย และมีนายสุเทพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ.รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันวางแผนเพื่อล้อมปราบคนเสื้อแดง ภายในเอกสารลับมีการกำหนดเขตพื้นที่ กำหนดวัน กำหนดการวางกำลังอาวุธ มีรายละเอียดว่าหน่วยไหนรับผิดชอบอย่างไร ตนจะขอถามนายอภิสิทธิ์ว่าเป็นประธานวางแผนฆ่าประชาชนได้อย่างไร
นายจตุพรกล่าวว่า เหตุการณ์ยิงเอ็ม 79 ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพาณิชย์พระนคร เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ที่ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงตกเป็นจำเลย ยังเป็นการยิงเพื่อวัดระยะเวทีของกลุ่ม นปช. ที่จะตั้งเวทีบนสะพานชมัยมรุเชฐ โดยคนของรัฐบาลยิงมาจากสนามม้านางเลิ้ง แต่เมื่อพลาดก็ได้ภาพความรุนแรง ส่วนเรื่องระเบิดซีโฟร์ที่วางห่างจากศาลฎีกา 250 เมตร เชื่อว่าเรื่องนี้ทำให้รัฐบาลได้ประโยชน์ และทำให้เสื้อแดง และ พ.ต.ท.ทักษิณเสียประโยชน์
"ขอตั้งข้อสังเกตว่าทั้งเหตุการณ์ระเบิดเอ็ม 79 และระเบิดซีโฟร์ รัฐบาลไม่ตกใจเลย เพราะเป็นการกระทำของรัฐบาล สอดคล้องกับกรณีรถเบียดขบวนรถนายกฯ ถามว่าหน่วยรักษาความปลอดภัยเบียดรถตกขอบแล้วทำไมไม่ให้ตำรวจสอบเจตนา แต่กลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น รวมทั้งกรณีแท็กซี่ติดสติ๊กเกอร์แดงไม่เอาอำมาตย์ ก็ไม่มีการสอบว่ารถคันดังกล่าวมาอย่างไร แต่กลับให้เอแบคโพลล์ไปสัมภาษณ์ว่านายกฯได้รับคะแนนนิยมมากขึ้น" นายจตุพรกล่าว
นายจตุพรกล่าวว่า ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ กลุ่ม นปช.ยืนยันว่าจะไม่มีการไปชุมนุมที่ศาลฎีกา เพราะจุดยืนของ นปช.ชัดเจนว่ากระบวนการพิจารณาคดีของพ.ต.ท.ทักษิณไม่ถูกต้อง ส่วนเหตุที่ยังไม่กำหนดวันชุมนุมใหญ่นั้น เพราะอยากเห็นอิทธิฤทธิ์ของรัฐบาลที่ใช้โมเดลของเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 แล้วมาประยุกต์ใช้กับแผนสงกรานต์เลือด เพื่อใช้เป็นวิธีล้อมปราบประชาชน ส่วนการดาวกระจายต่อไป อาจจะไปธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ หรือไปที่บ้านของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองค์มนตรีและรัฐบุรุษ ที่แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน ที่เชื่อว่ามีการนิติกรรมอำพรางกับที่ปรึกษาของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือเจ้าของบริษัท เบียร์ช้าง เพื่ออธิบายว่าตนเองไม่มีบ้าน ซึ่งนี่เป็นเป้าหมายหนึ่งของการดาวกระจาย
ด้านนายวีระกล่าวว่า วันที่ 26 กุมภาพันธ์ กลุ่มเสื้อแดงจะไม่นัดดีเดย์ แต่เป็นอิสระของคนไทยจะไปที่นั่นกันเอง หลังจากนั้นเวลา 19.35 น.กลุ่มผู้ชุมนุมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี จึงสิ้นสุดการชุมนุมและแยกย้ายกันกลับบ้านอย่างสงบ