บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

นี่หรือคือนายกฯที่ประชาชนภาคภูมิใจ?

ที่มา Thai E-News


โดย ธนโชติ วงศ์จันทร์ชมภู
ที่มา คอลัมน์ "ผมเป็นคนไท...หัวใจสีแดง" นสพ.ไทยเรดนิวส์


ท่านผู้อ่านที่เคารพ หลัง 19 กันยายน 2549 เป็นต้นมา ทุกท่านก็คงมีความรู้สึกไม่แตกต่างจากผู้เขียนเท่าไหรนัก คือรับไม่ได้กับการนำเสนอข่าวของพวกสื่อแพศยากระแสหลัก


ซึ่งเกือบ 95 % มักนำเสนอข่าวและแนวคิดที่เป็น"ปฎิปักษ์"กับประชาชน"ฝ่ายนิยมประชาธิปไตย" โดยเฉพาะกับ"คนเสื้อแดง" แล้วไปเลือกข้างสยบยอม"รับใช้ใต้อุ้งบาท"เผด็จการทหารอำมาตยาสามานย์ และรัฐบาลนอมินี ละทิ้งอุดมการณ์ของสื่อจนหมดสิ้น

ที่เป็นเช่นนั้นท่านผู้อ่านก็คงพอทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นเพราะ หลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 พวกเผด็จการทหารสามานย์ โดย"สนธิ บัง" เขาฉลาด เมื่อทำรัฐประหารเสร็จ

ก็จัดการแต่งตั้ง "นายกสมาคมสื่อ" ทั้ง 3 สมาคม คือ โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ ให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีตำแหน่ง มีเงินเดือน มีเบี้ยเลี้ยง เป็นแสน ๆ (ยัดปาก) ซะให้เข็ด(ปัจจุบันบางคนก็ยังได้ตำแหน่งสว.ลากตั้งเป็นโบนัส และก็ทำหน้าที่ทาสรับใช้ได้ดีซะด้วย)

ทั้งเผด็จการสามานย์ทั้งสื่อแพศยา ผลประโยชน์สมประงค์ลงตัว พวกเราคนไทยตาดำ ๆ จึงได้เห็นการนำเสนอข่าว เกือบทุกช่อง เกือบทุกสถานี และเกือบทุกฉบับ เป็นไปในทางเดียวกัน คือเชียร์ฝ่ายนิยมเผด็จการชนิดยอมรับใช้ใต้อุ้งบาท แล้วก็ไล่พิฆาตประชาชนฝ่ายนิยมประชาธิปไตย ชนิดให้จมพื้นธรณินสิ้นศักดิ์ศรีของความเป็นคนไทยไปเลย

ที่เกริ่นมาข้างต้น ก็เพื่อจะนำเข้าสู่ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหัวเรื่องที่จะเขียนถึงในวันนี้ ซึ่งผู้เขียนได้อ่านเจอในมติชน รายวัน เขาคนนั้น คือ ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ

ดร.วรากรณ์ เขียนบทความซึ่งคล้ายบทยอวาที ในมติชนฉบับดังกล่าว ยกยอปอปั้นอภิสิทธิ์ชนิดที่เรียกว่า"ชะเลียร์"ก็ไม่ปาน ถ้าอภิสิทธิ์ ได้อ่านเจอคงต้องขนหัวลุก และอุธานในใจว่า "ชมจริงรึเปล่าว่ะ !?"

"...ในเบื้องต้นการประเมินต้องเน้นไปที่บทบาทการเป็นนายกรัฐมนตรีของคุณอภิสิทธิ์...ต้องยอมรับว่าคุณอภิสิทธิ์ มีวุฒิภาวะสูง มีพื้นฐานของอารมณ์ที่มั่นคง มีความเป็นผู้นำเด่นชัด ดังจะเห็นได้จากการเกิดวิกฤต ป่วนเมือง ช่วงประชุม ASEAN ที่พัทยา และช่วงสงกรานต์เมื่อปีที่แล้ว เราไม่เคยเห็นความท้อแท้ หวาดหวั่น ขี้ขลาด โลเล ปัสวะให้พ้นตัว ฯลฯ สิ่งที่เราเห็นคือ ความนิ่งในอารมณ์ การตัดสินใจที่อยู่บนเหตุผล..."


อภิสิทธิ์ คือความภาคภูมิใจของนักวิชาการ เชียร์กันสุด ๆ แบบไม่เกรงใจ ยังกะคนที่อ่านมติชนทั้งหลายเป็นสมาชิกพรรค หรือกองเชียร์ประชาธิปัตย์ ที่ต้องปลุกปลอบประโลมใจ(ยามภัยใกล้มาถึง)

การประชุม ASEAN ที่ล้มเหลว เพราะอภิสิทธิ์ปล่อยให้ "เทพมารดำ" กับ "เนรวิน" นำเอาพวกสมุน"แก๊งเสื้อน้ำเงิน" ไปสร้างสถานการณ์จนเกิดการปะทะและวุ่นวาย ปานนี้ยังจับพวก"วายร้ายเสื้อน้ำเงิน"ไม่ได้แม้แต่รายเดียว การสั่งปราบปรามประชาชนในช่วงสงกรานต์เลือด มี"คลิปเสียง"ที่ทางตำรวจยืนยันชัดเจนว่า เป็นเสียง"มาร์ค"จริง

"อำมหิต" ผิดมนุษย์ขนาดนี้ นักวิชาการยังกล้านำมา"ชะเลียร์"ได้โดยไม่กระดาก(ลิ้น)ว่า เป็นนายกที่มีวุฒิภาวะสูง ไม่ท้อแท้ ไม่หวาดหวั่น ไม่ขี้ขลาด ไม่โลเล (ว้าว...!!!)

เขาสั่งปราบปรามประชาชน ถึงขนาดมีการบาดเจ็บล้มตาย คุณนักวิชาการยังกล้านำเอาผลงานอันอัปยศ และสามานย์ของเขามายกย่องชมเชยเป็นตุเป็นตะผ่านสื่อ

ผู้เขียนคิดว่า อภิสิทธิ์ ไม่เท่าไหรหรอก คุณนั้นแหละคือสุดยอดในความรู้สึกของอภิสทธิ์ ดร.วารากรณ์!!!

อีกตอนหนึ่งของบทความเรื่อง"หนึ่งปีของรัฐบาลอภิสิทธิ์" ดร.วรากรณ์ เชียร์อภิสิทธิ์ว่า
"...ในระดับนานาชาติ คุณอภิสิทธิ์ได้ทำหน้าที่ประธาน ASEAN อย่างประสบผลสำเร็จเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ...ไม่อาจปฎิเสธได้ว่า คุณอภิสิทธิ์นำความภาคภูมิใจในการเป็นตัวแทนประเทศมาสู่คนไทย อย่างไม่เคยเกิดขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา"


โธ่ ! ท่านด็อกเตอร์ เชียร์แบบไม่เกรงอกเกรงใจผู้อ่านมติชนเลยนะครับ คงคิดว่าคนอ่านมติชนนี่โง่เง่าเต่าตุ่นนักหนา ไม่รู้ประสีประสากับเหตุการณ์บ้านการเมือง ล่ะซิท่าน ?

การประชุม ASEAN ที่ผู้นำประเทศสมาชิกกว่าครึ่งไม่ยอมมาร่วมในวันเปิดประชุมจนอภิสิทธิ์หน้าแตกหมอไม่รับเย็บ การประชุม ASEAN ที่บรรดาผู้นำประเทศสมาชิกไม่ให้ความสำคัญ ไม่สนใจใยดีกับอภิสิทธิ์ การประชุม ASEAN ที่บรรดาผู้นำประเทศสมาชิกไม่ยอมเข้าพำนักในบ้านพักที่ทางรัฐบาลจัดไว้ต้อนรับ แต่ไปพำนักที่บ้านพักของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ แทน เหล่านี้หรือคือความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ ?

ท้ายบทความ ดร.วรากรณ์ ยังเชียร์อภิสิทธิ์ แบบไม่เกรงใจผู้อ่านอีกว่า
"...ข้อสรุปอันหนึ่งที่อนุมานได้ จากโพลต่าง ๆ ที่มีการเก็บหลายครั้งในช่วงเวลาที่เพิ่งผ่านไปก็คือ ส่วนใหญ่ต้องการให้ทำงานต่อไป โดยเฉพาะตัวนายกรัฐมนตรีคือ คุณอภิสิทธิ์ได้รับการยอมรับในบทบาทของนายกรัฐมนตรี ที่น่าคิดก็คือ ถ้าประชาชนเห็นจริง ๆ ว่าที่ผ่านมาไม่ได้เรื่องไม่มีผลงาน สอบไม่ผ่านแล้ว เหตุใดจึงประสงค์ให้นายกรัฐมนตรีทำงานต่อไปเล่า"


อยากถามท่าน ดร.วรากรณ์ว่า ประชาชนส่วนไหนมากหรือน้อยที่ยอมรับผลงาน และอยากให้อภิสิทธิ์ทำงานต่อ ?

ผู้เขียนคลุกคลีใกล้ชิดชาวบ้านลงพื้นที่เกือบทุกวัน เพราะไปร่วมทำข่าวกับ "ชมรมคนรักประชาธิปไตย จังหวัดหนองบัวลำภู 52" ซึ่งชมรมฯ นี้ เขาไปทำการจัดตั้งมวลจัดตั้งแกนนำระดับหมู่บ้าน/ตำบล/อำเภอ ขยายเครือข่ายเพิ่มพลังมวลชนคนเสื้อแดง แข่งกับกลุ่ม"เนรวิน"ที่ไปแจกแผ่นซีดี และหนังสือโจมตีคนเสื้อแดง

ได้ยินแต่พวกชาวบ้านที่เป็นผู้หญิงบ่นว่า
"เห็นหน้ามาร์คโผล่หน้าหลังโพเดี้ยมทางโทรทัศน์ทีไรอยากเอาผ้าถุงคลุมจอโทรทัศน์เสียทุกที" ส่วนพวกผู้ชายก็บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า "เห็นหน้าครั้งใดในจอทีวี ก็อดใจไม่ได้ที่จะเอาตีนตบ ลูบหน้าอภิสิทธิ์ทุกครั้งเช่นกัน เพราะเบื่อหน้าเต็มทน"


ท่าน ดร.วรากรณ์ มั่นใจอภิสิทธิ์มากขนาดนี้ น่าจะเสนอให้อภิสิทธิ์ "ยุบสภา" เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งซะ ก็สิ้นเรื่อง ดีกว่าจะแหกปากตะโกนเรียกร้องความสมานฉันท์ทุกวี่วัน (แต่การปฎิบัติตรงกันข้าม) เพราะอย่างไรเสีย ถ้าหากประชาชนยอมรับและนิยมอภิสิทธิ์อย่างที่ ดร.วรากรณ์ว่า สมัยหน้าอภิสิทธิ์ต้องได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน เป็นนายกฯ จากเสียงประชาชน มีศักดิ์ศรีดีกว่าเป็นนายกที่ทหาร"เสียบก้น" นะครับ

ท่านผู้อ่านที่เคารพ บางท่านอาจสงสัยว่า ดร.วรากรณ์ คนนี้เป็นใครมาจากไหน ทำไมจึงเชียร์อภิสิทธิ์ชนิดที่ไม่เกรงอกเกรงใจเจ้าตัวเขาบ้างเลยว่า จะเขินอายหรือไม่ ถ้าผู้เขียนบอกไปว่า ดร.วรากรณ์ คนนี้เป็นใครมาจากไหน ท่านผู้อ่านที่สงสัยก็คงหายสงสัยเป็นปิดทิ้ง

รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ เป็นชื่อที่คนในวงการ"เสดสาด"ต้องรู้จัก เพราะเป็นนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อพอตัว มีผลงานเขียนเป็นที่คุ้นหูคุ้นตา อาทิ"โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี" และเป็นนักเขียนใน มติชน,เปรียว,แพรว ฯลฯ ที่หนอนหนังสือรู้จักกันดี บางครั้งก็ใช้นามปากกาว่า"วีรกร ตรีเศศ"

รศ.ดร.วรากรณ์ เคยเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรรมศาสตร์ สถาบันเดียวกันกับ ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ เครือข่ายกลุ่มนักวิชาการสมุนอำมาตย์ ที่บังอาจเป็นปฏิปักษ์กับประชาชน "คัดค้านฏีกาประชาชน" เมื่อเดือนสิงหาคม 2552

รศ.ดร.วรากรณ์ คนนี้ "พวกเผด็จการทหาร" ซึ่งทำรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เคยแต่งตั้งให้เป็น "รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ" สมัยรัฐบาลขิงแก่

และที่สำคัญสุด ๆ คือ รศ.ดร.วรากรณ์ คนเดียวกันนี้เคยเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญปี 50 "ฉบับหน้าแหลมฟันดำ"

ที่แท้เขาก็คือ "นักวิชาการทาสรับใช้ใต้อุ้งบาท" เผด็จการทหารอำมาตยาสามานย์ ตัวจริงเสียงจริงนี่เอง !!! @


--------------------------------------------------------------------------------

หมายเหตุ:

ผู้อ่านท่านใด(โดยเฉพาะชาวหนองบัวลำภูทั่วประเทศ) ประสงค์จะสมัครเป็นสมาชิก "ชมรมคนรักประชาธิปไตย จังหวัดหนองบัวลำภู 52" โปรดติดต่อสอบข้อมูลหรือขอแบบฟอร์มใบสมัคร ได้ที่ปชส.ชมรมฯ โทร 083-3540798 หรือที่ E-mail: redsoldier2530@homail.com ได้ทุกวันเวลา (ไม่เว้นวันหยุดราชการ)

รู้จักชมรมฯคลิ้กดูรายละเอียด คลิ้กที่นี่

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker