โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
1 กุมภาพันธ์ 2553
พลังบริสุทธิ์นิสิตนักศึกษา"สนนท."เปิดตัวหนุนเสื้อแดง ร่วมต้านปฎิวัติรัฐประหาร เตือนหากไม่เชื่อระวังเกิดสงครามประชาชน ลั่นพร้อมระดมนิสิต-นักศึกษา ทั่วประเทศสู้
วันนี้(1 ก.พ.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เวลา 10.30 น. สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.) นำโดยนายอนุธีร์ เดชเทวพร เลขาธิการ สนนท. พร้อมกลุ่มประมาณ 20 คน เดินทางมายื่นแถลงการณ์ถึง พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ที่บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการกองทัพบก โดยมีนายทหารเวรผู้ใหญ่เป็นผู้แทนรับหนังสือดังกล่าว ทั้งนี้ในใบแถลงการณ์มีใจความว่า จากความเคลื่อนไหวของกองทัพในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีความน่าเป็นห่วงที่จะนำไปสู่การรัฐประหารยึดอำนาจ และกวาดล้างปราบปรามประชาชนที่เคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย การข่มขู่ทั้งทางตรง และทางอ้อมต่อขบวนการประชาชนเป็นไปอย่างแพร่หลายในหมู่กองทัพ ผ่านการออกมาแสดงความเห็นทางการเมือง
ที่เบื้องหน้าคือการเรียกร้องให้บ้านเมืองมีความสงบ และต้องการปกป้องชาติ แต่เบื้องหลังคือการปิดปากข่มขู่ประชาชนไม่ให้เคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ด้วยข้ออ้างเดิม ๆ คือเรื่องของความมั่นคงของชาติ ทั้ง ๆ ที่ความไม่สงบ และความไม่เป็นประชาธิปไตยที่มีอยู่ในบ้านเมืองขณะนี้ ล้วนแต่เกิดขึ้นจากบทบาทของกองทัพที่แสดงออกไม่ถูกต้อง ที่ไปหนุนเสริมการขึ้นมาสู่อำนาจของอำมาตยาธิปไตยจนขบวนการประชาชนผู้รักประชาธิปไตยไม่อาจฝืนทนดูอยู่ได้
แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า วันนี้กองทัพก็ยังคงยืนยันในบทบาทเดิมของตน ที่จะปกป้องความมั่นคงของอำมาตยาธิปไตยมากกว่าความมั่นคงของประชาธิปไตย และประชาชนต่อไป และยืนยันหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ อย่างพร้อมเพรียง ว่าตนพร้อมที่จะพิทักษ์ความมั่นคงของอำมาตยาธิปไตย และปราบปรามประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทั่วประเทศ ที่เป็นอุปสรรคต่อความมั่นคงของระบอบอำมาตยาธิปไตย ซึ่งการออกมาแถลงเช่นนี้ของทหาร เป็นการประกาศชัดเจนว่าตนพร้อมที่จะทำทุกอย่างแม้กระทั่งการรัฐประหาร อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เป็นอยู่ สนนท.มีความเป็นห่วงต่อบ้านเมือง ต่อประชาธิปไตย ต่อประชาชนและแม้กระทั่งต่อตัวกองทัพเอง ด้วยว่าหากมีการรัฐประหารเกิดขึ้นจริง “ สงครามประชาชน ” หรือ การต่อต้านในระดับทั่วประเทศของมวลมหาประชาชนผู้รักประชาธิปไตยต่อการรัฐประหาร และกองทัพย่อมที่จะเกิดขึ้นแน่แท้ และย่อมเป็นสงครามที่ดำเนินไปจนถึงที่สุด จนกองทัพ ประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ต่อการรัฐประหารและกองทัพ ย่อมที่จะเกิดขึ้นแน่แท้ และย่อมเป็นสงครามที่ดำเนินไปจนถึงที่สุด จนกองทัพเองย่อมไม่สามารถต้านทานได้
“ด้วยความคะนึงเป็นห่วงเช่นนี้ พวกเราจึงขอประกาศเจตนารมณ์เรียกร้องต่อกองทัพ และประกาศจุดยืนของพวกเราต่อสถานการณ์ในขณะนี้ คือ
1.พวกเราขอเตือนสติฝ่ายกองทัพให้จงคำนึงถึงผลที่จะตามมาให้ดี หากมีการกระดมกำลังรัฐประหารปราบปรามประชาชนเกิดขึ้นผลที่ตามมาย่อมไม่ใช่ความสะดวกโยธินเหมือนดั่งรัฐประหารครั้งที่ผ่านๆ มาในประวัติศาสตร์เป็นแน่แท้ ประชาชนจะดำเนินารคัดค้านต่อสู้ถึงที่สุด
และ 2. พวกเราสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย พร้อมนักศึกษาในเครือข่ายของเราทั่วประเทศ มีจุดยืนที่ต่อต้านการรัฐประหาร และอยู่เคียงข้างสนับสนุนการต่อสู้ของประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ทั่วประเทศในนามของ “คนเสื้อแดง” และหากมีการก่อรัฐประหารเกิดขึ้นจริง พวกเราพร้อมที่จะระดมนักศึกษาผู้รักประชาธิปไตยจากทั่วประเทศ ไปทำการคัดค้านต่อสู้กับการรัฐประหารจนถึงที่สุดพร้อมกับประชาชนผู้รักประชาธิปไตยที่จะออกมาต่อต้านจนถึงที่สุดเช่นเดียวกัน ทั้งนี้โปรดระวัง “ สงครามประชาชน ” ประชาธิปไตยย่อมได้รับชัยชนะ
สนนท.ระดมพลทั่วประเทศต้านอำมาตย์
ก่อนหน้านี้เมื่อ 29 ม.ค. 53 ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นายอนุธีร์ เดชเทวพร เลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังจากการสัมมนา "บทบาทนักศึกษากับสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน” ว่า กิจกรรมดังกล่าว สนนท. ได้จัดร่วมกับกลุ่มกิจกรรมนักศึกษาและกลุ่มเยาวชนในภาคอีสานได้แก่ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาภาคอีสาน (สนนอ.) เครือข่ายนักศึกษาเยาวชนพิทักษ์ประชาชน (คพช.) สถาบันเพื่อการพัฒนาเยาวชนประชาธิปไตย และกลุ่มกิจกรรมนักศึกษาทั่วประเทศ เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ทางเมืองกำหนดการเคลื่อนไหวของขบวนการนักศึกษาต่อสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน
โดยที่ประชุมสัมมนา แกนนำนักศึกษาดังกล่่าวมีมติร่วมกันดังต่อไปนี้คือ หากเกิดการรัฐประหารทางเครือข่ายองค์กรนักศึกษาทั่วประเทศจะร่วมกันออกมาต่อต้านทันที และทาง สนนท.จะร่วมกับองค์กรนักศึกษาเยาวชนที่ยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตยจะจัดมหกรรมกรรมประชาธิปไตยสัญจรตามมหาวิทยาลัยต่างๆ เปิดเวทีรณรงค์ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย โดยการนำรัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นต้นร่าง
เลขาธิการ สนนท. ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองปัจจุบันว่า ทหารเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง แสดงการข่มขู่ ดูถูกประชาชนเจ้าของประเทศด้วยการทำรัฐประหาร เมื่อ 19 กันยายน 2549 และในช่วงเวลาอันใกล้นี้ก็มีกระแสข่าวว่าทหารจะออกมาทำรัฐประหารอีกครั้ง แม้ ผบ.ทบ. จะออกมายืนยันว่าไม่มีการทำรัฐประหาร แต่คำพูดของท่านก็ไม่เป็นที่น่าเชื่อถือ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า มีกิจกรรมหลายๆอย่างของกองทัพที่ส่อให้เห็นถึงเจตนาที่ทหารจะเข้ามาแทรกแซงการเมืองอีกครั้งนับแต่การเคลื่อนย้ายกำลังอาวุธ การตบเท้าให้กำลังใจผู้นำทหารของนายทหารในระดับคุมกำลังพล จนถึงการออกมาพูดในเชิงข่มขู่ของนายทหารหลายท่านที่อ้างแต่จะปกป้องชาติ ปกป้องสถาบันฯ
“พวกเขามักจะอ้างว่าจะปกป้องชาติ ปกป้องสถาบันฯ แต่ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาทำให้เราได้เห็นว่าพวกเขาปกป้องแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง อยากจะถามว่าพวกเขามีความคิดที่จะปกปักรักษาระบอบประชาธิปไตย หรือความคิดปกป้องประชาชนอยู่ในหัวของพวกเขาบ้างหรือไม่ การชุมนุมที่หน้า บก.ทบ. ที่ สนนท. จะจัด ถือเป็นการประกาศยืนยันว่าถ้าทหารมีความกล้าพอที่จะทำรัฐประหาร สนนท. ก็พร้อมที่จะออกมาต่อต้านทันที”