บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ "แดง"เปิดแนวรุกเข้มทวงคืนปชต.

ที่มา ข่าวสด

สัมภาษณ์พิเศษ




นับวันการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน จะยิ่งเปิดเกมรุกมากขึ้น ท่ามกลางกระแสข่าวแกนนำฝ่ายมวลชนกับฝ่ายฮาร์ดคอร์ แตกแยกกันเอง

ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลพยายามโหมกระพือถึงท่อน้ำเลี้ยงต่างๆ ที่ส่งตรงมาจากแดนไกล เพื่อพุ่งเป้าสร้างความปั่นป่วนในบ้านเมือง

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช.แดงทั้งแผ่นดิน เปิดใจถึงความเป็นเอกภาพ ตลอดจนปัญหาท่อน้ำเลี้ยงไว้ดังนี้

ความเป็นเอกภาพคนเสื้อแดง

การเกิดขึ้นและการรวมตัวของคนเสื้อแดงไม่ได้มีลักษณะจัดตั้งมาตั้งแต่ต้น แต่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของเสรีชนที่มีความเห็นตรงกันทางการเมืองและประชาธิปไตย ทุกกลุ่มรวมตัวกันมาเองหมดเป็นกลุ่มแดงต่าง ไม่มีใครบอกให้ทำ ไม่มีใครไปสั่ง แกนนำต่างจังหวัดใกล้ชิดกับแกนนำส่วนกลางคนไหนก็ประสานกับคนนั้น

แต่เมื่อผ่านเหตุการณ์สงกรานต์เลือดมา เรามานั่งคิดกันใหม่ว่าต้องจัดตั้งเป็นองค์กร แกนนำส่วนกลางมีการประชุมทุกสัปดาห์ มีนายวีระ มุสิกพงศ์ เป็นประธาน ผมเป็นเลขาธิการ มีมวลชนสัมพันธ์ระหว่างภาค ประสานกับส่วนภูมิภาค

จุดแข็งอย่างหนึ่งของคนเสื้อแดงคือเป็นเสรีชน มวลชนไม่ได้เดินตามตัวบุคคล แต่เดินตามหลักประชาธิปไตย แกนนำคนไหนออกนอกลู่นอกทาง เขาก็ไม่ตาม คนๆ นั้นก็หายไป

ดังนั้น ข่าวที่ปรากฏว่าคิดไม่เหมือนกัน มันไม่ใช่ความขัดแย้ง อย่างนายขวัญชัย ไพรพนา มีวิวาทะกับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ คนมองว่าแตกแยกแต่สุดท้ายนำไปสู่ความเข้าใจที่แนบแน่น หรือกรณี นายจักรภพ เพ็ญแข หรือนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ เมื่อทุกฝ่ายทบทวนเหตุผล ก็เข้าใจกัน ต่างฝ่ายต่างเดินแนวทางของตัวเอง ไม่มีการปะทะใดๆ กันอีก

ล่าสุด พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี กับพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ก็มีวิวาทะ สุดท้ายนำมาสู่ความเข้าใจ วันนี้ทั้ง 2 คนเข้าใจว่าแนวทางเราเป็นอย่างไร ถ้ายอมรับแนวทางของเราก็เชิญเข้ามา แต่ถ้าเห็นว่ามีวิธีใดที่เหมาะมากกว่า ก็เดินไปตามแนวทางของท่าน เรารับผิดชอบการเคลื่อนไหวของเรา ท่านก็รับผิดชอบการเคลื่อนไหวของท่าน

ที่ทำโกรธกันเพื่อลับลวงพราง หากเกิดความรุนแรง นปช.จะได้ไม่ต้องรับผิดชอบหรือไม่

ไม่ได้โกรธกัน ไม่มีเรื่องต้องลับลวงพราง เราประกาศแนวทางสันติวิธีตั้งแต่ต้น รัฐบาลยัดเยียดว่าเราสร้างความรุนแรงอยู่แล้ว ประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงทุกครั้ง ใช้พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เอาทหารมาไล่ยิงเราที่แยกดินแดง เอาเสื้อน้ำเงินมาไล่ตีเราที่พัทยา เราเจอทุกอย่างอยู่แล้ว

ฉะนั้น ถ้าพล.อ.พัลลภ หรือเสธ.แดงเข้ามา ก็ไม่มีอะไรแตกต่าง รัฐบาลทำเหมือนเดิม ดังนั้น เราจะลับลวงพรางเพื่อหลอกใคร

เสธ.แดงบอกว่าทำตามคำสั่งพ.ต.ท.ทักษิณ จุดยืนทั้งหมดคือทำเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณใช่หรือไม่

ถ้าเสธ.แดง จะทำเพื่ออะไรอย่างไรเป็นเรื่องของท่าน แต่เราทำเพื่อประชาธิปไตย เพื่อโค่นล้มอำมาตยาธิปไตย

นปช.ไม่ได้ต่อสู้เพื่อคนๆ เดียวใช่หรือไม่

นี่เป็นข้อโจมตีเพื่อทำลายความชอบธรรมของเรา ถ้าเขาไม่พูดอย่างนี้ เขาก็ไม่เหลือความชอบธรรม ถ้าเขายอมรับว่าเราเป็นขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เท่ากับเขาเป็นฝ่ายตรงข้ามของประชาธิปไตย

มีความกังวลเรื่องความรุนแรงเพราะวิทยุชุมนุมประกาศเผาสถานที่ราชการ

ประชาชนเจ็บปวดกับการกระทำของฝ่ายเผด็จการมาหลายปี เขาเห็นคนส่วนหนึ่งออกมาชุมนุมทำอะไรได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ของเราขยับนิดหน่อยก็หมายเรียก-หมายจับ มันเป็นความเจ็บปวด ความคับแค้นที่ไม่ได้รับความยุติธรรม จนเกิดเป็นพลังต่อสู้มหาศาล ปรากฏออกมาเป็นคำพูด เป็นวาทะกรรม แต่ไม่มีพฤติกรรม

รองเลขาธิการนายกฯระบุมีการโอนเงินจากตะวันออกกลางมาเคลื่อนไหว

ยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ว่าไม่มีการโอนเงินจากต่างประเทศ ไม่มีใครหิ้วมา ไม่รู้เรื่องเลย ตอนนี้เรารอหลักฐานจากคนในรัฐบาลนี้อยู่ แต่ผมเชื่อว่าสุดท้ายเรื่องนี้จะค่อยๆ เงียบไป เหมือนเรื่องแรงงานต่างด้าวที่จะมาชุมนุม เหมือนเรื่องลำเลียงอาวุธ แม้กระทั่งเรื่องปาอุจจาระ ที่บอกว่าคนเสื้อแดงทำ บางคนเลยเถิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จ้างมา 3 ล้านบาทด้วยซ้ำไป สุดท้ายความจริงปรากฏ เราเชื่อว่าสิ่งที่เราทำคือการใช้ความจริงเป็นอาวุธสำคัญต่อสู้

หากไม่ท่อน้ำเลี้ยงแล้วเอาเงินที่ไหนมาเคลื่อนไหว

มันต้องใช้เงินอะไรมากมาย เรารับบริจาค ขายเสื้อ ทำกิจกรรมต่างๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อมาหล่อเลี้ยงการต่อสู้ เมื่อถึงเวลาชุมนุมใหญ่ ผมไม่เคยห่วงเรื่องเงินเลย เพราะทุกอย่างจะมีในมวลชน เงิน ข้าว คุณต้องการเท่าไหร่ แป๊บเดียวเดี๋ยวมา เหมือนตอนสงกรานต์ ทุกอย่างมันมีอยู่ในมวลชนอยู่แล้ว

มีคนบอกว่าเสื้อแดงสู้แล้วรวย

ผมรำคาญข้อกล่าวหานี้ บ้านหลังนี้ผมซื้อด้วยเงินของผมเองตั้งแต่ปี 2548 เวลานั้นผมไม่ได้ใกล้ชิดกับพ.ต.ท. ทักษิณเลย อย่าว่าแต่ได้บ้านเลย ตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ก็ไม่มี ตอนนี้ยังผ่อนอยู่ รถยนต์ผมก็ซื้อมา ทรัพย์สินที่บ้านเกิด บนเขาพลายดำเป็นของญาติ ผมไม่มีต้นยางสักต้นเดียว ถ้าจะมีก็เป็นของครอบครัวภรรยาที่สุราษฎร์ธานี ไม่เกี่ยวกับผมเพราะเป็นสมบัติดั้งเดิมของเขา

ผมไม่ใช่คนสิ้นไร้ไม้ตอก มีสติปัญญาทำมาหากิน อายุ 24-25 ปีหาเงินได้เดือนละ 3-4 แสนจากการเป็นนักพูด แล้วครอบครัวผมพอจะมีทรัพย์สมบัติตกทอดมาให้ต่อยอดขยายผลไปบ้าง

ไอ้คนที่โจมตีผมว่าสู้แล้วรวย ต้องถามว่าแล้วคุณมีอย่างผมหรือเปล่า ผมมีต้นทุนมา ไม่ได้อับจนถึงต้องขายวิญญาณรับใช้ใคร

ถ้าถามว่าคนอย่างผมมีบ้าน จตุพรมีทาวน์เฮาส์เล็กๆ วีระมีบ้านอยู่ที่อังกฤษ บอกว่าสู้แล้วรวย อย่างคุณชวน หลีกภัย เป็นผู้แทนฯ มาตั้งแต่ปี 2512 เป็นนายกฯ 2 หน บ้านยังไม่มีอยู่ ผมถามว่าคนอย่างผมกับคุณชวน ใครน่าตรวจสอบมากกว่ากัน สังคมต้องคิด

เสื้อแดงเร่งออกมาตอนนี้เพราะคดียึดทรัพย์พ.ต.ท. ทักษิณหรือไม่

ผมเคยโทรศัพท์คุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องนี้ ท่านพูดชัดว่าเรื่องคดียึดทรัพย์ไม่ต้องห่วง อย่าเอามาโยงกัน เสื้อแดงเดินไปเลย เรื่องนี้ให้เป็นเรื่องของผม จะเกิดอะไรขึ้นรับได้หมด

ส่วนการนัดชุมนุมใหญ่ ไม่มีปัจจัยของผลการตัดสินคดีมาเกี่ยวข้อง ไม่ได้หมายความว่าถ้าไม่ยึดทรัพย์ก็ไม่ต้องชุมนุม หรือถ้ายึดต้องชุมนุมรุนแรง ทุกอย่างเดินไปตามยุทธศาสตร์ น้ำหนัก ส่วนสูง เท่าเดิมหมด

แต่ตอนนี้เดินสายถี่ เพราะก่อนจะรบใหญ่ เราต้องเปิดทุกแผลของทุกองค์กรที่เป็นส่วนประกอบของระบอบอำมาตยาธิปไตย เราไปสะกิดแผลทุกแผลที่ตกสะเก็ดไปแล้วให้กลายเป็นแผลเปิด

มีข่าวนปช.แย่งนำมวลชนกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่

ไม่ได้รับสัญญาณนั้นจากคนในพรรค วันนี้พรรคเพื่อไทยได้ความอบอุ่นจากคนเสื้อแดง ขณะที่คนเสื้อแดงตั้งความหวังไว้กับพรรคเพื่อไทยว่าถ้าเราสู้จนชนะ อำนาจกลับมาอยู่ในมือประชาชน บ้านเมืองมีการเลือกตั้ง คนเสื้อแดงจะรณรงค์กันทั่วประเทศให้พรรคเพื่อไทยได้คะแนนเสียงมากที่สุดในสภา เพราะเราหวังจะให้อำนาจที่ประชาชนมอบให้พรรคเพื่อไทยเป็นเครื่องมือสร้างประชาธิปไตยต่อไป

เราประเมินแล้วว่าคงเป็นศึกหนักอีกครั้ง มันไม่ใช่แค่ศึกเลือกตั้ง แต่นี่คือมหาสงครามระหว่างประชาชนกับอำมาตยาธิปไตย คนเสื้อแดงจะเดินเต็มกำลัง เพราะถือว่าเป็นการต่อสู้ช่วงชิงอำนาจรัฐมาให้กับพรรคที่เราไว้ใจ

จุดหมายสุดท้ายของนปช.คือเอาพ.ต.ท.ทักษิณกลับมาหรือไม่

เราต้องการให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย เมื่อเป็นประชาธิปไตยเมื่อไหร่ พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมา เมื่อเลือกตั้งเสร็จ เพื่อไทยได้เสียงส่วนใหญ่ ต้องแก้รัฐธรรมนูญ เอาปี 2540 คืนมา ส่วนจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมหรืออภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณในคดีที่ตัดสินไปแล้วหรือไม่ คงต้องมาดู ผลที่เกิดขึ้นหลังจากปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ต้องหยิบมาพูดคุยกันใหม่อีกครั้ง

ผมมั่นใจว่าชนะได้เพราะมันเป็นสิ่งใหม่ เป็นพลังรากหญ้าที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ เราจึงชนะได้

ฝ่ายอำมาตยาธิปไตยจะยอมหรือ หากแพ้เท่ากับเสียที่ยืนในสังคม

ผมก็ไม่ยอมเขาเหมือนกัน

ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอาจเกิดความรุนแรงขึ้นได้

ต้องถามว่าทำไมสังคมถึงมาเรียกร้องเอาแต่กับพวกผมว่าอย่ารุนแรง ต้องสันติ อย่าป่วนบ้านเมือง แต่ทำไมไม่มีใครไปบอกคนในระบอบอำมาตย์ว่าอย่าทำร้ายประชาชน

พวกผมมีกำลังยังไงก็ไม่เท่ากองทัพ จะมีอาวุธก็ไม่เท่ากองทัพ ซึ่งพวกเขามีทุกอย่าง มีอำนาจรัฐ มีทหารอยู่ในมือ ทำไมสังคมไม่ถามคนเหล่านั้นว่าชุมนุมใหญ่เที่ยวนี้จะรุนแรงกับพวกผมหรือเปล่า คุณกล้าถามคนในระบอบอำมาตย์หรือไม่ว่าคิดยังไง จะฆ่าเขาไหม เขาเดินมาจากบ้านมือเปล่าเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย พวกเขาต้องตายหรือเปล่า ผมอยากได้ยินคำพวกนี้จากพล.อ.เปรม (ติณสูลานนท์) และลูกน้องว่าเขาจะสันติวิธี เขาจะสู้กับเราอย่างแฟร์ๆ

เมื่อมีความขัดแย้งต้องมองคู่กรณี ไม่ใช่ตั้งเป้าแล้วยิงคำ ถามไปโดยจงใจไม่เหลียวมองอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่กล้าพูด ไม่กล้าถาม ไม่กล้าวิจารณ์ ถ้าคุณไม่ให้ความเป็นธรรมกับตัวเอง ก็จะไม่เข้าใจสถานการณ์และก็อยู่กับความจริงครึ่งเดียวอย่างนี้ต่อไป

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker