http://www.thaksinlive.com/2010/02/now/739
คำแถลงภายหลังคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท
ถอดความจากคำแถลงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ภายหลังคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท
วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553
วันนี้ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทยและกระบวนการยุติธรรมไทย ทรัพย์สินที่เขาสั่งยึดวันนี้สี่หมื่นกว่าล้าน โดยอ้างว่าเป็นราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นหลังจากผมเป็นนายกฯ ราคาหุ้นก่อนเข้ามา 41 บาท พอครอบครัวผมขายได้ 49 บาท ตรงส่วนเกินที่เกิดขึ้น เขาบอกว่าผมใช้อำนาจหน้าที่ตอนเป็นนายกฯ เขาจึงยึดหมด คงเป็นที่ขบขันกันทั้งโลก การที่หุ้นขึ้นทำให้ผมร่ำรวย แต่จริงแล้วหุ้นขึ้นทั้งตลาด
พี่น้องครับหุ้นขึ้นทั้งตลาดหลักทรัพย์ ดัชนีตลาด 200 กว่า ขึ้นมาถึงเป็นพัน แปดเก้าร้อย มันขึ้นทั้งตลาดครับ เขาบอกว่าเพราะผมเป็นนายกฯ หุ้นบริษัทกลุ่มชินฯขึ้น เขาเลยยึดเป็นของรัฐ ฟังการอ่านวันนี้ คล้ายวันที่พรรคไทยรักไทยถูกยุบ ตั้งแต่ก่อนที่จะมีการปฏิวัติ ศาลถูกใช้เป็นเครื่องมือจัดการทางการเมือง และวันนี้ผู้พิพากษาบางกลุ่มก็เล่นการเมือง วันนี้เป็น การเมืองร้อยเปอร์เซ็นต์ ฟังการอ่านวันนี้ คล้ายวันที่พรรคไทยรักไทยถูกยุบ ตั้งแต่ก่อนที่จะมีการปฏิวัติ ศาลถูกใช้เป็นเครื่องมือจัดการทางการเมือง และวันนี้ผู้พิพากษาบางกลุ่มก็เล่นการเมือง วันนี้เป็นการเมืองร้อยเปอร์เซ็นต์
เมื่อวานเพิ่งพูดไปว่ารัฐบาลรู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว เพราะคนปักธงกับคนอุ้มรัฐบาลเป็นคนเดียวกัน ผมทำใจแล้วว่าโดนแน่ แต่จะโดนอย่างไร เมื่อโดนตรงนี้เข้า ก็สรุปได้ว่าการเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ทรัพย์สินประเทศเพิ่มขึ้น ไม่เห็นแบ่งผมเลย แต่บริษัทครอบครัวผมขึ้น บอกว่าผมโกง
ยังดีที่ยังคืนในส่วนก่อนเป็นนายกรัฐมนตรี ราคาหุ้นขึ้นลงตามดัชนีเศรษฐกิจตลาดโลกเป็นส่วนใหญ่ ตอนนี้ผมไม่เข้าใจ ราหุ้นขึ้นเพราะผมเป็นนายกรัฐมนตรี มาโกงให้บริษัทตัวเอง แล้วที่เหลือในตลาดหลักทรัพย์หุ้นเขาไม่ขึ้นกันหรือ ทั้งธนาคารกรุงเทพ ทีพีไอ ปูนซิเมนต์ไทย ยูคอม ทรู ยอมรับเป้นการเมืองสุดๆ
จะเห็นว่าวันนี้ผมใส่ชุดดำ ขอไว้ทุกข์ให้กับความดื้อของตนเองที่ดื้อไม่ยอมเชื่อ คุณหญิงกับลูกๆ ที่ไม่อยากให้ผมเข้าการเมือง ชีวิตการเมืองวุ่นวายสับสน เราเป็นเศรษฐีสบายอยู่แล้ว อย่าไปยุ่งการเมืองเลย แต่การที่ผมเรียนเตรียมทหารและโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เติบโตมาจากบ้านนอก ทำงานสร้างตัวมา เห็นคนยากจน ก็อยากจะช่วยเขาบ้างในฐานะเพื่อนร่วมชาติ ก็เลยดื้อกับคุณหญิง กับลูก พ่อขอโทษที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน
การเมืองวันนี้ดุและใจดำมาก ผมขอให้ผมเป็นเหยื่อคนสุดท้าย เมื่อใดที่ประเทศชาติเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงแล้ว อำนาจจะมีการถ่วงดุล คงจะไม่มีเหยื่ออย่างผมอีก แต่วันนี้ดุลอำนาจไปอยู่กับอำมาตย์
กฎหมายวันนี้เหมือนเล่นติ๊ต่าง ถ้าเป็นพวกผม ทำสำนวนแล้วยังดึงเรื่องไปได้เรื่อย แต่ถ้าไม่เป็นพวกผม กฎหมายก็จะเดินไปเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว กฎหมายไทยเช่นนี้ขาดมาตรฐานสากลอย่างรุนแรง มีคนเพียงคนเดียว กระชากประเทศล้าหลังอย่างรุนแรงมาก
ผมเป็นนักเรียนทุนรัฐบาล ที่ไปเรียนปริญญญาโทและเอกทางด้านกระบวนการยุติธรรมในทางอาญา ทำวิทยานิพนธ์เรื่องหลักนิติธรรม ปรากฏผมเป็นเหยื่อของกระบวนการยุติธรรมและทำกับผมอย่างขาดหลักนิติธรรมอย่างที่สุด
ผมต้องขอโทษผู้พิพากษาที่มีอุดมการณ์ ไม่อยากเห็นสถาบันที่ท่านรักต้องเป้นแบบนี้ ก็เพราะเขาต้องการจัดการผม จึงดึงสถาบันของท่านลงมา หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นหลังจากที่เขาทำผมถึงที่สุดแล้ว
ผมเป็นคนพูดรู้เรื่อง ไม่อยากให้ผมเล่นการเมือง ผมก็พร้อมถอย ผมเคยกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปแล้วว่าจะไม่รับตำแหน่ง เคยประกาศหน้าทำเนียบเมื่อเดือนมีนาคม 2549 ผมประกาศว่าจะไม่รับตำแหน่ง แต่การเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะเพราะกล้องไปถ่ายในคูหา เป็นประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ยุบสภาไปแล้ว กว่าจะได้เลือกตั้งยืดเวลาทอดไปถึงธันวาคม แต่เขารอไม่ไหว ปฏิวัติก่อน ซึ่งก่อนหน้านั้นลอบฆ่าผมหลายครั้ง จากนั้นเขาก็ตั้ง คตส. มา วันนี้ถ้าได้เปอร์เซ็นต์ถือว่าปล้นทรัพย์
การปฏิวัตินั้น สนธิบังแค่หุ่นเชิด คนปักธงคือคนปฏิวัติ
การที่ยืดเยื้อ จัดการไม่เสร็จสักที เพราะพี่น้องเมตตาช่วยเหลือ เริ่มจากการเลือกตั้งที่พรรคพลังประชาชนชนะเลือกตั้ง คุณสมัครเข้ามา แต่ผลสุดท้ายเขาก็จัดการ จัดการสมัคร แล้วก็ตั้งรัฐบาลตามที่เขาต้องการ
ผมขอบคุณที่พี่น้องแดงไม่มาชุมนุม ไม่เช่นนั้นท่านจะถูกกล่าวหาว่ามาทำเพื่อผม ทั้งที่พี่น้องมากันเพื่อประชาธิปไตย ขอให้วันนี้เป็นเรื่องของผมล้วนๆ หลายคนอาจโกรธแทนผม โกรธได้แต่อย่างใช้ความรุนแรง อย่าไปเหตุให้เขาปราบปราม รัฐบาลนี้ถนัดอยู่แล้ว พี่น้องต้องอดทน ต่อสู้ด้วยสันติให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยเพื่อลูกหลานของเรา ไม่เช่นนั้นประเทศจะอยู่ในมืออำมาตย์ ไม่พอใจใครก็สามารถจัดการได้ เปนประเทศที่ไม่สามารถทำนายอนาคตได้ แล้วประเทศจะอยู่อย่างไร
นักธุรกิจครับ บทเรียนวันนี้บอกได้เลยว่าอย่ามาเล่นการเมือง นักธุรกิจมีนิสัยทำงานให้สำเร็จรวดเร็ว มันคนละวัฒนธรรม มีอะไรเข้ามา ท่านอาจโดนยึดทรัพย์อย่างผม ถ้าจะเข้าการเมืองจริงๆ ขายให้หมดก่อน อำมาตย์เขาไม่รังเกียจเรื่องทุจริต แต่อย่าป็อปปูล่าร์มาก ผมเป็นนายกรัฐมนตรีคนเดียว คนแรกที่ได้รับเลือกตั้งในสมัยที่สอง ปกติไม่มี เขาไม่อยากเห็นรัฐบาลที่ป็อปปูล่าร์
พี่น้องชาวไทยทุกท่าน กราบเรียนว่าสิ่งที่เขาประณามผมวันนี้ ผมขอยืนยันว่าทำงานตามหน้าที่ทั้งระบบ ไม่เคยคิดโกง ตั้งแต่เด็กก็ไม่เคยโกง ลอกข้อสอบใคร ไม่มีความจำเป็นต้องโกง ผมมีหลักทรัพย์มาก่อนเป็นนักการเมือง เคยประกาศบัญชีทรัพย์สิน ปี 2537 ผมมีกว่า 60,000 กว่าล้าน ไม่จำเป็นต้องโลภมาก นาฬิกาก็ใส่ทีละเรือน กินทีละมื้อ กินก๋วยเตี๋ยวได้ทุกมื้อ แต่หูฉลามทุกมื้อไม่ได้ คนเราจะโลภไปถึงไหน คุณหญิงสอนลูกดี ลูกไม่ฟุ่มเฟือย จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องดิ้นรนไป คดโกงใคร เราสบายแล้วก็ควรใช้ความร็ความสามารถช่วยเหลือสังคม
ผมเป็นคนแรกที่ถูกยึดทรัพย์ส่วนตัว ทรัพย์ของครอบครัวเพื่อสังเวยการเมือง วันนี้เป็นประวัติศาสตร์ ผู้ชนะเป็นคนเขียน วันนี้ผมไม่ใช่ผู้ชนะ แต่จะบันทึกประวัติศาสตร์ไว้
ถ้าผมโกงหรือทำอย่างที่เขากล่าวหา ขอให้มีอันเป็นไปในห้าวันสิบวัน หากไม่โกง ขอฝากโคลงศรีปราชญ์ ?ธรณีนี้นี้เป็นพยาน เราก็ศิษย์มีอาจารย์หนึ่งบ้าง เราผิด ท่านประหารเราชอบ เราบ่ผิด ท่านมล้าง ดาบนั้นคืนสนอง?
ผมเคยบอกว่าจะแสวงหาคยุติธรรมให้เกิดให้ได้ ไม่ว่าความยุติธรรมนั้นจะอยู่ในนรก สวรรค์ ในหรือนอกประเทศ ผมถือว่าวันนี้ผมไม่ได้รับความยุติธรรม ผมจะแสวงหาต่อไป
ขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณต่อไป อย่าดูหนังม้วนเดียว ขอให้ดูย้อนไปตั้งแต่ผมทำงานมาเป้นอย่างไร แล้วก่อนถูกปฏิวัติเจออะไร มีการใช้สถาบันต่างๆ เข้ามาจัดการการเมืองอย่างไร ศึกษาให้ดีแล้วจะรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเราไม่ปกติ ขอให้พี่น้องผู้รักประชาธิปไตยต่อสู้ต่อไปด้วยสันติ อนาคตลูกหลานของเราจะเติบโตมาในสังคมประชาธิปไตย ที่มีความยุติธรรมและความเสมอภาค
ขอให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมวันนี้ ขอให้เป็นบทเรียนที่ดีสำหรับการเมืองไทยที่จะพัฒนาต่อไป ผมเจ็บคนเดียวไม่เป็นไร ขอขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงและอวยพรผมมา ขอขอบคุณในน้ำใจที่ผมจะไม่มีวันลืม ขอโทษคุณหญิงและลูกที่ผมดันทุรังเข้าการเมือง เสียใจครับ ขอบคุณครับ