คอลัมน์ เหล็กใน
ทั้งเลอะทั้งเหม็น กับเหตุการณ์ปาอึใส่หน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันก่อน
ผู้ก่อเหตุคือ นายสุรชัย เกิดดี อายุ 45 ปี อ้างว่าไม่พอใจที่รัฐบาลแทรกแซงสื่อ ผสมโรงกับเรื่องที่เคยร้องทุกข์ตั้งแต่ปี 2547 แล้วไม่ได้รับการเหลียวแล เลยก่อ เหตุบอมบ์อึ 2 ถุง ใส่อาคารม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ที่ทำ การพรรคประชาธิปัตย์
ลงมือเสร็จก็ยืนรอให้ตำรวจจับกุม ไม่ได้หลบหนีไปไหน
จากการตรวจสอบประวัติของตำรวจในเบื้องต้นพบว่านายสุรชัยเคยเข้ารับการรักษาอาการทางจิตมาแล้ว
แต่การปาอึแบบนี้ แค่เพี้ยนอย่างเดียวคงไม่มีเหตุผลเพียงพอ
ต้องมีอารมณ์และความรู้สึกไม่พอใจเจือปนอยู่ไม่มากก็น้อย
ก่อนหน้านี้ ก็เพิ่งเกิดเหตุการณ์ปาถุงอึใส่บ้านนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ย่านสุขุมวิท
คราวนั้นผู้ก่อเหตุคือ นายวิวิทย์วิน เตียวสวัสดิ์ อายุ 41 ปี ใช้ถุงอึถึง 4 ถุงปาใส่บ้านพัก ฯพณฯ นายก รัฐมนตรี
รายนี้ไม่มีประวัติอาการทางจิต สาเหตุที่ปาก็เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม เคยไปร้องเรียนตำรวจว่าได้รับความเดือดร้อนจากเพื่อนบ้านสูบบุหรี่ พอตำรวจไม่ใส่ใจดูแลแก้ไขให้ก็เลยปาถุงอึใส่บ้านนายกฯ
แต่ก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นบ้าน นายกฯ ทำไมไม่ไปปาใส่โรงพัก??
กลัวคนไม่สนใจ หรือไม่ชอบใครเป็นกรณีพิเศษ
ปาอึ 2 กรณีที่ผ่านมา อาจไม่ใช่เหตุผลทางการเมืองโดยตรง
แต่เป้าหมายบ้านนายกฯ กับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ทะแม่งๆ อยู่
ความจริงรัฐบาลประชาธิปัตย์เคยเจอกับเรื่องอึๆ มาก่อนแล้ว ตั้งแต่สมัยนายอุทัย พิมพ์ใจชน เป็น รมว.พาณิชย์ ในรัฐบาลชวน หลีกภัย ถูกปาถุงอุจจาระใส่หน้า
ส่วนนายอภิสิทธิ์ก็ผ่านมาแล้วหลายครั้ง
ราวเดือนต.ค. 2551 ตอนนั้นเป็นผู้นำฝ่ายค้าน เดินทางไปร่วมงานศพที่ศรีสะเกษ
ขณะนั่งรถตู้ไปยังสนามบินอุบลราชธานี มีชายสองคนขี่รถจักรยานยนต์แล่นสวนแล้วปาถุงอึเข้าใส่หน้ารถของนายอภิสิทธิ์จนเลอะเทอะเต็มหน้ารถ
พอเป็นรัฐบาลก็เคยโดนบอมบ์อีก
กลางปี 2552 นายกฯอภิสิทธิ์เดินทางไปบันทึกเทปรายการเชื่อมั่นประเทศไทยที่จ.ลพบุรี โดนม็อบเสื้อแดงหลายร้อยคนแห่ไปต่อต้าน ปาทั้งถุงอึถุงปลาร้าใส่รถประจำตำแหน่งจนเลอะเทอะ
รวมแล้วช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นายกฯอภิสิทธิ์ผ่านประสบการณ์เหม็นๆ มาแล้วหลายครั้ง
ที่สำคัญรัฐบาลต้องจับตาการชุมนุมใหญ่ของพวกเสื้อแดง 14 มี.ค.นี้ให้ดี
เพราะการปาอึตอนนี้แทบจะกลายเป็นแฟชั่น เป็นพฤติกรรมเลียนแบบ
ในเมื่อสังคมยังไร้ความสมานฉันท์แบบนี้
ต่อให้รถกันกระสุนก็คงกันอึไม่ได้
ผู้ก่อเหตุคือ นายสุรชัย เกิดดี อายุ 45 ปี อ้างว่าไม่พอใจที่รัฐบาลแทรกแซงสื่อ ผสมโรงกับเรื่องที่เคยร้องทุกข์ตั้งแต่ปี 2547 แล้วไม่ได้รับการเหลียวแล เลยก่อ เหตุบอมบ์อึ 2 ถุง ใส่อาคารม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ที่ทำ การพรรคประชาธิปัตย์
ลงมือเสร็จก็ยืนรอให้ตำรวจจับกุม ไม่ได้หลบหนีไปไหน
จากการตรวจสอบประวัติของตำรวจในเบื้องต้นพบว่านายสุรชัยเคยเข้ารับการรักษาอาการทางจิตมาแล้ว
แต่การปาอึแบบนี้ แค่เพี้ยนอย่างเดียวคงไม่มีเหตุผลเพียงพอ
ต้องมีอารมณ์และความรู้สึกไม่พอใจเจือปนอยู่ไม่มากก็น้อย
ก่อนหน้านี้ ก็เพิ่งเกิดเหตุการณ์ปาถุงอึใส่บ้านนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ย่านสุขุมวิท
คราวนั้นผู้ก่อเหตุคือ นายวิวิทย์วิน เตียวสวัสดิ์ อายุ 41 ปี ใช้ถุงอึถึง 4 ถุงปาใส่บ้านพัก ฯพณฯ นายก รัฐมนตรี
รายนี้ไม่มีประวัติอาการทางจิต สาเหตุที่ปาก็เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม เคยไปร้องเรียนตำรวจว่าได้รับความเดือดร้อนจากเพื่อนบ้านสูบบุหรี่ พอตำรวจไม่ใส่ใจดูแลแก้ไขให้ก็เลยปาถุงอึใส่บ้านนายกฯ
แต่ก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นบ้าน นายกฯ ทำไมไม่ไปปาใส่โรงพัก??
กลัวคนไม่สนใจ หรือไม่ชอบใครเป็นกรณีพิเศษ
ปาอึ 2 กรณีที่ผ่านมา อาจไม่ใช่เหตุผลทางการเมืองโดยตรง
แต่เป้าหมายบ้านนายกฯ กับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ทะแม่งๆ อยู่
ความจริงรัฐบาลประชาธิปัตย์เคยเจอกับเรื่องอึๆ มาก่อนแล้ว ตั้งแต่สมัยนายอุทัย พิมพ์ใจชน เป็น รมว.พาณิชย์ ในรัฐบาลชวน หลีกภัย ถูกปาถุงอุจจาระใส่หน้า
ส่วนนายอภิสิทธิ์ก็ผ่านมาแล้วหลายครั้ง
ราวเดือนต.ค. 2551 ตอนนั้นเป็นผู้นำฝ่ายค้าน เดินทางไปร่วมงานศพที่ศรีสะเกษ
ขณะนั่งรถตู้ไปยังสนามบินอุบลราชธานี มีชายสองคนขี่รถจักรยานยนต์แล่นสวนแล้วปาถุงอึเข้าใส่หน้ารถของนายอภิสิทธิ์จนเลอะเทอะเต็มหน้ารถ
พอเป็นรัฐบาลก็เคยโดนบอมบ์อีก
กลางปี 2552 นายกฯอภิสิทธิ์เดินทางไปบันทึกเทปรายการเชื่อมั่นประเทศไทยที่จ.ลพบุรี โดนม็อบเสื้อแดงหลายร้อยคนแห่ไปต่อต้าน ปาทั้งถุงอึถุงปลาร้าใส่รถประจำตำแหน่งจนเลอะเทอะ
รวมแล้วช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นายกฯอภิสิทธิ์ผ่านประสบการณ์เหม็นๆ มาแล้วหลายครั้ง
ที่สำคัญรัฐบาลต้องจับตาการชุมนุมใหญ่ของพวกเสื้อแดง 14 มี.ค.นี้ให้ดี
เพราะการปาอึตอนนี้แทบจะกลายเป็นแฟชั่น เป็นพฤติกรรมเลียนแบบ
ในเมื่อสังคมยังไร้ความสมานฉันท์แบบนี้
ต่อให้รถกันกระสุนก็คงกันอึไม่ได้