บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553

"คุณหญิงกัลยา"เลี่ยงตอบคดีซุกหุ้น ลั่นพร้อมชี้แจง "เรืองไกร"ปูดอีก"กรณ์-ชวรัตน์"ฝากหุ้นคนใกล้ชิด

ที่มา มติชน

"คุณหญิงกัลยา"งานเข้า หลัง"เรืองไกร"แกะรอยบัญชีทรัพย์สิน อาจให้ลูกเป็นนอมินีซ้ำรอย"ทักษิณ" หนีสื่ออุตลุตไม่ตอบคำถาม งั่นพร้อมชี้แจง ส.ว.จอมแฉจี้ ป.ป.ช.ตรวจซ้ำทรัพย์สิน รมต.-ส.ส.อีกรอบ เลขาฯกกต.ออกโรงโต้ พท. ปล่อยข่าวเอกสารคดียุบ ปชป. หาย ยันอยู่ครบ เก็บอย่างดีถึง 3 ชุด

จากกรณีที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา และกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน วุฒิสภา กล่าวเมื่อวันที่ 2 มีนาคมว่า จะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ กรณีอำพรางหุ้นเช่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลง สัดส่วนเงินลงทุนและเงินให้กู้ยืมในบัญชีของคู่สมรส และบุตรสาว อีก 3 คน ทั้งนี้จะใช้มาตรฐานเดียวกับคำพิพากษาของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มีคำวินิจฉัยยึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปแล้วนั้น

ที่ทำเนียบรัฐบาล คุณหญิงกัลยาหลีกเลี่ยงที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ที่ถึงกรณีดังกล่าว โดยพยายามเดินฝ่าวงล้อมผู้สื่อข่าวตลอดเวลา และไม่ยอมหยุดตอบข้อซักถามต่างๆ โดยกล่าวเพียงว่า ไม่เคยโอนหุ้นให้บุตรสาว และยินดีที่จะชี้แจง ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ตกเป็นเป้าโจมตีในช่วงนี้ คิดว่าเป็นเพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ใช่หรือไม่ คุณหญิงกัลยากล่าวว่า ไม่ทราบความคิดของพวกเขา


ด้านนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เมื่อเห็นจากข่าวจึงสอบถามไปยังคุณหญิงกัลยา ก็ได้รับคำตอบว่าพร้อมจะไปชี้แจง

ด้านนายเรืองไกร กล่าวว่า ทราบเบื้องต้นด้วยว่า นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ฝากหุ้นไว้กับคนใกล้ชิดเช่นกัน แต่ต้องตรวจสอบว่าถูกต้องหรือไม่ก่อน

ก่อนหน้านี้ นายเรืองไกร กล่าวเมื่อวันที่ 1 มีนาคมถึงกรณีที่ออกมาตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้มีพฤติกรรมอำพรางหุ้นเช่นเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินยึดทรัพย์ว่า เมื่อได้รับฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาฯในกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว จึงย้อนกลับไปตรวจสอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรีในรัฐบาลปัจจุบันคร่าวๆ อีกครั้งหนึ่ง พบว่า จากข้อมูลการเปิดบัญชีทรัพย์สินของและหนี้สินของ ครม.ชุดนี้ ที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น มีข้อสังเกตบางประการในบัญชีการแสดงบัญชีทรัพย์สินหนี้สินของคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


นายเรืองไกรกล่าวว่า โดยเมื่อครั้งคุณหญิงกัลยาเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.ปี 2551 เปรียบเทียบกับการยื่นบัญชีเมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ พบว่าในส่วนการแจ้งของคู่สมรสแจ้งเมื่อครั้งเป็น ส.ส.กับการแจ้งเมื่อครั้งเป็นรัฐมนตรีมีความแตกต่างกันกันมาก โดยครั้งแรกคู่สมรสคุณหญิงกัลยาแจ้งว่า เงินลงทุนในส่วนของหุ้นประมาณ 458 ล้านบาท แต่การยื่นในครั้งหลังพบว่าเงินลงทุนในส่วนคู่สมรสของคุณหญิงกัลยาลดลงไปกว่า 300 ล้านบาท โดยเหลือมูลค่าวงเงินการลงทุนเพียง 61 ล้านเศษเท่านั้น


"เงินลงทุนในส่วนหุ้นหายไป แต่กลับมีการแจ้งเพิ่มเติมในส่วนเงินให้กู้ยืมแก่บุตรสาวทั้ง 3 คนของคู่สมรส โดยให้ยืมคนละ 95.8 ล้านบาท รวม 278.4 ล้านบาท ในจุดนี้ไม่มีรายละเอียดแน่ชัดว่าเป็นการกู้ยืมกันอย่างไร เพื่อความกระจ่างจึงอยากขอให้ ป.ป.ช.ไล่สอบบัญชีทรัพย์ของรัฐมนตรีและ ส.ส.ทุกคนใหม่อีกครั้ง เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางเดียวกันกับที่ศาลฎีกาฯได้ตัดสินคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งกรณีของคุณหญิงกัลยาก็คงต้องตรวจสอบต่อไปว่าหุ้นที่คุณหญิงและคู่สมรสถืออยู่นั้นเป็นหุ้นสัมปทาน หรือเป็นหุ้นที่อยู่ในเกณฑ์ตามที่รัฐธรรมนูญห้ามรัฐมนตรีถือหุ้นในบริษัทเกินว่าร้อยละ 5 กรณีเดียวกับของ นพ.พฤติชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด แล้วส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการอยู่หรือไม่ด้วย"นายเรืองไกรกล่าว


นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ชี้แจงถึงกรณีพรรคเพื่อไทย (พท.) อ้างว่า เอกสารสำคัญบางส่วนในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท และเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ที่อาจเข้าข่ายขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองหายไป และเชื่อว่าจะมีการยกคำร้อง ว่า เรื่องนี้ตนได้ตรวจสอบและได้รับรายงานจากสำนักงานแล้วว่าเอกสารสำคัญในสำนวนดังกล่าวยังอยู่ครบถ้วน ไม่ได้หายไปตามที่พรรค พท.กล่าวอ้าง ดังนั้น เรื่องนี้จึงเป็นการปล่อยข่าวเท่านั้น


นายสุทธิพลกล่าวว่า อีกทั้งเอกสารคดีดังกล่าว ทาง กกต.เก็บไว้เป็น 3 ส่วน สามารถคัดสำเนาได้ตลอดเวลา คือเก็บไว้ที่


1. คณะทำงานของนายทะเบียนพรรคการเมืองที่มี ม.ล.ประทีป จรูญโรจน์ ที่ปรึกษาประธาน กกต. เป็นประธาน
2. ฝ่ายสืบสวนสอบสวน
3. สำนักงาน โดย กกต.จะต้องกันเอกสารไว้เพื่อป้องกันกรณีอาจเกิดปัญหาขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อมีข่าวดังกล่าวออกมาตนก็ได้ตรวจสอบกับคณะทำงานนายทะเบียนพรรคการเมืองแล้วเพื่อความไม่ประมาท เพราะหากเกิดสูญหายขึ้นมาถึงอย่างไรจะต้องมีรายงานเข้ามาให้ตนทราบอยู่แล้ว


นายสุทธิพลกล่าวว่า ขณะนี้คดีดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยภายในสัปดาห์นี้คณะทำงานจะมีการประชุม 2 ครั้ง คาดว่าจะเป็นการเชิญเจ้าหน้าที่จากพรรค ปชป.มาชี้แจง อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวคงน่าจะใช้ระยะเวลาการทำงานไม่นาน และน่าจะเสร็จได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ ตามที่นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองและคณะทำงานเคยยืนยันไว้


ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเอกสารสำคัญหายไปจริงจะมีผลทำให้ กกต.ต้องยกคำร้องคดีนี้หรือไม่ นายสุทธิพลกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะเอกสารมีเก็บไว้หลายที่ และขณะนี้ก็ไม่มีเอกสารหาย แต่หากเอกสารบางชุดหายก็คัดสำเนาจากที่อื่นได้ทันที ส่วนที่บอกว่า กกต.อาจยกคำร้องในเร็วๆ นี้นั้น ตนไม่สามารถบอกแทนคณะทำงานได้ เพราะเรื่องนี้เป็นดุลพินิจของนายทะเบียนพรรคการเมือง เมื่อสำนวนเสร็จก็จะเปิดเผยให้ทราบ


เมื่อถามย้ำว่า หากคณะทำงานตรวจสอบแล้วไม่ได้ลงลึกไปจากที่อนุกรรมการเคยไต่สวนก็คงอาจยึดมติเดิมให้ยกคำร้องได้ นายสุทธิพลกล่าวว่า ตนบอกไม่ได้ เพราะขณะนี้คณะทำงานก็ตรวจสอบลึกขึ้นเช่นประเด็นข้อกฎหมายก็จะทำให้ดีที่สุด เพราะกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบตามอำนาจ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ แต่ส่วนของ กกต.นั้นทำตามอำนาจ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ยืนยัน กกต.ไม่ได้ดึงเรื่องในคดีนี้ เพราะในส่วนของสำนวนที่ทำเข้ามานั้นดีเอสไอบอกสมบูรณ์ในอำนาจ พ.ร.บ.หลักทรัพย์แค่ร้อยละ 70 จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของ กกต.จะพิจารณาต่อ และเท่าที่ทราบในชั้นดีเอสไอก็สอบแต่ผู้กล่าวหาเท่านั้น แต่ผู้ถูกกล่าวหายังไม่ได้ให้โอกาส จนเมื่อสำนวนมาถึง กกต.ทำให้ต้องทำใหม่ และเมื่อมีมติให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทำความเห็นมาก่อนนั้นก็ยึดสำนวนของอนุกรรมการมาเป็นฐานเพื่อดูให้ละเอียดขึ้น

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker