บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2553

ผิดที่ผิดทาง

ที่มา ไทยรัฐ

วิกฤติไฟใต้ยืดเยื้อมาแล้ว 5 ปี ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะคลี่คลาย

รัฐบาลและกองทัพได้ทุ่มงบประมาณมหาศาลจัดซื้ออุปกรณ์ทันสมัยเพื่อใช้ติดตามไล่ล่ากลุ่มโจรแบ่งแยกดินแดน

แต่อุปกรณ์ราคาแพงหูฉี่ที่ซื้อมาใช้ ใน 3 จังหวัดภาคใต้ แทนที่จะช่วยแก้ ปัญหา กลับสร้างปัญหาซะเอง!!

โครงการติดตั้งกล้องซีซีทีวี หรือทีวีวงจรปิด 3,000 ตัว เงินจ่ายไปแล้ว แต่กล้องกับสายยังไม่มา

โครงการจัดซื้อเครื่องจีที 200 ตรวจหาสารระเบิด ราคาแพงหูฉี่ แต่ไม่มีประสิทธิภาพ อย่างที่โฆษณา

ล่าสุด โครงการจัดซื้อ "เรือเหาะตรวจการณ์" มูลค่า 9.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 340 ล้านบาท ก็กำลังบานไม่หุบอีกหนึ่งรายการ

บานไม่หุบ เพราะเรือเหาะมันเหาะไม่ได้ตามสเปกที่ระบุในสัญญา

กล้องถ่ายภาพพิเศษที่ติดตั้งบนเรือเหาะไม่สามารถส่งสัญญาณภาพไปสู่สถานีภาคพื้นดินได้ครบวงจร

เงื่อนไขกำหนดว่าเรือเหาะต้องบรรทุก ผู้โดยสารได้ไม่ตํ่ากว่า 3 คน เป็นนักบิน 1 คน เจ้าหน้าที่สื่อสาร 1 คน และเจ้าหน้าที่ถ่ายภาพอีก 1 คน

แต่เอาเข้าจริงบรรทุกผู้โดยสารได้แค่ คนเดียว!!

แถมผลการตรวจสภาพเรือเหาะพบรูรั่วและรอยซึมถึง 20 จุด ต้องปะผุกันชุลมุน

โฆษณาว่าเป็นเรือเหาะใหม่แกะกล่อง... สงสัยจะใหม่แต่กล่องอย่างเดียว??

ที่ "แม่ลูกจันทร์" กระชุ่นมาทั้งหมดคือ คำตอบว่าเหตุใดเรือเหาะลำนี้ต้องเลื่อนกำหนด ส่งมอบมาแล้ว 6 เดือน

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ยืนยันว่ากองทัพบกจะยังไม่เซ็นรับมอบเรือเหาะลำนี้ไปใช้งาน จนกว่าจะผ่านการตรวจสอบประสิทธิภาพครบทุกขั้นตอน

และถ้าเรือเหาะไม่สามารถใช้งานได้ตามสัญญา กองทัพบกจะไม่จ่ายเงินงวดสุดท้ายที่ยังค้างอีก 30 เปอร์เซ็นต์

"แม่ลูกจันทร์" เห็นว่าการจะไม่สั่งจ่ายเงินงวดสุดท้ายอีก 30 เปอร์เซ็นต์ยังไม่ใช่คำตอบที่น่าพอใจ

เพราะถ้าเรือเหาะหรือบอลลูนยักษ์ลำนี้ ไม่สามารถใช้งานได้ตามข้อตกลง กองทัพบกต้องฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทเอกชน

เอาเงินภาษีประชาชนที่จ่ายไปแล้วคืนกลับมาทุกบาททุกสตางค์ความจริงนโยบายที่จะซื้อเรือเหาะตรวจ การณ์มาใช้ใน 3 จังหวัดภาคใต้ ได้มีบรรดา ผู้สันทัดกรณีออกมาคัดค้านว่าการจัดซื้อเรือเหาะบินตรวจการณ์และติดตามการเคลื่อนไหวกลุ่มแบ่งแยกดินแดนจะไม่เวิร์กแน่นอน

เพราะสภาพภูมิประเทศใน 3 จังหวัดภาคใต้เป็นป่าทึบยากที่จะตรวจสอบจากอากาศลงมาพื้นดิน

สภาพภูมิอากาศในภาคใต้มีฝนตกชุก และพายุกระโชกแรง จึงไม่ปลอดภัยที่จะใช้เรือเหาะปฏิบัติการ

เพราะถ้าบินในระดับสูงทัศนวิสัยไม่ เอื้ออำนวย

แต่ถ้าบินระดับต่ำก็อาจเป็นเป้าถูกลอบยิง??

ข้อสำคัญ เรือเหาะหรือบอลลูนไม่สามารถ เคลื่อนไหวได้รวดเร็วและคล่องตัวเหมือนเครื่องบิน

เรือเหาะจึงเหมาะที่ใช้นั่งชมวิวมากกว่าใช้งานด้านความมั่นคง

ปัญหาสำคัญคือ เรือเหาะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินไม่สามารถปฏิบัติการได้ทันท่วงที เพราะ ต้องใช้เวลาเติมก๊าซ ต้องมีเฮลิคอปเตอร์บินคุ้มกันถึง 3 ลำ

ฉะนั้น แทนที่จะเสียงบประมาณซื้อเรือเหาะราคาแพง ก็ควรซื้อเฮลิคอปเตอร์ ลาดตระเวนยังจะถูกสเปกกว่าบานตะไท

"แม่ลูกจันทร์" เสียดายที่รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงไม่รับฟังเสียงคัดค้านด้วยความหวังดี

อุตส่าห์เสียเงิน 340 ล้านบาท ซื้อเรือเหาะมาใช้ผิดที่ผิดทาง

ซื้อมาแล้วใช้งานไม่ได้ก็เสียเงินฟรี หรือใช้งานได้บ้างแต่ไม่คุ้มเงินที่เสียไปก็เสียดายสตางค์

ทีหน้าทีหลังจะซื้อเครื่องมืออะไรมาใช้...คิดให้รอบคอบนะโยม.

"แม่ลูกจันทร์"

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker