บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2553

สมรภูมิวังน้อยเดือด

ที่มา โลกวันนี้

จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
ปีที่ 11 ฉบับที่ 2753 ประจำวัน อังคาร ที่ 9 มีนาคม 2010

ใช้พ.ร.บ.มั่นคงตั้งด่านสกัดเสื้อแดงห้ามเข้ากรุง

รัฐบาลตัดสินใจประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯควบคุมการชุมนุมของคนเสื้อแดงแล้วระหว่างวันที่ 11-23 มี.ค. ครอบคลุมพื้นที่ กทม. ปทุมธานี อ.วังน้อยและบางไทร จ.อยุธยา อ้างการข่าวได้กลิ่นก่อวินาศกรรม ก่อความวุ่นวายหลายพื้นที่ “มาร์ค” ยกเลิกเยือนออสเตรเลีย มั่นใจรับมือได้แม้จะมีคนมาเป็นแสนก็ตาม แกนนำเสื้อแดงประกาศตั้งกองทัพแตงโมดึงทหารชุดเขียวหัวใจแดงเป็นหน่วยข่าวคอยรายงานความเคลื่อนไหวกองทัพ เผยได้รับแจ้งเตรียมสร้างสถานการณ์ที่วังน้อยเพื่อสกัดไม่ให้ทัพใหญ่เข้าถึง กทม. ย้ำยึดมั่นสันติวิธี พันธมิตรฯ-แนวร่วม-นักวิชาการห่วงทหารฉวยโอกาสปฏิวัติ

ในที่สุดรัฐบาลก็ต้องประกาศใช้กฎหมายพิเศษเพื่อควบคุมการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมีการเคลื่อนขบวนเข้ามาชุมนุมในกรุงเทพฯตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. นี้

ประกาศ พ.ร.บ.มั่นคงฯ 11-23 มี.ค.

ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) ที่ระบุหลังการประชุม คตม.นัดพิเศษว่า ที่ประชุมมีมติให้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และบางอำเภอของจังหวัดปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และสมุทรปราการ ระหว่างวันที่ 11-23 มี.ค. นี้ เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นจากการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยจะเสนอให้ ครม. พิจารณาอนุมัติในการประชุมวันที่ 9 มี.ค.

อ้างการข่าวพบก่อความรุนแรง

“ที่ต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯเพราะการข่าวพบว่าคนเสื้อแดงแตกเป็นหลายกลุ่มจึงไม่แน่ใจว่าจะควบคุมกันเองได้ โดยพบว่าบางกลุ่มมีพฤติกรรมที่จะใช้ความรุนแรง เช่น วางระเบิด เหมือนกับที่เกิดขึ้นที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาสีลม ที่คนร้ายรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากคนเสื้อแดง และจะมีบางส่วนไปปิดล้อมสถานที่ต่างๆ เช่น บ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี” นายสุเทพกล่าว

ส่ง “ปทีป” เจรจาห้ามรถอีแต๋น

นายสุเทพกล่าวอีกว่า เพื่อความเรียบร้อย คตม. มอบหมายให้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จัดทีมเจรจาแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงขอความร่วมมือไม่ให้นำรถอีแต๋นเข้ามาในกรุงเทพฯ โดยให้ผู้ร่วมชุมนุมเดินทางโดยรถสาธารณะแทน เช่น รถโดยสาร รถไฟ ส่วนรถชนิดอื่นที่นำเข้ามาจะอำนวยความสะดวกเรื่องที่จอดให้ โดยจัดที่จอดไว้ให้แถบชานเมือง

ฝ่ายความมั่นคงประชุมพร้อมหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม คตม. นัดพิเศษคณะกรรมการที่มีทั้งหมด 24 คน มาร่วมประชุมกันครบทุกคน เช่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อภิชาติ เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)

ตั้งด่านวังน้อยสกัดเสื้อแดง

ทั้งนี้ มีรายงานว่าพื้นที่บางอำเภอของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่จะถูกประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯประกอบด้วย อำเภอวังน้อย และอำเภอบางไทร ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ฝ่ายความมั่นคงจะใช้ตั้งด่านสกัดมวลชนคนเสื้อแดงที่เดินทางมาจากภาคอีสานและภาคเหนือ

ด้านความเคลื่อนไหวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปประชุมร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่ารัฐบาลจะทำงานร่วมกับกองทัพและ กทม. โดย กทม. มีหน้าที่ดูแลเรื่องการจราจรและทำความเข้าใจกับประชาชน โดยขอความร่วมมือให้ควบคุมอารมณ์อย่านำตัวเองไปสู่สถานการณ์ขัดแย้ง

“มาร์ค” มั่นใจมาเป็นแสนก็คุมได้

“รัฐบาลมั่นใจว่าจะดูแลสถานการณ์ได้แม้จะมีคนมาชุมนุมเป็นแสนก็ตาม โดยจะไม่ใช้ความรุนแรงเพราะเจ้าหน้าที่ไม่พกอาวุธ ขอยืนยันว่าไม่มีแนวคิดที่จะประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คงใช้เพียง พ.ร.บ.ความมั่นคงฯควบคุมสถานการณ์เท่านั้น” นายอภิสิทธิ์กล่าวพร้อมระบุว่า ได้ตัดสินใจยกเลิกการเยือนออสเตรเลียระหว่างวันที่ 13-17 มี.ค. แล้วเพื่ออยู่ติดตามสถานการณ์

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกและแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน แถลงว่า รู้สึกไม่สบายใจที่มีการเชื่อมโยงอาวุธที่หายจากคลังแสงของทหารในภาคใต้กับการชุมนุมของคนเสื้อแดง

สงสัยรัฐสร้างข่าวรุนแรงต่อเนื่อง

“มีความผิดปรกติที่กองทัพพยายามปกปิดเรื่องนี้ ประกอบกับมีการให้ข่าวเรื่องการสร้างความรุนแรงจากฝ่ายรัฐบาลตลอดเวลา และมีการรับลูกกันมาเป็นทอดๆ จึงสงสัยว่าอาจมีคนเขียนบทให้เกิดความรุนแรงแล้วโยนความผิดมาให้คนเสื้อแดง ผมขอเรียกร้องให้หน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งหมดแสดงบัญชีอาวุธและเปิดให้สื่อเข้าไปตรวจสอบว่ายังมีจำนวนครบถ้วนถูกต้องหรือไม่” นายณัฐวุฒิกล่าว

ได้ข่าวใช้วังน้อยพื้นที่สกัดเสื้อแดง

นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ได้รับแจ้งข้อมูลว่า พล.ท.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมรับมือการชุมนุมของคนเสื้อแดง ซึ่งที่ประชุมเสนอแผนการลับรับมือด้วยการปฏิบัติการบางอย่างเพื่อสกัดการเคลื่อนขบวนของประชาชนที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่ให้เข้ามารวมตัวกันที่สนามหลวงได้ตามนัดหมาย และทราบมาว่ามีการขอร้องแกมขู่บังคับให้สถานีบริการน้ำมันตามเส้นทางที่คนเสื้อแดงจะสัญจรผ่านลดปริมาณการจำหน่ายน้ำมันลง เพื่อให้เกิดปัญหาในการเดินทาง

ตั้งกองบัญชาการทหารแตงโม

นายณัฐวุฒิอ้างว่า นปช. ได้มีการประสานงานอย่างดีกับกรมยุทธการทหารบกเพื่อกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหว โดยตั้งใจจะตั้งกองบัญชาการทหารแตงโม ซึ่งจะร่วมเอาทหารที่เป็นลูกหลานชาวบ้านที่ข้างนอกเป็นสีเขียวแต่ข้างในเป็นสีแดงมาร่วมกันเคลื่อนไหวจนกว่าจะได้รับชัยชนะ

ให้ทำหน้าที่รายงานข่าวกองทัพ

“กองบัญชาการทหารแตงโมจะทำหน้าที่รับใช้ประชาชนเพื่อปลดแอกชนชั้นให้ประชาชน โดยมีหน้าที่ทำงานด้านการข่าว ซึ่งทำให้เรารู้ความเคลื่อนไหวทั้งหมด นอกจากนี้เรายังมีหน่วยตำรวจแตงโมที่รายงานมาว่าศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ วางแผนที่จะให้ทหารร่วมกับตำรวจทางหลวงสกัดคนเสื้อแดงที่อำเภอวังน้อย นี่จึงเป็นการส่งสัญญาณถึงอำมาตย์ใหญ่ว่าท่านไม่สามารถควบคุมลูกหลานของประชาชนที่เป็นทหารและตำรวจได้ เพราะวันนี้พวกเขาพร้อมที่จะร่วมต่อสู้กับคนเสื้อแดงเพื่อร่วมกันปลดแอกสงครามชนชั้น”

แฉรัฐบาลจ้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

แกนนำ นปช. กล่าวอีกว่า การเตรียมประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯของรัฐบาลเป็นแค่ไพ่ใบแรก เพราะเป้าหมายที่แท้จริงคือการประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อใช้อำนาจได้อย่างเต็มที่ และก่อนที่จะมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้นจะมีการสร้างสถานการณ์บางอย่างขึ้นอีกเพื่อสร้างความชอบธรรม เป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมองประชาชนที่มาชุมนุมมือเปล่าเป็นศัตรูที่ต้องกวาดล้างให้สิ้นซาก

จับพิรุธจับมือปาระเบิดแบงก์กรุงเทพ

นายณัฐวุฒิยังตั้งข้อสังเกตกรณีที่ตำรวจจับชาย 2 คน ที่ปาระเบิดใส่ธนาคารกรุงเทพ สาขาสีลม ได้ว่ามีข้อพิรุธหลายประการ เพราะตำรวจบอกว่าคนที่ขับรถให้เป็นคนขายไอศกรีม แต่สังเกตเห็นว่าไม่มีความตื่นตระหนกเมื่อโดนจับกุม และที่บอกว่าหลังก่อเหตุแล้วยังไปนั่งเล่นเกมออนไลน์ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงแสดงว่าไม่ใช่มือสมัครเล่น

ย้ำยึดมั่นสันติวิธีไม่ใช้ความรุนแรง

“หลักการของคนเสื้อแดงคือยึดมั่นสันติวิธี การขว้างระเบิด ยิงปืนชนิดใดก็ตามเป็นวิธีการที่เราไม่ยอมรับ และขอให้รัฐบาลดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด เราอยากเห็นเหมือนกันว่าใครกระทำรุนแรงจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย” นายณัฐวุฒิกล่าวและว่า ขณะนี้มีความพยายามสร้างข่าวให้ประชาชนในกรุงเทพฯตื่นกลัวกันมากว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงจะเกิดความรุนแรง จะมีการก่อวินาศกรรม วางระเบิด ขอยืนยันว่าไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะคนเสื้อแดงมาชุมนุมเพื่อโค่นล้มอำมาตย์ที่ผูกขาดอำนาจในประเทศนี้มาช้านาน ไม่ได้มาทำสงคราม

ได้กลิ่นกระแสปฏิวัติเริ่มแรง

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า ขณะนี้กระแสข่าวการปฏิวัติรัฐประหารรุนแรงมากขึ้น อยากเชิญชวนให้คนที่คิดลงมือทำจริงๆเพราะจะได้ปิดบัญชีรัฐบาลและคณะปฏิวัติไปในคราวเดียวกัน

“ผมย้ำตรงนี้ว่าการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงจะยึดมั่นในแนวทางสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง” นายจตุพรกล่าว

“บิ๊กจิ๋ว” ไม่เห็นด้วยใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯเพราะต้องการเอากฎหมายมารองรับการทำงาน แต่จริงๆไม่ควรประกาศใช้เพราะจะทำให้สถานการณ์ดูรุนแรง เป็นการทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่

“การแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุดคือเชิญทุกฝ่ายมานั่งคุยกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เรื่องแบบนี้ใช้ได้ผลมาแล้วในอดีต ซึ่งผมเสนอเรื่องนี้มาตลอดแต่ไม่ได้รับการตอบรับ” พล.อ.ชวลิตกล่าว

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯเป็นเรื่องไม่เกินความคาดหมายเพราะรัฐบาลใช้มุขนี้มาตลอด และที่ผ่านมาก็สร้างข่าวเรื่องความรุนแรงอยู่ตลอดเวลา

แขวะรัฐใช้กฎหมายรักษาอำนาจ

“เป็นการใช้กฎหมายเพื่อรักษาอำนาจของตัวเอง ซึ่งถือเป็นการใช้กฎหมายผิดวัตถุประสงค์ และเป็นการใช้กฎหมายลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ” นายพร้อมพงศ์กล่าวและว่า พรรคได้ตั้งคณะทำงานหรือวอร์รูมติดตามสถานการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดง เพื่อตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลว่าลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนหรือไม่ และพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ชุมนุมหากถูกละเมิดสิทธิหรือได้รับบาดเจ็บ เพราะสมัยที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายอภิสิทธิ์และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ก็เคยให้ความช่วยเหลือกลุ่มพันธมิตรฯ พรรคเพื่อไทยจึงใช้มาตรฐานเดียวกันช่วยดูแลประชาชน โดยจะเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก

ร้องยูเอ็นถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพ

นายพิทยา พุกกะมาน รองโฆษกพรรคเพื่อไทยและอดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศชิลี แถลงว่า กรณีมีข่าวรัฐบาลขึ้นบัญชีดำบุคคลใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักการเมืองในพรรคเพื่อไทย และพระสงฆ์ จำนวน 212 คน ถือเป็นการจำกัดสิทธิ ละเมิดสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และยังเป็นการทำลายความสงบสุข ความสามัคคี ซึ่งขัดต่อปฏิญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชน พรรคเพื่อไทยโดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค จึงได้ทำหนังสือยื่นต่อสำนักงานข้าหลวงใหญ่ว่าด้วยสิทธิมนุษยชน องค์กรสหประชาชาติ และองค์การฮิวแมนไรท์วอทช์ (Human Rights Watch) แห่งนครนิวยอร์ก ประจำประเทศไทย เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้

เพื่อไทยโวยถูกคนติดตาม

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การประชุมพรรคเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ใหญ่ในพรรค เช่น หัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรคที่มีชื่ออยู่ในบัญชีดำของรัฐบาล เล่าให้ที่ประชุมรับทราบว่าถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลติดตามความเคลื่อนไหว ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

“ผมเองมีตำรวจไปที่บ้านเลย บอกว่าได้รับคำสั่งให้มาดูแลความปลอดภัย ซึ่งภริยาผมได้ขอนามบัตรเอาไว้ จากนั้นก็มีตำรวจอีก 2 ชุด ชุดละ 2-3 คน มาสอบถามคนที่บ้านว่าผมใช้รถยี่ห้ออะไร รุ่นไหน ปรกติจะเดินทางไปที่ไหนบ้าง ผมขอบคุณตำรวจที่มาอย่างเปิดเผยและพูดจาสุภาพ พร้อมใช้คำพูดที่ดูดีว่ามารักษาความปลอดภัยให้ ผมได้แจ้งสถานีตำรวจท้องที่ไปแล้วว่าขอบคุณแต่ไม่ต้อง เขาก็บอกว่าไม่ต้องคิดมากเพราะได้รับคำสั่งให้มาดูแลความปลอดภัย เรื่องนี้ถือเป็นการข่มขู่กันกรายๆ ผมเกิดมานาน อยู่ในตำแหน่งสำคัญมาหลายตำแหน่ง จึงอยากบอกรัฐบาลว่าควรยุติการกระทำอย่างนี้เสีย และอยากให้พูดให้ตรงๆกันด้วย เพราะนายกรัฐมนตรีบอกว่าไม่ทราบเรื่องแต่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี บอกว่าติดตามประมาณ 10 ราย แต่ของจริงไม่รู้ว่ามีกี่รายที่ถูกติดตาม” นายปลอดประสพกล่าว

“ประสงค์” ชี้ถ้าวุ่นวายมีปฏิวัติ

น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ แนวร่วมคนสำคัญของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและอดีตประธานคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 กล่าวว่า หากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เกิดการจลาจลเผาบ้านเผาเมือง เกิดความวุ่นวาย ทหารคงต้องออกมาควบคุมสถานการณ์โดยการยึดอำนาจ

แฉ “มาร์ค” ขัดใจระดับสูง

“แม้โอกาสการปฏิวัติรัฐประหารจะมีไม่มากแต่ไม่ได้หมายความว่าเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะขณะนี้กระแสความไม่พอใจที่มีต่อรัฐบาลนายอภิสิทธิ์มีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังไปสร้างความไม่พอใจกับระดับสูงขึ้นมาอีก แต่การปฏิวัติรัฐประหารไม่ใช่อยู่ๆจะเกิดขึ้นมาได้ มันต้องมีเงื่อนไขก่อน” น.ต.ประสงค์กล่าว

รศ.อัษฎางค์ ปาณิกบุตร นักวิชาการอิสระด้านรัฐศาสตร์ กล่าวว่า เท่าที่ประเมินหากมีความรุนแรงน่าจะเกิดจากฝีมือของกลุ่มอื่น ไม่ใช่การกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดง

บางกลุ่มจ้องสร้างสถานการณ์ปฏิวัติ

“มีบางกลุ่มที่จ้องสร้างสถานการณ์ความรุนแรงขึ้นมาเพื่อใช้เป็นข้ออ้างทำปฏิวัติรัฐประหาร คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ไม่ชอบรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงควรระมัดระวังคนกลุ่มนี้ให้ดี ขอให้จำคำพูดของผมไว้ นักเลงมันไม่พูดมาก ถึงเวลามันทำเลย จับตาดูก็แล้วกันเพราะยังมีคนที่มีอำนาจเหนือนายอภิสิทธิอีกหลายคนในประเทศนี้” รศ.อัษฎางค์กล่าว

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรียกร้องให้รัฐบาลจัดรายการพิเศษชี้แจงประชาชนถึงความจำเป็นที่ต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ โดยต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่าการข่าวตรวจพบอะไรบ้าง มาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างไร และจุดไหนเป็นจุดเสี่ยง

“สุริยะใส” ก็ห่วงจะมีปฏิวัติ

นายสุริยะใสยอมรับว่า มีความเป็นห่วงการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงจะนำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหาร เพราะมีแนวทางใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ ซึ่งหากเกิดการปฏิวัติรัฐประหารจริงคงไม่เป็นผลดีต่อประเทศ

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker