สาทิตย์สั่ง นครบาลจับตาทีวีเสื้อแดง หลังประกาศปรับผังรายการจ่อปลุกระดมสร้างความรุนแรง ลั่น หากพบทำผิดกฎหมายจะสั่งดำเนินคดีทันที...
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศปรับผังทีวีพร้อมรบว่า เห็นได้ชัดว่าแกนนำ นปช. มีความพยายามที่จะใช้แนวทางต่อสู้โดยการไม่ยอมรับคำพิพากษาของศาลและจัดชุมนุมมวลชนขนาดใหญ่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ของประเทศและความสงบสุขของสาธารณะ
มีการประกาศเอารถกระบะมากันเป็นแสนคัน ซึ่งเป็นปัญหาต่อการดูแลของเจ้าหน้าที่รัฐ อย่างไรก็ตาม การประกาศปรับผังทีวีพร้อมรบของคนเสื้อแดงได้เปลี่ยนแนวทางจากสันติมาสู่ความรุนแรงดูจากป้ายข้างหลังจอที่ใช้ข้อความล้มอำมาตย์ ต่างจากที่ผ่านมา ที่ทีวีดาวเทียมของคนเสื้อแดงเป็นการสื่อสารแบบหนึ่ง เราก็ไม่ได้เข้าไปจัดการ แต่เมื่อประกาศปรับผังพร้อมรบแล้วมีการไปดำเนินการอะไรที่ผิดกฎหมายเช่นมีการปลุกระดม ยุยงให้มีการเผาสถานที่ราชการ ก่อวินาศกรรม หรือมีการเผยแพร่คำพูดของ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช.ให้เอาขวดน้ำมันติดตัวกันมา เหตุการณ์ก็จะเหมือนกับดีสเตชั่นเมื่อช่วง12-13 เม.ย.ที่ผ่านมา จึงได้มอบหมายให้ ตำรวจนครบาล ติดตามและดำเนินการตามกฎหมายทันที
นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่า ทางรัฐบาลเห็นว่ากลุ่มคนเสื้อแดงใช้สื่อใดไม่ว่าจะเป็นทีวี วิทยุชุมชนเพื่อปลุกระดมรัฐบาลก็จัดการ ซึ่งคราวนี้เชื่อว่าเจตนาที่ประกาศปรับผังรายการของทีวีคนเสื้อแดงก็จะเป็นการปรับเพื่อปลุกระดม ซึ่งทางรัฐบาลกำลังจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะฉะนั้นเชื่อว่าสถานการณ์ขณะนี้อ่อนไหวมากเพราะนปช.หัวรุนแรงพยายามใช้คำพูดปลุกระดมอย่ตลอดเวลา
ส่วนหากมีการใช้คำพูดปลุกระดมผ่านจอจะสั่งให้จอมืดหรือไม่ นายสาทิตย์ ตอบว่า ต้องดูเป็นกรณี โดยดูว่าการดำเนินการของหน้าจอเป็นอย่างไรก็จะเข้าไปจัดการ
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศปรับผังทีวีพร้อมรบว่า เห็นได้ชัดว่าแกนนำ นปช. มีความพยายามที่จะใช้แนวทางต่อสู้โดยการไม่ยอมรับคำพิพากษาของศาลและจัดชุมนุมมวลชนขนาดใหญ่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ของประเทศและความสงบสุขของสาธารณะ
มีการประกาศเอารถกระบะมากันเป็นแสนคัน ซึ่งเป็นปัญหาต่อการดูแลของเจ้าหน้าที่รัฐ อย่างไรก็ตาม การประกาศปรับผังทีวีพร้อมรบของคนเสื้อแดงได้เปลี่ยนแนวทางจากสันติมาสู่ความรุนแรงดูจากป้ายข้างหลังจอที่ใช้ข้อความล้มอำมาตย์ ต่างจากที่ผ่านมา ที่ทีวีดาวเทียมของคนเสื้อแดงเป็นการสื่อสารแบบหนึ่ง เราก็ไม่ได้เข้าไปจัดการ แต่เมื่อประกาศปรับผังพร้อมรบแล้วมีการไปดำเนินการอะไรที่ผิดกฎหมายเช่นมีการปลุกระดม ยุยงให้มีการเผาสถานที่ราชการ ก่อวินาศกรรม หรือมีการเผยแพร่คำพูดของ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช.ให้เอาขวดน้ำมันติดตัวกันมา เหตุการณ์ก็จะเหมือนกับดีสเตชั่นเมื่อช่วง12-13 เม.ย.ที่ผ่านมา จึงได้มอบหมายให้ ตำรวจนครบาล ติดตามและดำเนินการตามกฎหมายทันที
นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่า ทางรัฐบาลเห็นว่ากลุ่มคนเสื้อแดงใช้สื่อใดไม่ว่าจะเป็นทีวี วิทยุชุมชนเพื่อปลุกระดมรัฐบาลก็จัดการ ซึ่งคราวนี้เชื่อว่าเจตนาที่ประกาศปรับผังรายการของทีวีคนเสื้อแดงก็จะเป็นการปรับเพื่อปลุกระดม ซึ่งทางรัฐบาลกำลังจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะฉะนั้นเชื่อว่าสถานการณ์ขณะนี้อ่อนไหวมากเพราะนปช.หัวรุนแรงพยายามใช้คำพูดปลุกระดมอย่ตลอดเวลา
ส่วนหากมีการใช้คำพูดปลุกระดมผ่านจอจะสั่งให้จอมืดหรือไม่ นายสาทิตย์ ตอบว่า ต้องดูเป็นกรณี โดยดูว่าการดำเนินการของหน้าจอเป็นอย่างไรก็จะเข้าไปจัดการ