นายกฯเลิกเยือน"ออสเตรเลีย"
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมใหัวส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง ที่หอประชุมเล็กศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ถึงกำหนดการเยือนประเทศออสเตรเลียในวันที่ 13 - 17 มี.ค.นี้ หลังจากที่คณะกรรมการคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง(คตม.) เตรียมเสนอให้ที่ประชุมครม.ประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง วันที่ 11 - 23 มี.ค. ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) และบางอำเภอในจังหวัดปทุมธานี ,อยุธยา และ สมุทรปราการ โดยนายกฯ กล่าวตอบเพียงสั้นๆ ว่า "ไม่ไปแล้วครับ"
"สุเทพ" ชงครม.ประกาศใช้ พรบ.มั่นคง พื้นที่กทม.-ปริมณฑล
นายสุเทพ เทอกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) แถลงว่า ที่ประชุมมีมติให้ประกาศใช้ พรบ.ความมั่นคง ในช่วงวันที่ 11-23 มีนาคม 2553 เฉพาะในพื้นที่กทม.และปริมณฑล เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นจากการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยจะมีการเสนอเข้าที่ประชุมครม.ในวันที่ 9 มีนาคมนี้
มท.1เตรียมชงครม.ใช้กม.ป้องกันภัยฯจัดการ"แดง" รถอีแต๋นวิ่งถนนหลวงยึดไว้ก่อน
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเมื่อวันที่ 8 มีนาคมว่า วันพรุ่งนี้(9 มี.ค.) จะเสนอการใช้พระราชบัญญัติป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เพื่อรับมือการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมนี้ โดยเชื่อว่า จะช่วยรองรับสถานการณ์ที่คาดว่าจะรุนแรงได้ ขณะเดียวกันได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มรถที่จะเข้าร่วมชุมนุม หากนำรถไถนา(รถอีแต๋น) มาวิ่งบนทางหลวงให้ดำเนินการตามกฎหมาย นอกจากนี้จะตั้งรางวัล 50,000 บาท สำหรับเจ้าหน้าที่ประจำด่าน หรือจุดตรวจที่สามารถจับกุมผู้ชุมนุมที่พกพาอาวุธ และยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการจำกัดสิทธิ์การชุมนุม
รายงานแจ้งว่า นายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงนามในหนังสือสั่งการด่วนที่สุดเมื่อวานนี้ (7มี.ค.) สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ดำเนินการป้องกันปัญหาเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มพลังทางการเมือง ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่าง ๆ ในลักษณะการสร้างกระแสชี้นำทางความคิดและปลุกระดมให้มวลชนเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง โดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สนธิกำลังทหาร ตำรวจ สมาชิก อส.ในพื้นที่ จัดตั้งจุดตรวจค้นอาวุธสงครามหรือสิ่งของที่ผิดกฎหมายต่างๆ กับมวลชนที่จะเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุม
ส.ส.ปชป.เผยเสื้อแดงพล่านหาเช่ารถอีแต๋นเข้า กทม.
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ว่า ขณะนี้กลุ่มคนเสื้อแดงในภาคเหนือตอนล่างได้เคลื่อนไหวอย่างคึกคักโดยเฉพาะการเดินสายไปตามบริษัทเช่ารถยนต์ เพื่อขอเช่ารถอีแต๋น รถอีโก้ และรถกระบะ สำหรับใช้เดินทางมาร่วมชุมนุมใหญ่ปลายสัปดาห์นี้ แต่การที่มีกระแสข่าวว่าหากรถที่เช่ามาเกิดความเสียหายระหว่างการชุมนุมบริษัทประกันจะไม่จ่ายค่าชดเชยให้ ก็ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงหารถเช่าได้ไม่มากนัก อย่างเก่งก็หลักสิบเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมเตรียมถุงดำมาไว้ใส่อุจจาระและปัสสาวะ โดยอ้างว่าการชุมนุมครั้งนี้จะยืดเยื้อ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเริ่มต้นการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร ทำให้เชื่อว่าชาวบ้านในพื้นที่ จ.พิษณุโลก สุโขทัย จะมาร่วมชุมนุมไม่มากนัก แต่จ.พระนครศรีอยุธยาและนครสวรรค์คงมีเข้ามาบ้าง
ส.ว.ห่วงแดงชุมนุมบานปลาย แนะตั้งด่านตรวจอาวุธอย่างละเอียด
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ในการประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 8 มีนาคม มีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ช่วงเปิดให้สมาชิกหารือก่อนเข้าสู่วาระ นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา หารือกรณีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงวันที่ 14 มีนาคม ว่า สถานการณ์การเมืองก่อนกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมใหญ่ ขอให้รัฐบาลกำชับหน่วยกำลังทั้งทหาร ตำรวจ และหน่วยข่าวกรอง บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดในการดูแลสถานการณ์ หากพบว่า มีผู้กระทำความผิดขอให้ถอนประกันแกนนำและดำเนินการจับกุม โดยขอให้ประสานไปยังศาล 24 ชั่วโมง เพื่อออกหมายจับได้ทันที และขอให้ทหารและตำรวจ สนธิกำลังตั้งด่านตรวจอาวุธสงครามที่มีเป้าหมายการก่อจลาจลและสร้างความวุ่นวาย ทั้งนี้ตนได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในหัวเมือง อาทิ อยุธยา พัทยา และสระบุรี จะทำหน้าที่หละหลวมกักกันพอเป็นพิธีแล้วปล่อยผู้ชุมนุมเข้ากรุงเทพฯ จึงขอให้มีการสนธิกำลังอย่างเร่งด่วน
นายสมชาย กล่าวว่า ขอให้รัฐบาลเตรียมแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินขั้นสูง โดยเตรียมความพร้อมทั้งโรงพยาบาล รถพยาบาล เลือด กรณีที่เหตุการณ์บานปลาย ขอให้มีการประสานสื่อโทรทัศน์เพื่อทำความเข้าใจกับผู้ที่จะเดินทางเข้ามาชุมนุมในกรุงเทพฯ 2 ประเด็น คือ มีบุคคลบิดเบือนคำพิพากษา โดยอ้างว่าถูกปล้นทรัพย์ทั้งที่เป็นการนำทรัพย์ที่ถูกปล้นไปคืนสู้แผ่นดิน และขอให้การใช้สิทธิชุมนุมกระทำโดยสงบ อย่าปล่อยให้แกนนำพาไปก่อเหตุหรือก่อการจลาจล ทั้งนี้หากเกิดเหตุรัฐบาลต้องกล้าที่จะตัดสินใจที่จะพูลสถานีโทรทัศน์และวิทยุเข้าเป็นโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ รวมถึงประสานสื่อต่างชาติ
นายสมชาย กล่าวว่า เมื่อจำเป็นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขอให้รัฐบาลเตรียมพร้อมประกาศใช้พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรควบคุมเฉพาะพื้นที่ และหากสถานการณ์ลุกลามบานปลายนายกรัฐมนตรีต้องใช้ภาวะผู้นำในการตัดสินใจทันทีโดยทำความเข้าใจกับประชาชน ทั้งนี้หากต้องใช้กำลังเข้าควบคุมสถานการณ์จะต้องยึดหลักสิทธิมนุษยชนและแผนกรกกฎ 52 ปฏิบัติจากเบาไปหาหนัก โดยจะต้องมีการบันทึกเทปโทรทัศน์ไว้ทุกขั้นตอนเพื่อป้องกันการตัดต่อ เนื่องจากการชุมนุมครั้งนี้มีการทำสงครามสื่อ
นายสมชาย กล่าวอีกว่า สำหรับประชาชน มีข้อเสนอ 3 ข้อ คือ ให้ประชาชนเข้าใจว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกับกลุ่มที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาล เพื่อต้องการกลับเข้ามามีอำนาจ ไม่ใช่การเผชิญหน้าของคนกลุ่มใหญ่ของประเทศกับกลุ่มของพ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นจึงควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการจัดการ ประชาชนส่วนใหญ่จึงไม่ควรเอาตัวเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ แต่ประชาชนต้องช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันความปลอดภัยของตัวเองและความปลอดภัยของชุมชน โดยหากพบว่ามีผู้ใดก่อเรื่องในชุมชนขอให้ลุกขึ้นมาตอบโต้ตามกฎหมายและขอให้ประชาชนติดตามข่าวสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยขอให้ประชาชนพร้อมที่จะออกมาปกป้องสถาบัน
"เรื่องนี้อยู่ที่รัฐบาลและภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีที่จะต้องตัดสินใจ ภาวะผู้นำในภาวะปกติกับภาวะผู้นำในสถานการณ์แตกต่างกัน ประเทศชาติจะอยู่รอดได้จะต้องอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่าย” นายสมชาย กล่าว
เพื่อไทยปูดแกนนำพรรคร่วมหนีบินนอกช่วงแดงเดือด
วันที่ 8 มีนาคม นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงเสถียรภาพของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่า ขณะนี้จากข้อมูลวงในทราบว่ากำลังสั่นคลอนอย่างหนัก เพราะพรรคร่วมรัฐบาลไม่พอใจที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ไม่ยอมให้ความร่วมมือเรื่องการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ(รธน.) ตามที่ได้นำเสนอไป ขณะเดียวกันในการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงระหว่างวันที่ 12-14 มีนาคมนี้ นายอภิสิทธิ์ก็จะมีกำหนดการเดินทางไปต่างประเทศ แกนนำพรรคร่วมบางคนที่ไม่พอใจรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลชุดนี้ก็เตรียมตัวเดินทางไปต่างประเทศเช่นกัน
"ดังนั้นเมื่อบุคคลที่เป็นระดับผู้นำและผู้บริหารของประเทศ ที่สำคัญคือแกนนำของพรรคร่วมรัฐบาลไม่อยู่ในพื้นที่ ผมคิดว่าจะทำให้การประกาศชัยชนะของกลุ่มเสื้อแดงรวดเร็วยิ่งขึ้น คงจะไม่มีความยืดเยื้อ จะเผด็จศึกโค่นระบบอำมาตย์ได้ง่ายขึ้น" ส.ส.พท. กล่าว
"สุเทพ"ถกคตม.ประเมินสถานการณ์เสนอ"มาร์ค"เคาะใช้กม.มั่นคงหรือไม่
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ถึงการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ในเวลา 10.00 น. จะเรียกประชุม คตม.ที่กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อประเมินสถานการณ์เสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งตนจะแถลงข่าวผลการประชุมอีกครั้ง ส่วนจะประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงหรือไม่ต้องขอหารือในที่ประชุม คตม.ได้ตกลงกันก่อน หากดูตามสถานการณ์คงมีประเด็นที่ต้องพิจารณาอย่างจริงจัง เพราะมีข้อกังวลใจหลายประการ เช่น ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดธนาคารกรุงเทพ (จำกัด) มหาชน ได้ให้ปากคำชัดเจนว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจ้างมา