ความหวาดวิตกและหวาดระแวงที่กำลังเกิดขึ้นในบ้านเมืองเวลานี้ เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าประเทศไทยจะเจอกับวิกฤติอีกหลายกระทอก ตราบใดที่รัฐบาลยังถือว่าการเมืองอีกขั้วหนึ่งเป็นศัตรู ไม่คิดในแนวบวก แต่จ้องจะขุดรากถอนโคนกันท่าเดียว
หนีไม่พ้นกลียุค
เมื่อตั้งใจจะบีบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามุมอับ ไม่อยากจะคาดเดาไปว่า สถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ที่รัฐบาลพยายามปิดบังความเสียหายอยู่ในขณะนี้ จะเกิดขึ้นในภาคเหนือหรือภาคอีสานบางจังหวัด หรือในเมืองหลวงเองก็เถอะ ที่สุดประชาชนผู้บริสุทธิ์ ต้องตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง
เคยเห็นภาพทหารชั้นผู้น้อยที่เสียชีวิตในภาคใต้แล้วเศร้าใจ ชีวิตคนเหมือนผักปลา ถามว่ารัฐบาลกระเหี้ยนกระหือรือที่จะจัดการกับปัญหาในภาคใต้แค่ไหน หรือมองว่าเป็นแหล่งผลประโยชน์ขนาดใหญ่
ดูวาระการประชุม ครม.แต่ละครั้ง มีแต่ของบประมาณเยียวยา ภาคใต้ ท่านั้นท่านี้ ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ของบฟื้นฟูพัฒนาเกือบจะทุกกระทรวง แม้แต่งบประมาณลับที่อ้างว่าจะนำไปใช้ความมั่นคงก็หลับหูหลับตาขอกันกระจาย สุดท้ายประชาชนและชีวิตของทหารชั้นผู้น้อยก็ตกเป็นเหยื่ออยู่ดี
รัฐบาลออกข่าวร้ายได้สารพัด แต่พอฝ่ายค้านเอาเรื่องของการ ขึ้นบัญชีดำเครือข่ายทักษิณ 212 ชื่อ มาเปิดโปงเท่านั้น โวยว่าเป็นการออกข่าวร้ายให้เกิดความหวาดวิตก ประเด็นนี้จะจริงจะเท็จประการใด ต้องไปถาม กอ.รมน. ข่าวนี้ได้ยินมาตั้งแต่หลังเดือน เม.ย.ปีที่แล้ว อย่าว่าแต่พลเรือนเลย แม้แต่คนในกองทัพด้วยกันถูกติดตามความเคลื่อนไหวดักฟังโทรศัพท์กันถี่ยิบ
หลังการพิพากษาคดียึดทรัพย์คิดว่าสถานการณ์การเมืองจะผ่อนคลาย ลำพัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็มีโอกาสแค่เรียกร้องความเป็นธรรมอยู่ในต่างประเทศ
แต่การที่รัฐบาล การที่ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สั่งการให้ กระทรวงการคลัง ไอซีทีตั้งคณะกรรมการขึ้นมาขยายผลเอาผิดกับคนในตระกูลชินวัตรต่อไป หรืออัยการ และ ป.ป.ช.เร่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาติดตามผลพวงของคดียึดทรัพย์เพื่อขยายผลในการฟ้องร้องคดีเพิ่มเติมนั้น
ก็เหมือนการประกาศสงคราม
ตามล้างตามเช็ดกันให้ตายไปข้าง ต่อไปนี้การเมืองก็ต้องเล่นกันชนิดขุดรากถอนโคน ไม่ต้องคำนึงถึงกติกามารยาท กลายเป็นสงครามการเมือง ไม่ว่าฝ่ายใดจะขึ้นมามีอำนาจก็ต้องพยายามขุดรากถอนโคนฝ่ายตรงกันข้ามให้สูญพันธุ์ ขัดกับการเมืองในระบอบประชาธิปไตยโดยสิ้นเชิง
ต่อไปนี้บ้านเมืองเตรียมลุกเป็นไฟ
เศรษฐกิจก็เตรียมเข้าสู่วงจรหายนะ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ระหว่าง 31-32 บาทต่อดอลลาร์ ส่งออกเพิ่มแต่รายได้ลดลง ตลาด หลักทรัพย์ก็ปั่นป่วนอันเนื่องมาจากวิกฤติการเมืองนี่แหละ อนาคตของตลาดหลักทรัพย์ร้อยละ 70 ขึ้นอยู่กับการเมืองเป็นตัวชี้นำ ไหนๆจะล่มจมก็ให้ล่มจมโดยทั่วถึงกัน พับผ่า.
หมัดเหล็ก