"March on March 14"
โดยสัญญาณของฝ่ายรุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ทวิตเตอร์ "เป่านกหวีด" เรียกระดมพลกองเชียร์คนเสื้อแดง ผู้รักประชาธิปไตย ผู้รักความยุติธรรม ผู้ต้องการโอกาสเสมอภาค ออกมาร่วมชุมนุมใหญ่
ทำได้แค่โหมโรง รัวเกราะเคาะไม้ผ่านทางอินเตอร์เน็ต
"นายใหญ่" โดนยึดพื้นที่ข่าว เซียนการตลาดงัดมุกเบียดกระแสสื่อไม่ทัน
เมื่อเทียบกับยุทธศาสตร์ของฝ่ายตั้งรับ ฝ่ายคุมเกมอำนาจเร้าฉากสงครามรายวัน
ล่าสุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี "ส่งมุก" คิวหารือกับ "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง
มีข่าวก่อวินาศกรรมช่วงม็อบแดงชุมนุม
ขณะที่นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ทำหน้าที่โฆษกรัฐบาล รับฝ่ายข่าวรายงานในที่ประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) เมื่อวันที่ 5 มีนาคม จากที่ติดตามฟังการให้ข่าวและโน้มน้าวชักจูงคนบางกลุ่ม ให้นำอาวุธหรือกระทำการต่างๆ เช่น พยายามวางเพลิง หรือทำระเบิด
ไม่มองข้ามฝีมือคนที่แอบแฝงเข้ามา เพื่อสร้างปั่นป่วน
ไม่นับคิวของหางเครื่องอย่าง นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แท็กทีมกับ "เดอะคึก" นายเทพไท เสนพงศ์ โทรโข่งประจำตัวหัวหน้าพรรค
ช่วยกันตีปี๊บข่าวไม่ได้กรอง
แค่นึกตาม ก็จินตนาการฉากบู๊ล้างผลาญในสงครามกองทัพแดงได้
ขนหัวลุกไปตามๆกัน
แต่นั่นยังไม่น่าเสียวไส้ เมื่อเจอ "ของจริง" ที่หน่วยตีปี๊บของรัฐบาลไม่ได้ "ปล่อยของ" แต่ข่าวหลุดออกมาจากชั้นความลับสุดยอดของกองทัพบก ถึงหูของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง แฉดังๆออกอากาศ
กลางดึกของวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา คนร้ายลอบเข้าไปขโมยอาวุธสงครามในคลังแสงของกองพันทหารช่างสนาม 401 ค่ายอภัยบริรักษ์ จ.พัทลุง
ได้อาวุธสงครามไปหลายรายการ ทั้งระเบิดสังหารบุคคลแบบเอ็ม 67 จำนวน 69 ลูก เครื่องกระสุนปืนเอชเค และเอ็ม 16 จำนวนอย่างละ 3,100 นัด
ข้อมูลลึก ถึงขนาดระบุตัวเลขได้
และก็เป็น "เสธ.ไก่อู" พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ยอมรับอย่างเป็นทางการ อาวุธสงครามในค่ายทหารถูกขโมยหายไปจริง
การันตีมาตรฐาน "ข่าวกรอง" ของกองทัพเสื้อแดง ก็ไม่ธรรมดา
แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับปมที่ต้องเกาะติดกันให้ดีๆ โดยสถานการณ์ ที่อ่านกันง่ายๆ อาวุธสงครามโดนมือดีฉกจากค่ายทหาร ใจถึงขนาดนี้
มันก็มีแค่คนวงในด้วยกันเท่านั้น
กล้าล้วงคองูจงอางได้
อย่างที่วงวิเคราะห์ของระดับบิ๊ก ฟันธงอาวุธสงครามที่หายไปน่าจะเป็นฝีมือของกำลังพลภายในหน่วย เนื่องจากสภาพอาวุธสงครามภายในคลังแสงที่เหลืออยู่ ไม่มีสภาพของการรื้อค้นแบบกระจัดกระจายเหมือนกับลักษณะการขโมยหรือการปล้น
นี่แหละน่าเสียวไส้กว่าเกมรบของคนเสื้อแดง
ตามจังหวะที่ยังจับทางไม่ได้ วงในท็อปบูตมีคิวจ้องล่อกันเองหรือไม่
โดยสถานการณ์มั่วๆของสงครามกองทัพแดง มือที่หนึ่ง มือที่สอง มือที่สาม ยังโฟกัสไม่ได้ ใครหมั่นไส้ จ้องผสมโรงล้มกระดานรัฐบาล "อภิสิทธิ์ชน"
แต่ที่พูดกันตรงๆเลยก็ในเกมของนักเลือกตั้ง
ในอารมณ์ที่จับทางได้จากนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้คิวระบายบนเวทีประชุมใหญ่พรรคที่ผ่านมา ยอมรับตรงๆเลยว่า มีคนจ้องปลด "เสธ.หนั่น" พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ออกจากตำแหน่ง
เพื่อดันให้เป็นนายกรัฐมนตรี ตามฉากเบื้องหลังที่ฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทยของนายใหญ่ เทียวไล้เทียวขื่อทาบทาม เปิดเกมหักดิบพรรคประชาธิปัตย์ พลิกขั้วจัดรัฐบาลกันใหม่
แต่ด้วยการยึดสัจจะของยี่ห้อ "บิ๊กเติ้ง" นายบรรหาร ศิลปอาชา เลยไม่รับมุกหักหลังเพื่อน
แม้จะต้องกล้ำกลืนฝืนทน โดนเด็กเบี้ยวคิวแก้รัฐธรรมนูญ
แต่ทั้งหมดทั้งปวงคำตอบมันอยู่ที่ตอนท้าย ในอารมณ์ที่จับทางได้จากคิวระบายของนายชุมพล สะท้อนเงื่อนไขไฟต์บังคับของ "บิ๊กเติ้ง" ไม่ใช่แค่เรื่องของสัจจะ
สำคัญจริงๆ น่าจะอยู่ที่รายการคุณขอมา
ไม่กล้าขัดใจผู้กำกับฉากเบื้องหลัง "รัฐบาลอภิสิทธิ์ชน".
ทีมข่าวการเมือง
