นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศด้วยความมั่นใจว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าว่าจะได้ ส.ส.อย่างน้อย 240 ที่นั่ง โดยอ้างว่าตัวเลขนี้เป็นการสำรวจตามหลักพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ไม่ได้โมเมหรือเพ้อฝันไปเอง
แม้ว่าภาคอีสานยังเป็นจุดอ่อนของพรรค แต่หลังจากเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคปรากฏว่ามีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 20 แต่ก็ยังไม่พอที่จะชนะและตัวเลข 240 เสียงนั้นส่วนใหญ่ยังเป็นเป้าหมายเดิม
ยังไม่รู้ว่าตัวเลขที่ออกมานั้นแม้จะอ้างว่าเป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ แต่ไม่ได้เปิดเผยถึงกรรมวิธีว่าได้มาจากวิธีการไหนกันแน่
เพราะการที่ประชาธิปัตย์จะได้ ส.ส. 240 ที่นั่งนั้นคงไม่ใช่ เรื่องง่าย เพราะภาคอีสานซึ่งมี ส.ส.มากที่สุดและพรรคเพื่อไทยจะยังคงครองความนิยมได้มากที่สุด
แม้กระทั่งพรรคการเมืองเล็กอย่างพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีฐานเสียงดีกว่าประชาธิปัตย์ยังไม่สามารถเอาชนะพรรคเพื่อไทยได้ จากผลการเลือกตั้งซ่อม 3 จังหวัดที่ผ่านมาปรากฏว่าแพ้เรียบ แม้ที่มหาสารคามจะแพ้แบบฉิวเฉียด
แต่ก็ต้องถือว่าแพ้
ว่ากันที่จริงแล้วฐานเสียงของประชาธิปัตย์ที่ชัดเจนคือ
ภาคใต้ กทม. ภาคตะวันออก ภาคกลางบางส่วน รวมถึงภาคเหนือ ก็ได้ไม่มากนัก
หากตัวเลขที่ออกมา 240 เสียงนั่นก็หมายความว่า นอกจากภาคใต้ที่ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้ว ภาคอื่นๆก็ได้เต็มที่ด้วย โดยเฉพาะ กทม.จะต้องกวาดได้ทุกเขต
จริงๆ แล้วหากมีการเลือกตั้งในเร็ววันนี้ เพราะรัฐบาลไม่ สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้โดยเฉพาะในพรรคร่วมรัฐบาล
เชื่อว่าไม่มีทางได้ 240 เสียงแน่
เพราะสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันนั้นต่างก็รู้อยู่แก่ใจดีแล้ว หากยุบสภาเลือกตั้งใหม่ไม่น่าจะสู้พรรคเพื่อไทยได้ ดังนั้นการกอดคออยู่ร่วมกันแม้จะมีความขัดแย้งกันอย่างหนักก็เพราะด้วยเหตุผลนี้เป็นหลักคือกลัวแพ้เลือกตั้ง
ยิ่งพรรคร่วมรัฐบาลนั้นชัดเจนที่สุด ขนาดว่าต้องยอมขัดแย้งกับประชาธิปัตย์ด้วยความพยายามที่จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นวิธีการเลือกตั้งที่ต้องการให้เป็นแบบวันแมน วันโหวตเพราะมั่นใจว่าหากมีการเลือกตั้งแบบปัจจุบันเสร็จแน่
ดีไม่ดีจะสูญพันธุ์เลยทีเดียว
นอกเหนือจากการแก้ไขวิธีการเลือกตั้งแล้ว จะต้องยืนระยะการเป็นรัฐบาลให้ยาวนานออกไปมากที่สุด เพราะยังต้องการเงินทุนและสร้างผลงานให้ปรากฏต่อประชาชน
อีกทั้งหากยืนยาวออกไปได้ย่อมส่งผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พูดง่ายๆว่าต้องทำให้ทักษิณเพลี่ยงพล้ำทางการเมืองและเสียคะแนนนิยมให้มากที่สุด
สิ่งที่ต้องยอมรับในเขตพื้นที่ภาคอีสานนั้น ทักษิณยังครองใจคนอีสานมากกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ อีกทั้งยังมีเงินมากกว่า
อย่างน้อยการเลือกตั้งครั้งต่อไปทุ่มไปอีกสัก 5,000 ล้าน ก็เหนื่อยกันแล้ว แต่ทักษิณคงขนหน้าแข้งไม่ร่วงไปมากนัก
การที่ประชาธิปัตย์โชว์ตัวเลข 240 เสียง ก็คงเป็นการตัดไม้ ข่มนามต่อพรรคเพื่อไทยและทำให้ลูกพรรคประชาธิปัตย์มีกำลังใจและฮึกเหิมมากขึ้นเท่านั้น ขณะเดียวกันก็พยายามที่จะสร้างบรรยากาศทางการเมืองให้ประชาชนรู้สึกว่าบ้านนี้เมืองนี้ยังมีอนาคตที่มองไปข้างหน้า
มากกว่าที่จะติดหล่มอยู่กับคนชื่อ "ทักษิณ" เท่านั้น.
"สายล่อฟ้า"