บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

‘ป๊อก’ ดื้อด้าน! ยิ่งแถลง...ยิ่งถลำ...ประจานตน

ที่มา บางกอกทูเดย์

นับจากวินาทีแรกที่นายกรัฐมนตรีแถลงผลทดสอบประสิทธิภาพเครื่องตรวจมวลสารรุ่นจีที 200 ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำการทดสอบจาก 20 ครั้ง แต่ใช้งานได้จริงเพียง 4 ครั้งได้จุดกระแสต้านจีที 200 ขึ้นมาอีกครั้งตามมาด้วยประเด็นเชิงลบอีกมากมายซึ่งหนึ่งในนั้นคือประเด็นข้อกังขา “การ

ทุจริต”ในกองทัพที่เสนอจัดซื้อในราคาที่สูงเกินจริงรวมทั้งประสิทธิภาพของการใช้งานที่ไม่สามารถการันตีได้ว่าจีที 200 ใช้งานได้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์หรือไม่คำถามเหล่านี้เกิดขึ้นมาตลอดช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ทนกระแสสังคมไม่ไหวต้องระดมนายทหารชั้นผู้ใหญ่และทหารระดับปฏิบัติการนั่งโต๊ะแถลงข่าวถ่ายทอดสดออกอากาศทางช่อง 11 และช่อง 5โดยสรุปของการแถลงข่าวคือ กองทัพจะใช้จีที 200 ต่อไป

จนกว่าจะมีเครื่องมือชนิดอื่นมาทดแทนจีที 200 เนื่องจากผู้ปฏิบัติงานมั่นใจ จีที 200 ที่สามารถตรวจหาวัตถุระเบิดได้จริงนี่เป็นคำตอบของ “บิ๊กป๊อก” ซึ่งคนที่ได้ฟังคำแถลงชี้แจงนี้...ได้เกิดความสงสัยว่าทำไม พล.อ.อนุพงษ์ จึงยังตัดสินใจใช้เจ้า “อุปกรณ์ลวงโลก” นี้ต่อไปเหมือนตัวเอง ยิ่งแถลง ก็ ยิ่งถลำ พร้อมประจานตนทั้งที่มัน “หาสาระ” หรือ “ประโยชน์”อื่นอันใดมิได้...มีแต่พาคนใต้บังคับบัญชาของพวกท่าน “ไปตาย” ซึ่งพวกเขาได้ปฏิบัติตามหน้าที่โดยไม่รู้เรื่อง

รู้ราวจนเรื่องนี้ถูกมองว่า “กองทัพ” กำลังจะงัดข้อกับรัฐบาล ที่แถลงระงับการจัดซื้อจีที 200 ก่อนหน้ากองทัพบกจะแถลงข่าวขณะที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ไว้น่าสนใจ โดยเขาบอกว่า“ผมคิดว่าถ้ายังจะใช้ต่อไป ก็มีแต่ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับทุกฝ่าย1. ถ้าเขาไปตรวจสอบในเรื่องการมีวัตถุระเบิดหรือไม่ ซึ่งถ้าเขาไม่พบ อาจสร้างความเข้าใจผิดว่าจุดนั้นปลอดภัย ซึ่งผมไม่อยากให้เกิดเหตุ2. ถ้าไปใช้กับตัวบุคคล จะถูกโต้แย้งแน่นอนในเรื่องการไปละเมิดสิทธิ์ ผมจึงมอบ

หมายให้ รมว.กลาโหมไปเร่งคิดเรื่องการปรับเปลี่ยนวิธีการทำ งานโดยไม่ใช้เครื่องมือตัวนี้”พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังระบุด้วยว่า...จะดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายจากทางบริษัทผู้ผลิตและผู้จำหน่ายอย่างแน่นอนเพราะอุปกรณ์ไม่เป็นไปตามสเป็กที่ระบุไว้ซึ่งต้องมารวบรวมข้อมูลและดูในข้อกฎหมายก่อนฟากฝั่งกองทัพยังคงยืนบนจุดยืนเดิมคือ“ใช้จีที 200 ต่อไปจนกว่าจะมีเครื่องอื่นมาทดแทน”ในเรื่องนี้ พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษา

ความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) กล่าวว่า…การทำงานในพื้นที่ตอนนี้ยังไม่มีอุปกรณ์อะไรมาใช้งานทดแทน จีที 200 ได้ จึงยังต้องให้เจ้าหน้าที่ใช้งานต่อไปตามปกติ หากมีอุปกรณ์ตัวอื่นที่ดีกว่า ก็ยินดีรับมาใช้แทนทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความปลอดภัยในการทำงาน“การทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องจีที 200 ผมมองว่าหากจะให้เป็นการทดสอบที่ได้ผลสมบูรณ์ ต้องทดสอบทั้งในห้องปฏิบัติการและในพื้นที่จริงควบคู่กันไป ฉะนั้นหากเป็นไปได้ผมอยากให้เพิ่ม

การทดสอบในพื้นที่จริงเข้าไปด้วยก็น่าจะดี”ด้าน “บิ๊กป๊อก” ก็ออกมาโต้สื่อที่ตีเจตนาการเปิดแถลงข่าวเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมาไปในทางที่ผิดโดยเขายืนยันกองทัพเคารพผลการทดสอบ แต่ระหวา่งที่ยังไม่มีเครื่องมือชนิดอื่นมาทดแทนต้องใช้จีที 200 ไปก่อนขณะเดียวกันหลังแถลงข่าวจีที 200เสร็จสิ้นวันรุ่งขึ้น ผบ.ทบ.และรองฯ สุเทพก็บินตรงลงพื้นที่ภาคใต้ทันทีแน่นอนว่า...บนโต๊ะประชุมมีการหยิบกรณีจีที 200 ขึ้นมาหารือ เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมกับการปฏิบัติ

หน้าที่อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ กองทัพบกยังมีเครื่องมือที่เรียกว่า ‘ไฟโด้’ เป็นอุปกรณ์ตรวจระเบิดระยะใกล้ แต่ราคาค่อนข้างสูงประมาณ 3 ล้านบาทต่อเครื่องฉะนั้นเครื่องชนิดนี้จึงยังจำกัดการใช้ส่วนเรื่องสุนัขทหารนั้น สำหรับพื้นที่อื่นๆคงใช้ได้ แต่พื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้คงใช้งานไม่ได้แน่เพราะเป็นที่รับรู้กันดีว่าพื้นที่สามจังหวัดมีพี่น้องมุสลิมอยู่เป็นส่วนใหญ่การใช้สุนัขทหารเข้าไปทำงานเป็นเรื่องลำบากเมื่อมาถึงจุดนี้แล้วก็คงต้องย้อนกลับไปที่บทเริ่มต้นของ

การตัดสินใจใช้เครื่องจีที 200ตั้งแต่ต้น เพราะเหมือนจะเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมดที่ยังหาข้อยุติไม่ได้และกำลังเป็น “อาฟเตอร์ช็อค” ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นในกองทัพเข้าไปทุกวันโดยเฉพาะ “ข้อครหา” ที่มีการพาดพิงไปถึง “ภรรยา” นายทหารใหญ่ ซึ่งมีส่วนพัวพันเกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200ว่ากันว่า...มีการใช้เส้นสายของสามีซึ่งเป็นนายทหารกุมกองกำลัง...ทำธุรกิจรับหน้าเสื่อเป็น “ยี่ปั๊วะ” ซื้อขายอาวุธโดยใช้ “งบประมาณแผ่นดิน” กิน

เปอร์เซ็นต์ส่วนต่างกระทั่ง...เรื่องราวถูกเปิดโปงเป็นประเด็นใหญ่ฉาว “คาวโลก”เพราะแม้แต่ในเว็บไซต์ของผู้ผลิตอุปกรณ์ชิ้นนี้...ยังมีการนำเอาคลิปวิดีโอที่ทางการไทยทำการตรวจพิสูจน์ จีที 200 ไปเผยแพร่...ทั้งที่มันเป็น “อุปกรณ์ลวงโลก”เขาเอาเราไปแอบอ้าง...เพื่อให้เกิดความ“ชอบธรรม” แต่เรื่องนี้มันไม่มีความชอบธรรมตั้งแต่เริ่มแรกในเรื่องของคุณภาพและคุณสมบัติของอุปกรณ์มันไม่ยิ่งทำให้คนที่ออกมาพูดรวมถึงรัฐบาลที่เป็นผู้อนุมัติงบประมาณต้อง“อับอาย

ขายขี้หน้า” คนทั่วโลกมากไปยิ่งกว่านี้หรือ?เพราะขนาดเจ้าของบริษัทฯ...ยัง “อับอาย”จนต้องเผ่นหนี และเตรียมตัวกับการถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการผลิตสินค้าที่ไม่มีคุณภาพที่ผ่านมา...คำตอบของกองทัพและรัฐบาลออกมาในแนว “ขัดแย้ง” ไปคนละทิศละทาง...โดยเฉพาะเหตุผลซึ่งไม่มีนํ้าหนัก...กำลังเป็นสิ่งที่พวกท่านนำมาเป็นเรื่อง “ประจานตัวเอง”เพราะประชาชนทุกคนต่างรู้แล้วว่า “ทหารกับรัฐบาลชุดนี้ โกหกประชาชนหน้าด้านๆ”

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker