บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

สกัดโครงการพรรคร่วม เตะขาล้มตึง!

ที่มา บางกอกทูเดย์

การที่กล้าประกาศตัวเลขส.ส.240 คน ซึ่งหลายๆ คนอาจจะมองว่าเพ้อฝัน หรือละเมอไปหรือเปล่า แต่หากมองสถานการณ์ให้ลึก นี่คือการแสดงความเชื่อมั่นว่า...หลังปฏิบัติการ 26 กุมภาพันธ์ ของกลุ่มอำมาตยาธิปไตยสำเร็จ พรรคเพื่อไทยจะไม่ใช่คู่แข่งอีกแล้วและหากเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญปี 50 ภายใต้การกำกับดูแลของกลุ่มอำมาตยาธิปไตย และนายทหาร คมช. พรรคการเมืองอื่นๆ ก็อย่าหวังว่าจะได้จำนวน ส.ส.ชนิดที่จะลืมตาอ้าปากได้เลยแม้แต่พรรคการเมืองใหม่ ของกลุ่มม็อบพันธมิตร ที่วาดฝันจะได้ที่นั่ง ส.ส.ในกรุงเทพฯ และภาคใต้...ก็เลิกหวังได้เลยไม่ว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะเป็นอย่างไร แต่ต้องยอมรับว่า นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ถือเป็น 1 ในนักการเมืองแถวหน้าของเมืองไทยในยุคปัจจุบันบารมียังคงมีสูง แม้ว่าการเมืองหลังการทำรัฐประหาร 19 กันยา 49 จะทำให้พรรคการเมืองของไทยล่มสลายป่นปี้ เหลือเพียงพรรค

ที่ได้รับการอุปถัมภ์จากกลุ่มนายทหาร คมช. และกลุ่มอำมาตยาธิปไตยซึ่งก็คือ พรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น ที่อยู่ยงคงกระพัน สารพัดคดี สารพัดข้อข้องใจ ไม่สามารถจะทำให้สะเทือนซางใดๆได้เลยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั่งเป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างไม่สั่นไหวกับสถานการณ์และข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้นในขณะที่นักการเมืองอื่นๆ กระเจิดกระเจิง กระเซอะกระเซิงไปตามๆ กันแต่แน่นอนว่า บรรดามังกรการเมืองทั้งหลาย แม้จะบาดเจ็บ แต่ก็ยังคงบารมีและศักดิ์ศรีของมังกร

อย่างเช่นนายสุวัจน์ ฉะนั้นวันก่อน ที่บ้านพักซอยราชวิถี เมื่อนายสุวัจน์ ควงคู่ พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ ภริยา ประกอบพิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันเกิดปีที่ 55 จึงมีบุคคลการเมืองสำคัญๆ มาร่วมอวยพร กันเพียบแม้แต่นายอภิสิทธิ์ ก็ยังต้องมา... ทำให้ถูกมองว่า มาเพื่อ “เคลียร์ปัญหาคาใจ” หรือเปล่า?เพราะแม้ในวันนี้ ภายใต้การอุ้มกระเตงแบบไม่แคร์ต่อสายตาและความรู้สึกของสังคม และประชาชนคนไทย ของกลุ่มอำมาตยาธิปไตย และกลุ่มนาย

ทหาร คมช.รวมทั้งได้รับการปกป้องทางปากจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะโฆษกส่วนตัว ที่ทำให้สังคมเห็นชัดเจนแล้วว่า ลูกน้องเป็นอย่างไร นายย่อมเป็นอย่างนั้นWe are what we eat.แต่ที่แน่ๆ นายอภิสิทธิ์ มีความเชื่อมั่นสูงมากๆ ว่าสามารถยึดเก้าอี้นายกรัฐมนตรีไว้ได้อย่างเหนียวแน่นดังนั้นนอกจากไล่ขยี้คู่แข่งทางการเมืองอย่างพรรคเพื่อไทย และเร่งกำจัด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามความต้องการของผู้อุปถัมภ์ผู้มีอุปการคุณทั้งหลายอย่างเต็มที่

แล้วยังแว้งเล่นเกมกับพรรคร่วมรัฐบาล หวังให้อ่อนแอหมดกำลัง เพื่อจะได้กวาดเสียง ส.ส.ได้ 240 คน อย่างที่ประกาศออกมาแล้วนั่นเองถ้าไม่ตัดขาให้พรรคการเมืองต่างๆ อ่อนแอ ไม่ใช้รัฐธรรมนูญปี 50 ฉบับหน้าแหลมฟันดำเป็นเครื่องมือ ... พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีทางได้ ส.ส. 240 คนแน่ๆการที่กล้าประกาศตัวเลข ส.ส. 240 คน ซึ่งหลายๆ คนอาจจะมองว่าเพ้อฝัน หรือละเมอไปหรือเปล่า แต่หากมองสถานการณ์ให้ลึก นี่คือการแสดงความเชื่อมั่นว่า...หลังปฏิบัติการ

26 กุมภาพันธ์ ของกลุ่มอำมาตยาธิปไตยสำเร็จ พรรคเพื่อไทยจะไม่ใช่คู่แข่งอีกแล้วและหากเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญปี 50 ภายใต้การกำกับดูแลของกลุ่มอำมาตยาธิปไตย และนายทหาร คมช. พรรคการเมืองอื่นๆ ก็อย่าหวังว่าจะได้จำนวน ส.ส.ชนิดที่จะลืมตาอ้าปากได้เลยแม้แต่พรรคการเมืองใหม่ ของกลุ่มม็อบพันธมิตรฯ ที่วาดฝันจะได้ที่นั่ง ส.ส. ในกรุงเทพฯ และภาคใต้... ก็เลิกหวังได้เลยภายใต้การจัดการระบบอุปถัมภ์ค้ำชูอย่างสุดลิ่มที่พรรคประชาธิปัตย์และนาย

อภิสิทธิ์ได้รับ รับรองได้ว่า พรรคการเมืองใหม่กำได้แค่ตด!!ไม่มีอึให้กำอย่างแน่นอนเพราะวันก่อนนายอภิสิทธิ์ยังกวาดอึไปกำใหญ่ไว้ล่วงหน้าแล้วเชื่อมั่นขนาดนี้ มีหรือบรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลต่างๆ จะอยู่ในสายตาของนายอภิสิทธิ์อีกต่อไปไล่ต้อนจนกระเจิดกระเจิง ทำให้บรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ต้องนัดกินข้าวกันเองเป็นระยะ ว่าจะรับมือนายอภิสิทธิ์ ซึ่งวันนี้ไม่ใช่นายอภิสิทธิ์คนเดิมอีกต่อไปแล้วเมื่อพรรคร่วมรัฐบาลมีการนัดกินข้าวกันหลายครั้ง โดยที่นายสุ

เทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ซึ่งเคยทำหน้าที่ผู้จัดการรัฐบาล ไม่สามารถคุมเกมอะไรได้ จนทำให้ร่ำจะโดนปลดออกจากเก้าอี้เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์อยู่รอมร่อแล้วเมื่อนายสุเทพบ้อท่าในสายตาของนายอภิสิทธิ์ ทำให้ในวันคล้ายวันเกิดของนายสุวัจน์เมื่อวันที่ 9 กุมภาฯ ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์จึงออกโรงเองเดินทางไปอวยพรวันเกิดนายสุวัจน์ด้วยตัวเอง หวังจะได้กินข้าวมื้อเที่ยงร่วมโต๊ะกับบรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล... หวังสร้างภาพ

ให้เห็นว่าสามารถสยบอาการกระเพื่อมของพรรคร่วมรัฐบาลได้หมดแล้ว แกนนำยอมศิโรราบมากินข้าวร่วมโต๊ะกับนายอภิสิทธิ์แล้วแต่ดูเหมือน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล นายนิกร จำนง ที่นำกระเช้าดอกไม้มาอวยพรวันเกิดให้นายสุวัจน์ รู้แกวก็เลยไม่ยอมให้เกิดภาพเช่นนั้น ปฏิเสธร่วม

โต๊ะอาหารเที่ยงกับนายอภิสิทธิ์เสียอย่างนั้นแหละ... กินกันเองโล่งคอกว่าเยอะ แถมไม่ต้องคอยระวังหลังด้วยสุดท้ายนายอภิสิทธิ์ ก็เลยได้แต่กินข้าวเที่ยงกับเจ้าของวันเกิด แต่ก็ยังไม่วายไว้ฟอร์ม ออกมาบอกว่า ไม่ได้มาพูดคุยทำความเข้าใจในเรื่องใดๆ เรื่องรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้มีการพูดคุย แค่พูดคุยสนทนาตามปกติ ส่วนการนัดพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคกิจสังคม จะนัดอีกรอบ

หนึ่งหรือแม้แต่กระแสข่าวว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะไปรวมกับพรรคเพื่อไทยและดัน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นนายกรัฐมนตรีแทนนั้น... ยังไม่ทราบเลย และไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้นยังเชื่อมั่นเต็มร้อยทั้งๆ ที่วันนี้จะปรากฏร่องรอยสารพัดของอาการแตกร้าวแล้วก็ตามยุทธศาสตร์ “ใครยิ่งดื้อ จะต้องยิ่งโดน” ถือเป็นยุทธศาตร์สำคัญที่ถูกงัดมาใช้ในแวดวงการเมืองไทยวันนี้ ใครจะมา “ดื้อเหนือกว่า” ไม่ได้เด็ดขาด

พรรคร่วมรัฐบาลวันนี้จึงต้องกลืนเลือดกันระนาวไม่ใช่แค่เป้าใหญ่พรรคภูมิใจไทย ของนายเนวิน ชิดชอบ เท่านั้นที่โดนดิสเครดิตสารพัด แถมล่าสุดยังเจอขู่ล้มโครงการเมกะโปรเจกต์ จนทั้งนายเนวิน นายชวรัตน์ และนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รู้สึกว่า ชักเกินไปแล้วมีอย่างที่ไหนบอกว่าจะตัดงบลงทุน ส่งสัญญาณชัดว่าจะเบรกโครงการถนนไร้ฝุ่นของกระทรวงคมนาคม แต่กลับตีกิน ขายฝัน “รถไฟฟ้า 12 สาย ใน 20 ปี” หน้าตาเฉยเสียอย่างนั้น

แหละรีบตีล่อโก๊ะให้เห็น และเพื่อเอาไว้อ้างหาเสียงในการเลือกตั้งว่าเป็นผลงานของนายอภิสิทธิ์ ในการเข็นโครงการกระดาษนี้ขึ้นมาทั้งๆ เป็นแผนเดิมอยู่ในคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ทำเป็นแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขต กทม.และปริมณฑล มาตั้งแต่ตอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยแรกแล้วนายสุวัจน์ เองซึ่งเคยคุมกระทรวงคมนาคม ก็รู้ดีเช่นกันว่าแผนแม่บทของ คจร. มีอะไรบ้างเพียงแต่ตอนกินข้าวเที่ยงกัน นาย

อภิสิทธิ์คงไม่ได้ถามเรื่องนี้ ก็เลยมีการเอาไปป่าวประกาศขายฝันกันเอิกเกริกชนิดที่เขียนแปะข้างฝาไว้ล่วงหน้าได้เลยว่า เวลาหาเสียงจะต้องมีรายการด้านๆ อ้างว่าเป็นคนทำโครงการนี้ขึ้นมาคิดว่าประชาชนไม่รู้ว่าโครงการมีอยู่แล้ว ทั้งๆ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยผลักดันแผนแม่บท รถไฟฟ้าเอาไว้ตั้ง 16 เส้นทาง... มากกว่า 4 เส้นทางด้วยซ้ำเหมือนกับที่แพลมออกมาเรื่องโครงการแลนด์บริดจ์ อภิมหาโปรเจกต์ นั่นก็ของเก่า เอามาปัดฝุ่นเตรียมหลอกขายอีกเช่นกันซึ่ง

อาการของนายอภิสิทธิ์ ในยามนี้ บรรดาคอการเมือง วิเคราะห์ตรงกันว่า นี่คืออาการของการหาเสียงล่วงหน้าเพื่อรองรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนั่นเองจากนี้ไปหากพรรคประชาธิปัตย์เร่งเดินเกมเตะตัดขาพรรคร่วมรัฐบาล กวาดะไล่มาตั้งแต่พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคกิจสังคม หากทุกพรรคโดนล้มโครงการหมด เหลือแต่พรรคประชาธิปัตย์พรรคเดียวที่มีโครงการไทยเข้มแข็งเป็นเนื้อเป็นหนังนั่นแหละนายอภิสิทธิ์ และประชาธิปัตย์ขนานแท้ล่ะ!!!

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker