วิกฤติการเมือง เลือกข้าง ที่เป็นไปในขณะนี้สร้างความหวาดวิตกกังวลและน่ารำคาญ ทำให้บ้านเมืองอึมครึม ไม่สะเด็ดน้ำซะที นับวันวิกฤติการเมืองจะซึมลึกลงไปสู่รากหญ้า และจะกลายเป็นสงครามกลางเมืองเหมือนในหลายๆประเทศ
เป็นการต่อสู้ด้วยลัทธิและอุดมการณ์ของคนสองสี
ก็แปลกดีที่ประเทศไทยปัจจุบันต้องปั่นป่วนวุ่นวายอย่างไม่มีเหตุผลและไม่เป็นตามกรอบของประชาธิปไตยเหมือนที่ประเทศเจริญแล้วเขาทำกัน เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน การเมืองแรงกว่าบ้านเราเยอะ
แต่กองทัพไม่มีอำนาจตัดสินใจ
บ้านเราการเมืองขึ้นอยู่กับองค์กรไม่กี่องค์กร ที่ยังชี้นำการ
เมืองให้เป็นไปตามความต้องการ คนส่วนน้อยยังมีอิทธิพลเหนือคนส่วนใหญ่
อ่านหนังสือยุทธศาสตร์แก้ไขความขัดแย้ง ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ในโอกาสอายุครบ 77 ปี เข้าท่า วิเคราะห์บทบาทกองทัพกับประชาธิปไตยไว้ได้ตรงจุด
"กองทัพนั้นเป็นได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งใน 2 อย่าง คือกองทัพเป็นของเผด็จการ (เป็นของคนส่วนน้อย) หรือกองทัพเป็นของประชาชน เพราะว่าระบอบประชาธิปไตยนั้นเป็นการปกครองของประชาชน
ทหารในกองทัพมีความสำนึกอยู่เสมอว่า กองทัพเป็นของประชาชน ทุกสิ่งที่กองทัพกระทำต้องทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนเจ้าของประเทศและเจ้าของกองทัพ ทหารจะต้องมีอุดมการณ์และมีจุดยืนประชาธิปไตย
ยึดมั่นในการปกครองแบบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นองค์ประมุขแห่งรัฐ
บทบาทของกองทัพที่จะมีต่อการเมือง หรือการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่กองทัพจำเป็นต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลาของการเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานผลประโยชน์ประชาชนเสมอ
โดยกองทัพจะร่วมมือกับฝ่ายพลเรือน สมัครสมานสามัคคี ไม่แบ่งแยก ในอันที่จะพัฒนาระบอบการปกครองให้เป็นระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ คือระบบการปกครองที่จะทำให้ประชาชนในแผ่นดินมีความสำนึกว่า เขาเป็นเจ้าของแผ่นดินนี้มีความคิดที่จะปกป้องรักษา มีส่วนเข้ามาในการบริหารประเทศ
และได้รับผลประโยชน์จากประเทศนี้อย่างเป็นธรรม
ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่กองทัพจะต้องทุ่มเทสร้างสรรค์ ให้ประชาชนเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในสิ่งที่กองทัพกระทำและมีความรู้สึกว่าเขาเป็นกองทัพอย่างแท้จริง สิ่งนี้คือภาระหน้าที่มีความสำคัญสูงสุดในอันที่จะให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย เพื่อแก้ปัญหาของชาติให้บรรลุเป้าหมายร่วมกันในที่สุด"
คำบรรยายนี้เป็นนโยบายแนวทางการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ที่ พล.อ.ชวลิตให้ไว้กับ ผบ.เหล่าทัพและกองทัพเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2523 ที่อยากให้ ผบ.เหล่าทัพและกองทัพปัจจุบัน ได้อ่าน.
หมัดเหล็ก