คอลัมน์ เหล็กใน
ขอย้ำอีกครั้งปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในสำนัก งานตำรวจแห่งชาติในห้วงเวลานี้ มาจากต้นตอเดียวคือ
ตำรวจยังไม่มีผบ.ตร.ตัวจริงเสียที!
ไม่ต้องไปมองหาสาเหตุอื่นๆ เลย เพราะมันเกี่ยวพันนัวเนียกันไปหมด
ตลอดเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา ตำรวจทั่วประเทศทำงานกันโดยที่ไม่มีความชัดเจนในเรื่องตัวบุคคล ในเรื่องนโยบาย และที่สำคัญตำรวจขาดขวัญกำลังใจ
รัฐบาลแต่งตั้ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เป็นรรท. ผบ.ตร.
แต่ก็เป็นแค่รักษาการแทน เป็นแค่ตัวสำรอง
ในแง่ของกฎหมายอาจเหมือนกัน มีอำนาจเทียบเท่ากัน
แต่ศักดิ์ศรีและบารมีแตกต่างกับตัวจริงอย่างสิ้นเชิง
ตำรวจที่เป็นองค์กรใหญ่มีอำนาจล้นมือ มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
แต่ผู้นำยังเป็นแค่รักษาการ
ปัญหาอื่นๆ จึงตามมาเป็นพรวน
การแต่งตั้งโยกย้ายที่ผ่านมาไม่ว่าจะระดับชั้นไหนก็เจอแต่ปัญหา
ว่ากันตามตรงเป็นเพราะรักษาการยังไม่มีบารมีพอจะเข้าไปควบคุมได้ทุกภาคส่วนขององค์กร
ผู้บัญชาการส่วนใหญ่ไม่ฟังรรท.ผบ.ตร. แต่ฟังนักการเมืองมากกว่า
จนสุดท้ายก็เกิดปัญหาเซ็งลี้เก้าอี้ครั้งมโหฬาร
หากเมื่อ 4 เดือนก่อน คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือก.ต.ช. แต่งตั้งผบ.ตร.ไปเรียบร้อยแล้วคงไม่มีปัญหาวุ่นวายแบบทุกวันนี้
การที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่ยอมแต่งตั้งผบ.ตร. จึงเท่ากับเป็นการทำร้ายองค์กรตำรวจ
เท่ากับแทรกแซงองค์กรตำรวจทางอ้อม
เท่ากับสร้างความแตกแยกขึ้นในองค์กรตำรวจ
การประชุมก.ต.ช.ที่ผ่านมาหลายครั้งหลายหนต้องจบลงด้วยการคว้าน้ำเหลว เสียงสนับสนุนนายกฯ ที่ต้องการแต่งตั้งพล.ต.อ.ปทีป เป็นผบ.ตร.ไม่เพียงพอ
แต่นายกฯ ก็ยังไม่แต่งตั้งผบ.ตร.ที่มีเสียงสนับสนุนจาก ก.ต.ช.มากกว่า อ้างเพียงอย่างเดียวว่า "ความเห็นไม่ตรงกัน"
ตอนแรกคิดว่านายกฯ คงซื้อเวลาไปวันๆ รอให้เสียงสนับสนุนกระเตื้องขึ้นถึงจะแต่งตั้งผบ.ตร.ตามที่ใจปรารถนา
แต่ในความเป็นจริงเสียงสนับสนุนนายกฯ ในก.ต.ช. กลับลดน้อยหายไปเรื่อยๆ
จึงเชื่อว่านายกฯ ไม่ได้ซื้อเวลา
แต่จะยื้อให้รรท.ผบ.ตร.ทำหน้าที่ไปจนถึงเดือนต.ค.นี้เลย!?
พฤติกรรมแบบนี้โดนวิพากษ์วิจารณ์กันมาตลอดว่าเป็นนายกฯ เด็กดื้อ
และไม่ใช่ดื้ออย่างเดียว ดื้อแบบไม่เป็นประชาธิปไตยเสียด้วย
ขณะที่ประกาศปาวๆ ว่ายึดหลักประชาธิปไตย
แต่กลับไม่ยอมรับความเห็นส่วนใหญ่ในก.ต.ช. ไม่แต่งตั้งผบ.ตร.ตัวจริง
ปล่อยให้องค์กรตำรวจระส่ำระสายแบบทุกวันนี้
ตำรวจยังไม่มีผบ.ตร.ตัวจริงเสียที!
ไม่ต้องไปมองหาสาเหตุอื่นๆ เลย เพราะมันเกี่ยวพันนัวเนียกันไปหมด
ตลอดเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา ตำรวจทั่วประเทศทำงานกันโดยที่ไม่มีความชัดเจนในเรื่องตัวบุคคล ในเรื่องนโยบาย และที่สำคัญตำรวจขาดขวัญกำลังใจ
รัฐบาลแต่งตั้ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เป็นรรท. ผบ.ตร.
แต่ก็เป็นแค่รักษาการแทน เป็นแค่ตัวสำรอง
ในแง่ของกฎหมายอาจเหมือนกัน มีอำนาจเทียบเท่ากัน
แต่ศักดิ์ศรีและบารมีแตกต่างกับตัวจริงอย่างสิ้นเชิง
ตำรวจที่เป็นองค์กรใหญ่มีอำนาจล้นมือ มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
แต่ผู้นำยังเป็นแค่รักษาการ
ปัญหาอื่นๆ จึงตามมาเป็นพรวน
การแต่งตั้งโยกย้ายที่ผ่านมาไม่ว่าจะระดับชั้นไหนก็เจอแต่ปัญหา
ว่ากันตามตรงเป็นเพราะรักษาการยังไม่มีบารมีพอจะเข้าไปควบคุมได้ทุกภาคส่วนขององค์กร
ผู้บัญชาการส่วนใหญ่ไม่ฟังรรท.ผบ.ตร. แต่ฟังนักการเมืองมากกว่า
จนสุดท้ายก็เกิดปัญหาเซ็งลี้เก้าอี้ครั้งมโหฬาร
หากเมื่อ 4 เดือนก่อน คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือก.ต.ช. แต่งตั้งผบ.ตร.ไปเรียบร้อยแล้วคงไม่มีปัญหาวุ่นวายแบบทุกวันนี้
การที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่ยอมแต่งตั้งผบ.ตร. จึงเท่ากับเป็นการทำร้ายองค์กรตำรวจ
เท่ากับแทรกแซงองค์กรตำรวจทางอ้อม
เท่ากับสร้างความแตกแยกขึ้นในองค์กรตำรวจ
การประชุมก.ต.ช.ที่ผ่านมาหลายครั้งหลายหนต้องจบลงด้วยการคว้าน้ำเหลว เสียงสนับสนุนนายกฯ ที่ต้องการแต่งตั้งพล.ต.อ.ปทีป เป็นผบ.ตร.ไม่เพียงพอ
แต่นายกฯ ก็ยังไม่แต่งตั้งผบ.ตร.ที่มีเสียงสนับสนุนจาก ก.ต.ช.มากกว่า อ้างเพียงอย่างเดียวว่า "ความเห็นไม่ตรงกัน"
ตอนแรกคิดว่านายกฯ คงซื้อเวลาไปวันๆ รอให้เสียงสนับสนุนกระเตื้องขึ้นถึงจะแต่งตั้งผบ.ตร.ตามที่ใจปรารถนา
แต่ในความเป็นจริงเสียงสนับสนุนนายกฯ ในก.ต.ช. กลับลดน้อยหายไปเรื่อยๆ
จึงเชื่อว่านายกฯ ไม่ได้ซื้อเวลา
แต่จะยื้อให้รรท.ผบ.ตร.ทำหน้าที่ไปจนถึงเดือนต.ค.นี้เลย!?
พฤติกรรมแบบนี้โดนวิพากษ์วิจารณ์กันมาตลอดว่าเป็นนายกฯ เด็กดื้อ
และไม่ใช่ดื้ออย่างเดียว ดื้อแบบไม่เป็นประชาธิปไตยเสียด้วย
ขณะที่ประกาศปาวๆ ว่ายึดหลักประชาธิปไตย
แต่กลับไม่ยอมรับความเห็นส่วนใหญ่ในก.ต.ช. ไม่แต่งตั้งผบ.ตร.ตัวจริง
ปล่อยให้องค์กรตำรวจระส่ำระสายแบบทุกวันนี้