ปัญหาเด็กเส้นเด็กฝากและการซื้อขายเก้าอี้อยู่คู่กับการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจมานานแสนนาน จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นเรื่องปกติของวงการสีกากี แต่ก็คงไม่มียุคใดสมัยใดที่ฉาวโฉ่เท่ากับทุกวันนี้
เพราะขนาด นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เอง ยังยอมรับกลางสภาฯว่า ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับรองผู้บังคับการ-สารวัตร ปัญหาการโยกย้าย การฝากกับการซื้อตำแหน่งไม่เหมือนกัน ยอมรับว่ามีการฝากเกิดขึ้น แต่ผู้ใช้ดุลพินิจต้องดูให้เกิดความเป็นธรรม และไม่ใช่ใครคนใดจะใช้สิทธิพิเศษเอื้อให้ใครได้ประโยชน์
ซึ่งมีคนส่งข้อมูลในเรื่องนี้มาให้ และเห็นว่ามีข้อมูลเพียงพอที่จะดำเนินการตามกฎหมาย
พร้อมกันนั้นได้แต่งตั้ง พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรอง อ.ตร. เป็นประธานสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้
หากจะพูดถึงเรื่องเด็กเส้นเด็กฝากในยุคนี้ ต้องยอมรับว่าคนที่ฝากได้คือคนในรัฐบาลเท่านั้น ฝ่ายค้านแทบจะไม่มีสิทธิ์ฝาก แต่ในยุคที่รัฐบาลแบ่งออกเป็นหลายฝักหลายฝ่าย ทั้งคนใกล้ชิดนายกฯ คนที่กุมบังเหียน สตช.โดยตรง หรือผู้มีอำนาจในพรรคร่วมรัฐบาล ต่างแย่งชิงกันที่จะให้เด็กของตนได้เขยิบขึ้น
เมื่อไม่ได้หรือได้ไม่ครบก็เลยเกิดปัญหาขึ้น!
คนที่รับกรรมก็คือคนที่ทำโผแต่งตั้งโยกย้าย ในเมื่อหลักเกณฑ์ความถูกต้องไม่เหลืออยู่แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือเสียงก่นด่าของคนที่เกี่ยวข้อง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการซื้อขายเก้าอี้ระดับ ผกก.ในราคา 13 ล้านบาท หรือเรื่องรองสารวัตรที่กำลังถูกดำเนินคดีในข้อหายัดยาบ้ารีดไถเงินกลับได้เลื่อนขั้น หรือบางคนที่ประกาศล่วงหน้าว่าจะได้เป็นโน่นเป็นนี่เพราะจ่ายเงินไปแล้ว ก็ได้รับแต่งตั้งตามที่ประกาศไว้จริง
ในขณะที่ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. ก็บอกได้แต่เพียงว่าปัญหานี้ฝังรากหยั่งลึกมานานจนแก้ไขอะไรไม่ได้
เมื่อการแต่งตั้งโยกย้ายไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ขวัญกำลังใจของตำรวจก็ไม่มีเหลือ เมื่อตำรวจดีมีความสามารถไม่มีที่ยืน ในขณะที่ตำรวจเลวที่ชอบวิ่งเกาะแข้งเกาะขานักการเมือง กลับได้ดิบได้ดีเป็นใหญ่เป็นโต
ทำให้สถาบันตำรวจที่ถือเป็นต้นทางยุติธรรมของบ้านเมือง มีสภาพไม่ต่างอะไรกับตลาดค้าทาสที่ประมูลขายกันได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งเกียรติยศศักดิ์ศรีความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
หันมาดูใน บช.ภ.2 ที่มีข่าวใหญ่เรื่องซื้อขายตำแหน่ง ถึงขนาดตำรวจบางนายต้องขายพระเครื่องเอาเงินมาวิ่งเต้น ก็มีคำชี้แจงจาก พล.ต.ท. เกรียงศักดิ์ สุริโย ผบช.ภ.2 ว่า การแต่งตั้งโยกย้ายในปีนี้ เป็นไปด้วยความชอบธรรมและเป็นธรรม โดยพิจารณาตามความรู้ความสามารถผลการปฏิบัติงานและความอาวุโส ยืนยันว่าไม่มีการซื้อขายตำแหน่งแต่อย่างใด
แต่ที่ถูกร้องเรียนจนเป็นเรื่องเป็นราวอยู่ในขณะนี้ เพราะมีนักการเมืองในซีกรัฐบาลบางคน พยายามดันคนของตนเองให้ขึ้นมามีตำแหน่งเพื่อเอื้อต่อการเลือกตั้งในวันข้างหน้า เมื่อไม่ได้ดังใจก็หาเรื่องเล่นงานโดยใช้อำนาจทางการเมือง
หาก นายกฯอภิสิทธิ์ อยากจะทราบจริงๆว่า ปัญหาเรื่องเด็กเส้นเด็กฝาก หรือการซื้อขายตำแหน่งในทุกวันนี้ ลุกลามรุนแรง หรือส่งผลเสียหายขนาดไหน ก็แค่หันไปเค้นคอถามคนใกล้ๆตัวก็คงจะได้รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
หรือถ้าหากยังคิดว่าไม่ได้รับความจริง ก็ให้ นายกฯอภิสิทธิ์ กลับไปบ้านในซอยสุขุมวิท 31 แล้วลองไปยืนพินิจพิจารณาร่องรอยถุงอึที่ถูกมือมืดปาเข้ามาในบ้าน ก็อาจจะหูตาสว่างเข้าใจอะไรบางอย่างได้ดีขึ้น
เพราะผมมั่นใจว่าสาเหตุของการปาอึในครั้งนี้ ไม่ใช่ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง เรื่องเสื้อแดง หรือคดียึดทรัพย์อดีตนายกฯ แต่เป็นเรื่องความคับแค้นใจของใครบางคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการแต่งตั้งโยกย้าย.
"ลมสลาตัน"
เพราะขนาด นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เอง ยังยอมรับกลางสภาฯว่า ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับรองผู้บังคับการ-สารวัตร ปัญหาการโยกย้าย การฝากกับการซื้อตำแหน่งไม่เหมือนกัน ยอมรับว่ามีการฝากเกิดขึ้น แต่ผู้ใช้ดุลพินิจต้องดูให้เกิดความเป็นธรรม และไม่ใช่ใครคนใดจะใช้สิทธิพิเศษเอื้อให้ใครได้ประโยชน์
ซึ่งมีคนส่งข้อมูลในเรื่องนี้มาให้ และเห็นว่ามีข้อมูลเพียงพอที่จะดำเนินการตามกฎหมาย
พร้อมกันนั้นได้แต่งตั้ง พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรอง อ.ตร. เป็นประธานสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้
หากจะพูดถึงเรื่องเด็กเส้นเด็กฝากในยุคนี้ ต้องยอมรับว่าคนที่ฝากได้คือคนในรัฐบาลเท่านั้น ฝ่ายค้านแทบจะไม่มีสิทธิ์ฝาก แต่ในยุคที่รัฐบาลแบ่งออกเป็นหลายฝักหลายฝ่าย ทั้งคนใกล้ชิดนายกฯ คนที่กุมบังเหียน สตช.โดยตรง หรือผู้มีอำนาจในพรรคร่วมรัฐบาล ต่างแย่งชิงกันที่จะให้เด็กของตนได้เขยิบขึ้น
เมื่อไม่ได้หรือได้ไม่ครบก็เลยเกิดปัญหาขึ้น!
คนที่รับกรรมก็คือคนที่ทำโผแต่งตั้งโยกย้าย ในเมื่อหลักเกณฑ์ความถูกต้องไม่เหลืออยู่แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือเสียงก่นด่าของคนที่เกี่ยวข้อง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการซื้อขายเก้าอี้ระดับ ผกก.ในราคา 13 ล้านบาท หรือเรื่องรองสารวัตรที่กำลังถูกดำเนินคดีในข้อหายัดยาบ้ารีดไถเงินกลับได้เลื่อนขั้น หรือบางคนที่ประกาศล่วงหน้าว่าจะได้เป็นโน่นเป็นนี่เพราะจ่ายเงินไปแล้ว ก็ได้รับแต่งตั้งตามที่ประกาศไว้จริง
ในขณะที่ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. ก็บอกได้แต่เพียงว่าปัญหานี้ฝังรากหยั่งลึกมานานจนแก้ไขอะไรไม่ได้
เมื่อการแต่งตั้งโยกย้ายไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ขวัญกำลังใจของตำรวจก็ไม่มีเหลือ เมื่อตำรวจดีมีความสามารถไม่มีที่ยืน ในขณะที่ตำรวจเลวที่ชอบวิ่งเกาะแข้งเกาะขานักการเมือง กลับได้ดิบได้ดีเป็นใหญ่เป็นโต
ทำให้สถาบันตำรวจที่ถือเป็นต้นทางยุติธรรมของบ้านเมือง มีสภาพไม่ต่างอะไรกับตลาดค้าทาสที่ประมูลขายกันได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งเกียรติยศศักดิ์ศรีความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
หันมาดูใน บช.ภ.2 ที่มีข่าวใหญ่เรื่องซื้อขายตำแหน่ง ถึงขนาดตำรวจบางนายต้องขายพระเครื่องเอาเงินมาวิ่งเต้น ก็มีคำชี้แจงจาก พล.ต.ท. เกรียงศักดิ์ สุริโย ผบช.ภ.2 ว่า การแต่งตั้งโยกย้ายในปีนี้ เป็นไปด้วยความชอบธรรมและเป็นธรรม โดยพิจารณาตามความรู้ความสามารถผลการปฏิบัติงานและความอาวุโส ยืนยันว่าไม่มีการซื้อขายตำแหน่งแต่อย่างใด
แต่ที่ถูกร้องเรียนจนเป็นเรื่องเป็นราวอยู่ในขณะนี้ เพราะมีนักการเมืองในซีกรัฐบาลบางคน พยายามดันคนของตนเองให้ขึ้นมามีตำแหน่งเพื่อเอื้อต่อการเลือกตั้งในวันข้างหน้า เมื่อไม่ได้ดังใจก็หาเรื่องเล่นงานโดยใช้อำนาจทางการเมือง
หาก นายกฯอภิสิทธิ์ อยากจะทราบจริงๆว่า ปัญหาเรื่องเด็กเส้นเด็กฝาก หรือการซื้อขายตำแหน่งในทุกวันนี้ ลุกลามรุนแรง หรือส่งผลเสียหายขนาดไหน ก็แค่หันไปเค้นคอถามคนใกล้ๆตัวก็คงจะได้รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
หรือถ้าหากยังคิดว่าไม่ได้รับความจริง ก็ให้ นายกฯอภิสิทธิ์ กลับไปบ้านในซอยสุขุมวิท 31 แล้วลองไปยืนพินิจพิจารณาร่องรอยถุงอึที่ถูกมือมืดปาเข้ามาในบ้าน ก็อาจจะหูตาสว่างเข้าใจอะไรบางอย่างได้ดีขึ้น
เพราะผมมั่นใจว่าสาเหตุของการปาอึในครั้งนี้ ไม่ใช่ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง เรื่องเสื้อแดง หรือคดียึดทรัพย์อดีตนายกฯ แต่เป็นเรื่องความคับแค้นใจของใครบางคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการแต่งตั้งโยกย้าย.
"ลมสลาตัน"
