จากคดียึดทรัพย์นายกทักษิณที่ศาลตัดสินว่านายกทักษิณใช้ตำแหน่งเอื้อประโยชน์กลุ่มชิน ทำให้นายลือ ล้ออุทัย จะนำคำวินิจฉัยของศาลมาลื้อสัญญาที่ advance ได้เคยทำไว้ในรัฐบาลนายกทักษิณ
ไอซีทีเล็งรื้อสัญญาโทรเติมเงินเอไอเอสเอาผิดสัญญาไทยคมหลังศาลยึดทรัพย์ทักษิณเอื้อชินฯ นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า
ไอซีทีจะนำสัญญาการปรับลดส่วนแบ่งระบบพรีเพด ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส ที่ศาลวินิจฉัยว่าผิดเข้าสู่การพิจารณาการตรวจสอบการแก้ไขสัญญาของเอไอเอสจำนวน 7 ครั้ง
รวมทั้งให้เหตุผลในการแก้ไขแต่ละครั้ง ก่อนเสนอให้ครม. พิจารณาว่าการแกไข้สัญญาครั้งใด เป็นการแก้ไขโดยมิชอบ แล้วสรุปว่าควรจะกลับไปใช้ฉบับเก่าหรือไม่
ส่วนเรื่องภาษีสรรพสามิต นั้นเป็นเรื่องของ ครม.ไม่เกี่ยวข้องกับทางกระทรวงไอซีที
คุณ The Rounder ห้องสินธร พันทิป วิเคราะห์ไว้ว่า
ประเด็นนี้ มีความน่าสนใจ
ถ้ามติ ครม. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ครม. ทั้งคณะ ควรต้องรับผิดชอบร่วมกัน
ไม่ว่าทางแพ่ง หรือ ทางอาญา
กรณีนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า
ทำไม ฝ่ายค้าน หรือ วุฒิสมาชิก ฯลฯ
ไม่ส่งเรื่องดังกล่าว เพื่อตรวจสอบ
และชี้ประเด็น ให้ศาลฏีกา หรือ ศาลรัฐธรรมนูญ ฯลฯ
พิจารณา ตั้งแต่ตอนนั้น
หากกรณีดังกล่าว มีความน่าเคลือบแคลง
แต่กลับปล่อยผ่าน จนจบกระบวนการ
และ ผ่านเป็นมติ ครม. มาได้ โดยสมบูรณ์
เนื่องจากมติ ครม. มีผลผูกพัน ระหว่างรัฐบาล
กับ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
ถ้าผ่านขั้นตอนนั้นมาแล้ว
ก็ต้องเดินหน้า ต่อไป
เพราะ การพิพากษาย้อนหลัง ให้ มติ ครม. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยอ้างอิง การกระทำผิด ของตัวบุคคล
เป็นสิ่งทีต้องระมัดระวัง
เพราะ จะทำให้ ดุลอำนาจ ของฝ่าย บริหาร
ไม่ได้ดุล กับ ฝ่ายนิติบัญญัติ และ ฝ่ายตุลาการ
กรณีนี้ เห็นได้ชัดมาก เพราะ ฝ่ายนิติบัญญัติ
มาจาก ฝ่ายก่อการรัฐประหาร
แม้ ฝ่ายตุลการ จะเที่ยงตรง
แต่ดุลอำนาจ ก็ เสียโครงสร้าง ไปแล้ว
เนื่องจาก ฝ่ายตุลาการ มีอำนาจ ชี้ถูก ผิด ฝ่ายบริหารเดิมได้
ด้วย กฎหมาย ภายใต้อำนาจนิติบัญญัติ ร่างขึ้น
ซึ่งสิ่งนี้จะส่งผลให้ ประเทศไทย จะติดหล่มนี้
ไปอีกนาน เท่านาน
หล่มนี้ จะทำให้ประเทศไปไหนไม่ได้
เพราะ มติครม. ของแต่ละรัฐบาล
จะไม่มีใครยืนยันได้ว่า
จะยังคง ถูกต้อง หรือ มีผลผูกพัน
ไปได้นาน แค่ไหน หรือ อย่างไร
เพราะ หากการเมือง มีการเปลี่ยนขั้ว
และ ต่างฝ่าย ต่างเล่นเกม นี้กัน
ด้วยกลไก ที่ลักลั่นนี้
เช่นเดียวกัน
