เหตุระเบิดบริเวณธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่สีลม และอีก 3-4 จุดใน กทม.และปริมณฑล แค่เริ่มต้นของวิกฤติบ้านเมืองระลอกใหม่ รูปแบบใหม่ และวิธีการต่อสู้แนวใหม่ จะเป็นสงครามกลางเมือง นำประเทศไปสู่กับดักวงจรอุบาทว์ รัฐบาลเตรียมรับกับสถานการณ์รุนแรง พร้อมที่จะตัดเชือด
พร้อมที่จะแตกหัก
แนวรบครั้งสำคัญ ทั้งในสภานอกสภา ทั้งเครื่องมือกลไกของรัฐคาดว่าจะสะเด็ดน้ำได้ในเดือน เม.ย.นี้ จับตาการโยกย้ายข้าราชการ ทหาร ตำรวจ บรรดาขุนศึกนายกองที่จะต้องใช้เป็นตัวแทนในการสู้รบ รวมทั้งสื่อมวลชนที่จะถูกดึงเข้าสู่มรสุมการเมือง ครั้งสำคัญ
การเมืองนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไปห้ามกะพริบตา
เป็นที่รู้กันอยู่ว่าประเทศที่ถูกจับตา และคาดว่าจะเป็น ประเทศชั้นนำทางด้านเศรษฐกิจ มีอยู่ 5 ประเทศด้วยกัน ที่เรียกกันว่า BRIIC คือ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย รัสเซีย และบราซิล
ดังนั้น ไม่ว่าอุตสาหกรรม การผลิต การลงทุน เทคโนโลยีหรือแม้แต่เม็ดเงินลงทุน การเงินการธนาคาร จะมุ่งไปประเทศเหล่านี้เป็นหลัก การเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าการลงทุนใหม่ และการพัฒนาทางด้านธุรกิจในรูปแบบใหม่จึงเป็นที่ถูกจับตามากที่สุด
ในยุโรปมีปัญหาเรื่องของต้นทุนการผลิตและวัตถุดิบในการผลิต ที่สู้ ประเทศคลื่นลูกใหม่ ไม่ได้ โดยเฉพาะจีนที่เป็นยักษ์ใหญ่ของอุตสาหกรรมทุกประเภท สหภาพยุโรปมองหาฐานการลงทุนใหม่
ในประเทศเหล่านี้ มี ประเทศที่เป็นโลกมุสลิม อยู่อย่างน้อยก็ 2 ประเทศ ในประเทศจีนมีชาวมุสลิมอยู่จำนวนไม่น้อย ตลาดการค้า ใหม่กำลังมองไปที่ ตลาดตะวันออกกลาง ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกหรือการท่องเที่ยว
ลำพังจีน อินโดนีเซีย หรืออินเดียคงไม่สามารถรองรับการโถมทะลักของการเคลื่อนย้ายการลงทุนแบบทันทีทันใดได้ โอกาสนี้ประเทศไทยจึงเป็นประตูสำคัญที่จะรองรับการเคลื่อนย้ายทุนครั้งสำคัญ
อยากจะแนะให้ไปร่วมงาน World Halal Congress ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 19-24 มี.ค.นี้ ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ที่จัดโดยกระทรวงอุตสาหกรรมและคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย จะได้เห็นของจริง
สาระสำคัญของงานนี้ ไม่ใช่อยู่ที่ว่าจะรวบรวมเอาธุรกิจอาหารฮาลาลทั่วโลกมาประชุมร่วมกันที่นี่ ซึ่งน่าจะมีเกือบ 200 บริษัท แต่เป็นสิ่งที่ผู้บริหาร ห้างขายปลีกขายส่งยักษ์ใหญ่ของโลก อาทิ วอร์มาร์ท เทสโก้ โลตัส หรือเนสท์เล่ จะมาแถลงจุดยืนว่าธุรกิจ การค้าขายในโลกอนาคตอันใกล้นี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
อยากจะบอกว่าประเทศไทยใกล้ตกขบวนและเสียโอกาสครั้งสำคัญ ถ้ารัฐบาลชุดนี้ยัง กระเหี้ยนกระหือรือไม่เลิก ยังมองไม่เห็นโลกอนาคต ยังยึดติดกับในอดีตและอำนาจที่ไม่ชอบธรรม.
หมัดเหล็ก
พร้อมที่จะแตกหัก
แนวรบครั้งสำคัญ ทั้งในสภานอกสภา ทั้งเครื่องมือกลไกของรัฐคาดว่าจะสะเด็ดน้ำได้ในเดือน เม.ย.นี้ จับตาการโยกย้ายข้าราชการ ทหาร ตำรวจ บรรดาขุนศึกนายกองที่จะต้องใช้เป็นตัวแทนในการสู้รบ รวมทั้งสื่อมวลชนที่จะถูกดึงเข้าสู่มรสุมการเมือง ครั้งสำคัญ
การเมืองนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไปห้ามกะพริบตา
เป็นที่รู้กันอยู่ว่าประเทศที่ถูกจับตา และคาดว่าจะเป็น ประเทศชั้นนำทางด้านเศรษฐกิจ มีอยู่ 5 ประเทศด้วยกัน ที่เรียกกันว่า BRIIC คือ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย รัสเซีย และบราซิล
ดังนั้น ไม่ว่าอุตสาหกรรม การผลิต การลงทุน เทคโนโลยีหรือแม้แต่เม็ดเงินลงทุน การเงินการธนาคาร จะมุ่งไปประเทศเหล่านี้เป็นหลัก การเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าการลงทุนใหม่ และการพัฒนาทางด้านธุรกิจในรูปแบบใหม่จึงเป็นที่ถูกจับตามากที่สุด
ในยุโรปมีปัญหาเรื่องของต้นทุนการผลิตและวัตถุดิบในการผลิต ที่สู้ ประเทศคลื่นลูกใหม่ ไม่ได้ โดยเฉพาะจีนที่เป็นยักษ์ใหญ่ของอุตสาหกรรมทุกประเภท สหภาพยุโรปมองหาฐานการลงทุนใหม่
ในประเทศเหล่านี้ มี ประเทศที่เป็นโลกมุสลิม อยู่อย่างน้อยก็ 2 ประเทศ ในประเทศจีนมีชาวมุสลิมอยู่จำนวนไม่น้อย ตลาดการค้า ใหม่กำลังมองไปที่ ตลาดตะวันออกกลาง ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกหรือการท่องเที่ยว
ลำพังจีน อินโดนีเซีย หรืออินเดียคงไม่สามารถรองรับการโถมทะลักของการเคลื่อนย้ายการลงทุนแบบทันทีทันใดได้ โอกาสนี้ประเทศไทยจึงเป็นประตูสำคัญที่จะรองรับการเคลื่อนย้ายทุนครั้งสำคัญ
อยากจะแนะให้ไปร่วมงาน World Halal Congress ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 19-24 มี.ค.นี้ ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ที่จัดโดยกระทรวงอุตสาหกรรมและคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย จะได้เห็นของจริง
สาระสำคัญของงานนี้ ไม่ใช่อยู่ที่ว่าจะรวบรวมเอาธุรกิจอาหารฮาลาลทั่วโลกมาประชุมร่วมกันที่นี่ ซึ่งน่าจะมีเกือบ 200 บริษัท แต่เป็นสิ่งที่ผู้บริหาร ห้างขายปลีกขายส่งยักษ์ใหญ่ของโลก อาทิ วอร์มาร์ท เทสโก้ โลตัส หรือเนสท์เล่ จะมาแถลงจุดยืนว่าธุรกิจ การค้าขายในโลกอนาคตอันใกล้นี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
อยากจะบอกว่าประเทศไทยใกล้ตกขบวนและเสียโอกาสครั้งสำคัญ ถ้ารัฐบาลชุดนี้ยัง กระเหี้ยนกระหือรือไม่เลิก ยังมองไม่เห็นโลกอนาคต ยังยึดติดกับในอดีตและอำนาจที่ไม่ชอบธรรม.
หมัดเหล็ก