คอลัมน์ เหล็กใน
ขุนทหารใหญ่น้อยตบเท้าพึ่บพั่บยิ่งกว่ามหกรรม
เพื่อแสดงพลังให้กำลังใจพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.
พร้อมๆ กับกดดันพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ. ยุติการดูหมิ่นผู้บังคับบัญชา
พล.ต.คนเดียว ตำแหน่งเพียงผู้ทรงคุณวุฒิ ทำเอาปั่นป่วนไปทั้งกองทัพ!
มหกรรมตบเท้าห่างหายจากกองทัพนานแล้ว
และที่ผ่านมาการแสดงพลัง มักเป็นปัญหาระหว่าง "นาย" กับฝ่ายการเมือง
ไม่ใช่ "นาย" กับลูกน้อง หรือกับทหารด้วยกันเองเหมือนตอนนี้?
ยุคเก่าก่อนพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ สมัยนั่งผบ.ทบ.ควบเก้าอี้นายกฯ
อบอุ่น อิ่มเอิบอย่างยิ่ง
บรรดา "ลูกป๋า" พากันตบเท้าเป็นประจำ เพราะนักการเมืองมักจุกจิกกวนใจ
ความอบอุ่นของลูกๆ มีส่วนช่วย "ป๋า" ครองตำแหน่งยาวนานถึง 8 ปี
จากนั้นมีมหกรรมตบเท้าครั้งใหญ่ในยุคพล.อ.สุจินดา คราประยูร
เมื่อผบ.ทบ.ขัดแย้งอย่างรุนแรงกับนายกฯ
กองทัพเปิดโรงแรมหรูกลางกรุง จัดงาน "ร้อยกรมแดนไกล รวมใจที่นายเดียว"
เสียงท็อปบู๊ตคอมแบตกระทบกันดังกระหึ่ม
ผู้นำแสดงพลังวันนั้น คือ ผบ.ร.11 รอ. ตำแหน่งเดียวกับพ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์
ทายาท "บิ๊กจ๊อด" ผู้นำตบเท้าวันนี้
อีกไม่กี่วันต่อมา "บิ๊กสุ" จัดการปฏิวัติ "น้าชาติ" เรียบโร้ยย รสช.
แต่แล้ว "บิ๊กสุ" ก็ต้องเสียผู้เสียคนเพราะตบเท้า?
เมื่อเปิดทบ.รับกำลังใจก่อนไปรับตำแหน่งนายกฯ
ชายชาติทหารใหญ่น้ำตาคลอ คร่ำครวญเรียกร้องความเห็นใจ!
"ขอเสียสัตย์เพื่อชาติ"
ทว่าประชาชนไม่เล่นด้วย รวมตัวเดินขบวนขับไล่ บานปลายกลายเป็น "พฤษภาทมิฬ" เลือดนองราชดำเนิน
จากนั้นมาแทบไม่มีมหกรรมตบเท้ากระทบท็อปบู๊ตของเหล่าขุนทหาร
เพราะโลกยุคใหม่ การตบเท้า ยกป้าย ชูคำขวัญ มันออกแนวเชยๆ
คนแสดงก็เหมือนเชลียร์ คนรับก็เหมือนขาดความอบอุ่น
ถ้ามีก็มักเป็นการจัดฉากเอาใจนักการเมือง หรือข้าราชการผู้ใหญ่ที่มีปัญหา
เมื่อจู่ๆ ขุนทหารออกมาตบเท้าให้กำลังใจ "นาย" เป็นมหกรรมต่อเนื่อง
สายตาจากสังคมจึงรู้สึกพิศวง??
เพราะคู่กรณีผบ.ทบ.ไม่ใช่ฝ่ายการเมืองเหมือนอดีต
แต่เป็นพล.ต.คนเดียวโด่เด่
และเป็นลูกน้องใต้บังคับบัญชา!
เพื่อแสดงพลังให้กำลังใจพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.
พร้อมๆ กับกดดันพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ. ยุติการดูหมิ่นผู้บังคับบัญชา
พล.ต.คนเดียว ตำแหน่งเพียงผู้ทรงคุณวุฒิ ทำเอาปั่นป่วนไปทั้งกองทัพ!
มหกรรมตบเท้าห่างหายจากกองทัพนานแล้ว
และที่ผ่านมาการแสดงพลัง มักเป็นปัญหาระหว่าง "นาย" กับฝ่ายการเมือง
ไม่ใช่ "นาย" กับลูกน้อง หรือกับทหารด้วยกันเองเหมือนตอนนี้?
ยุคเก่าก่อนพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ สมัยนั่งผบ.ทบ.ควบเก้าอี้นายกฯ
อบอุ่น อิ่มเอิบอย่างยิ่ง
บรรดา "ลูกป๋า" พากันตบเท้าเป็นประจำ เพราะนักการเมืองมักจุกจิกกวนใจ
ความอบอุ่นของลูกๆ มีส่วนช่วย "ป๋า" ครองตำแหน่งยาวนานถึง 8 ปี
จากนั้นมีมหกรรมตบเท้าครั้งใหญ่ในยุคพล.อ.สุจินดา คราประยูร
เมื่อผบ.ทบ.ขัดแย้งอย่างรุนแรงกับนายกฯ
กองทัพเปิดโรงแรมหรูกลางกรุง จัดงาน "ร้อยกรมแดนไกล รวมใจที่นายเดียว"
เสียงท็อปบู๊ตคอมแบตกระทบกันดังกระหึ่ม
ผู้นำแสดงพลังวันนั้น คือ ผบ.ร.11 รอ. ตำแหน่งเดียวกับพ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์
ทายาท "บิ๊กจ๊อด" ผู้นำตบเท้าวันนี้
อีกไม่กี่วันต่อมา "บิ๊กสุ" จัดการปฏิวัติ "น้าชาติ" เรียบโร้ยย รสช.
แต่แล้ว "บิ๊กสุ" ก็ต้องเสียผู้เสียคนเพราะตบเท้า?
เมื่อเปิดทบ.รับกำลังใจก่อนไปรับตำแหน่งนายกฯ
ชายชาติทหารใหญ่น้ำตาคลอ คร่ำครวญเรียกร้องความเห็นใจ!
"ขอเสียสัตย์เพื่อชาติ"
ทว่าประชาชนไม่เล่นด้วย รวมตัวเดินขบวนขับไล่ บานปลายกลายเป็น "พฤษภาทมิฬ" เลือดนองราชดำเนิน
จากนั้นมาแทบไม่มีมหกรรมตบเท้ากระทบท็อปบู๊ตของเหล่าขุนทหาร
เพราะโลกยุคใหม่ การตบเท้า ยกป้าย ชูคำขวัญ มันออกแนวเชยๆ
คนแสดงก็เหมือนเชลียร์ คนรับก็เหมือนขาดความอบอุ่น
ถ้ามีก็มักเป็นการจัดฉากเอาใจนักการเมือง หรือข้าราชการผู้ใหญ่ที่มีปัญหา
เมื่อจู่ๆ ขุนทหารออกมาตบเท้าให้กำลังใจ "นาย" เป็นมหกรรมต่อเนื่อง
สายตาจากสังคมจึงรู้สึกพิศวง??
เพราะคู่กรณีผบ.ทบ.ไม่ใช่ฝ่ายการเมืองเหมือนอดีต
แต่เป็นพล.ต.คนเดียวโด่เด่
และเป็นลูกน้องใต้บังคับบัญชา!