"ไม่หมูเหมือนที่ผ่านมาแน่นอน"
กับบทปรามกันเป็นนัย สไตล์ "ทหารเฒ่าไม่มีวันตาย" ยี่ห้อ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี แกนนำพรรคเพื่อไทย อดีตรอง ผอ.รมน. วิเคราะห์กระแสข่าวปฏิวัติรัฐประหาร
เร้าสถานการณ์ที่เดินมาถึงจุดลุ้นได้เสีย
จับสัญญาณ "นักการทูตไหวตัวไว" นายอีริค จี. จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เข้าหารือกับ "บิ๊กจิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ก่อนที่นายพิทยา พุกกะมาน คณะทำงานฝ่ายต่างประเทศของพรรคเพื่อไทย เปิดเผยเบื้องหลังการหารือระหว่าง "บิ๊กจิ๋ว" กับทูตมะกัน
มีการพูดถึงกระแสข่าวปฏิวัติ
โดยที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯวิเคราะห์ว่า ไม่น่าจะมีการรัฐประหารเกิดขึ้นจริง เป็นแค่ข่าวลือ มิเช่นนั้นคงไม่มีข่าวรั่วออกมา สถานการณ์ปัจจุบันถ้ามีการปฏิวัติก็ยากที่จะสำเร็จ
แต่ถ้าเกิดขึ้นอีกครั้ง สหรัฐฯจะมีปฏิกิริยาตอบโต้รุนแรงกว่าครั้งที่ผ่านมา
ดักคอกันในที
ทั้งนั้นทั้งนี้ โดยเกมที่มวยอ่านเชิงกันออก กับปรากฏการณ์ช่างบังเอิญที่รถหุ้มเกราะของกองทัพบกจำนวน 22 คัน เคลื่อนมาบนถนนวิภาวดีรังสิต
นัดเข้าอู่ซ่อมพร้อมกันในห้วงกระแสข่าวปฏิวัติกำลังโชย
ต่อเนื่องกับช็อตตามน้ำ พ.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ค่ายจักรพงษ์ อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ได้นัดตบเท้าหน่วยขึ้นตรงจำนวน 1,000 คน
ออกแถลงการณ์ต่อต้านการกระทำของบุคคลบางกลุ่มใช้ข้าราชการทหารมาจาบจ้วงสถาบันทหาร ทำการดูหมิ่นผู้บังคับบัญชาชั้นสูง โดยเฉพาะ "บิ๊กป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก และ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผู้บัญชาการทหารบก
"บูรพาพยัคฆ์" คำรามฮึ่มฮ่ำๆ
ตามด้วยคิว "นายสั่งมา" ทหารรักษาพระองค์ 11 กองพันในกรุงเทพฯ นัดตบเท้า กอบกู้ศักดิ์ศรีทหาร รักษาหน้าจ่าฝูงกองทัพบก
ส่งสัญญาณคลื่นความถี่สูง ท็อปบูตชักหมดความอดทน
โดยจังหวะที่ประชาชนชาวบ้านทั่วไปก็คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า ไฟต์บังคับของ "บิ๊กป๊อก" ที่กำลังอยู่ในตำบลกระสุนตก โดน "เสธ.แดง" พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก แท็กทีมคนเสื้อแดงถล่มหนัก และเป้าต่อไปก็เบนไปที่ "บิ๊กตู่" ในฐานะว่าที่จ่าฝูงกองทัพบก ตามโปรแกรมของทหารเสือราชินี
ขนาดถือกระบองอยู่ในมือแท้ๆ ยังโดนตบหน้า
ส่งสัญญาณให้รู้เลยว่า "กูไม่กลัวมึง"
ถ้า "บิ๊กป๊อก" กับ "บิ๊กตู่" ทนนิ่งอยู่ได้ ก็อึดเกินพระอิฐพระปูน
มันต้องเทกแอ็กชั่น กระชับกระบองกันตามจังหวะ
ยิ่งเป็นอะไรที่โยงเงื่อนไขกับสถานการณ์การเมืองที่เดินมาถึงจุด "ฉีกสัญญาลูกผู้ชาย" หลังพรรคประชาธิปัตย์มีมติไม่ร่วมแก้ รัฐธรรมนูญกับพรรคร่วมรัฐบาล
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศพร้อมกลับไปเป็นฝ่ายค้านดักดาน
แนวโน้มสถานการณ์เดินไปสู่คิว "ยุบสภา" เข้าทางพรรคเพื่อไทยที่ครองกระแสเหนือกว่า โอกาสสูงจะชนะเลือกตั้งกลับเข้ามาเป็นรัฐบาล
จังหวะเปิด "นายใหญ่" กลับมาถือเกมอำนาจประเทศไทย
อันตรายของฝ่ายอำมาตย์
เกมยิ่งบีบ เร้าบรรยากาศรัฐประหาร
แต่ในจังหวะช่างบังเอิญที่รถหุ้มเกราะของทหารบกเข้าอู่ซ่อมพร้อมกัน ท่ามกลางข่าวปฏิวัติถูกกระพือ หรือคิวที่ทหารรักษาพระองค์นัดตบเท้าคำรามฮึ่มฮ่ำๆ
จับทางกันได้ ยังแค่ออกอาการ "ขู่"
"ปฏิวัติ" ยังต้องวัดใจ ใครจะเสี่ยง "ลุยไฟ"
ที่แน่ๆไม่สนแล้วว่าใครจะกวักมือเรียกป๋า เรียกพี่เลี้ยงมาอุ้ม
โดยอาการ "ดื้อยา" ของพรรคร่วมรัฐบาล ล่าสุด "เสี่ยตือ" นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา พูดดังๆชัดๆ ขณะนี้รัฐบาลถึงเวลานับถอยหลังแล้ว
ให้จับตาคิวอภิปรายไม่ไว้วางใจดีๆ เพราะคงต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
ส่งซิกล้มกระดานรัฐบาล "อุ้มบุญ" ยี่ห้อประชาธิปัตย์
นักเลือกตั้งวัดใจ พร้อมตายหมู่.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
กับบทปรามกันเป็นนัย สไตล์ "ทหารเฒ่าไม่มีวันตาย" ยี่ห้อ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี แกนนำพรรคเพื่อไทย อดีตรอง ผอ.รมน. วิเคราะห์กระแสข่าวปฏิวัติรัฐประหาร
เร้าสถานการณ์ที่เดินมาถึงจุดลุ้นได้เสีย
จับสัญญาณ "นักการทูตไหวตัวไว" นายอีริค จี. จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เข้าหารือกับ "บิ๊กจิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ก่อนที่นายพิทยา พุกกะมาน คณะทำงานฝ่ายต่างประเทศของพรรคเพื่อไทย เปิดเผยเบื้องหลังการหารือระหว่าง "บิ๊กจิ๋ว" กับทูตมะกัน
มีการพูดถึงกระแสข่าวปฏิวัติ
โดยที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯวิเคราะห์ว่า ไม่น่าจะมีการรัฐประหารเกิดขึ้นจริง เป็นแค่ข่าวลือ มิเช่นนั้นคงไม่มีข่าวรั่วออกมา สถานการณ์ปัจจุบันถ้ามีการปฏิวัติก็ยากที่จะสำเร็จ
แต่ถ้าเกิดขึ้นอีกครั้ง สหรัฐฯจะมีปฏิกิริยาตอบโต้รุนแรงกว่าครั้งที่ผ่านมา
ดักคอกันในที
ทั้งนั้นทั้งนี้ โดยเกมที่มวยอ่านเชิงกันออก กับปรากฏการณ์ช่างบังเอิญที่รถหุ้มเกราะของกองทัพบกจำนวน 22 คัน เคลื่อนมาบนถนนวิภาวดีรังสิต
นัดเข้าอู่ซ่อมพร้อมกันในห้วงกระแสข่าวปฏิวัติกำลังโชย
ต่อเนื่องกับช็อตตามน้ำ พ.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ค่ายจักรพงษ์ อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ได้นัดตบเท้าหน่วยขึ้นตรงจำนวน 1,000 คน
ออกแถลงการณ์ต่อต้านการกระทำของบุคคลบางกลุ่มใช้ข้าราชการทหารมาจาบจ้วงสถาบันทหาร ทำการดูหมิ่นผู้บังคับบัญชาชั้นสูง โดยเฉพาะ "บิ๊กป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก และ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผู้บัญชาการทหารบก
"บูรพาพยัคฆ์" คำรามฮึ่มฮ่ำๆ
ตามด้วยคิว "นายสั่งมา" ทหารรักษาพระองค์ 11 กองพันในกรุงเทพฯ นัดตบเท้า กอบกู้ศักดิ์ศรีทหาร รักษาหน้าจ่าฝูงกองทัพบก
ส่งสัญญาณคลื่นความถี่สูง ท็อปบูตชักหมดความอดทน
โดยจังหวะที่ประชาชนชาวบ้านทั่วไปก็คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า ไฟต์บังคับของ "บิ๊กป๊อก" ที่กำลังอยู่ในตำบลกระสุนตก โดน "เสธ.แดง" พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก แท็กทีมคนเสื้อแดงถล่มหนัก และเป้าต่อไปก็เบนไปที่ "บิ๊กตู่" ในฐานะว่าที่จ่าฝูงกองทัพบก ตามโปรแกรมของทหารเสือราชินี
ขนาดถือกระบองอยู่ในมือแท้ๆ ยังโดนตบหน้า
ส่งสัญญาณให้รู้เลยว่า "กูไม่กลัวมึง"
ถ้า "บิ๊กป๊อก" กับ "บิ๊กตู่" ทนนิ่งอยู่ได้ ก็อึดเกินพระอิฐพระปูน
มันต้องเทกแอ็กชั่น กระชับกระบองกันตามจังหวะ
ยิ่งเป็นอะไรที่โยงเงื่อนไขกับสถานการณ์การเมืองที่เดินมาถึงจุด "ฉีกสัญญาลูกผู้ชาย" หลังพรรคประชาธิปัตย์มีมติไม่ร่วมแก้ รัฐธรรมนูญกับพรรคร่วมรัฐบาล
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศพร้อมกลับไปเป็นฝ่ายค้านดักดาน
แนวโน้มสถานการณ์เดินไปสู่คิว "ยุบสภา" เข้าทางพรรคเพื่อไทยที่ครองกระแสเหนือกว่า โอกาสสูงจะชนะเลือกตั้งกลับเข้ามาเป็นรัฐบาล
จังหวะเปิด "นายใหญ่" กลับมาถือเกมอำนาจประเทศไทย
อันตรายของฝ่ายอำมาตย์
เกมยิ่งบีบ เร้าบรรยากาศรัฐประหาร
แต่ในจังหวะช่างบังเอิญที่รถหุ้มเกราะของทหารบกเข้าอู่ซ่อมพร้อมกัน ท่ามกลางข่าวปฏิวัติถูกกระพือ หรือคิวที่ทหารรักษาพระองค์นัดตบเท้าคำรามฮึ่มฮ่ำๆ
จับทางกันได้ ยังแค่ออกอาการ "ขู่"
"ปฏิวัติ" ยังต้องวัดใจ ใครจะเสี่ยง "ลุยไฟ"
ที่แน่ๆไม่สนแล้วว่าใครจะกวักมือเรียกป๋า เรียกพี่เลี้ยงมาอุ้ม
โดยอาการ "ดื้อยา" ของพรรคร่วมรัฐบาล ล่าสุด "เสี่ยตือ" นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา พูดดังๆชัดๆ ขณะนี้รัฐบาลถึงเวลานับถอยหลังแล้ว
ให้จับตาคิวอภิปรายไม่ไว้วางใจดีๆ เพราะคงต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
ส่งซิกล้มกระดานรัฐบาล "อุ้มบุญ" ยี่ห้อประชาธิปัตย์
นักเลือกตั้งวัดใจ พร้อมตายหมู่.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน