วิกฤติศรัทธาของเครื่องมือตรวจสารระเบิด หลังสำนักข่าวเมืองผู้ดีแฉว่าเป็นอุปกรณ์ที่ไม่สามารถตรวจระเบิดได้จริง ผ่าดูแล้วไม่มีอะไร...
จากกรณีของฟอร์เวิร์ดอีเมล์ที่ส่งต่อกันบนสังคมโลกออนไลน์ ของชุมชนวิทยาศาสตร์หว้ากอ และกระทู้แนะนำในห้องหว้ากอ เว็บไซต์พันทิปดอทคอม (www.pantip.com) ได้แก่ กระทู้แนะนำ X8804615 มาแล้ว ! แกะเครื่องตรวจระเบิดติงต๊อง มาดูกันว่ามีอะไรข้างในบ้าง (http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8804615/X8804615.html)
กระทู้ X8813229 ความในใจ+บทเรียนจากการออกสื่อ - อ.เจษฎา (http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8813229/X8813229.html)
กระทู้ X8798764 ด่วน+สำคัญมาก "ขออาสาสมัครรณรงค์ต่อต้านเครื่องตรวจระเบิดลวงโลก" (http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8798764/X8798764.html)
กระทู้ X8805396 อย่าพึ่งปลงเรื่องGT200 อ่านนี่ซะก่อน สิ่งที่เว็บเมืองนอกเขาทำ (http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8805396/X8805396.html)
เป็นประเด็นร้อนของรัฐบาล และกองทัพ กรณีเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิดและสารเสพติด GT200 (GT200 Substance Detection Device) ที่ผลิตโดยบริษัท Global Technical เมืองเคนท์ ประเทศอังกฤษ(www.globaltechnical.co.uk) และมีตัวแทนจำหน่ายในภูมิภาคเอเชีย Electronic K9 Singapore Private Limited ประเทศสิงค์โปร์ ที่มีสำนักข่าวประเทศอังกฤษได้ทดสอบและผ่าพิสูจน์พบว่าไม่สามารถตรวจระเบิดได้จริง ผนวกกับการที่เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2553 รัฐบาลอังกฤษได้มีสั่งห้ามจำหน่ายอุปกรณ์ ADE-651 ที่เป็นอุปกรณ์ตระกูลเดียวกับ ADE-101 หรือ GT200, Sniffex และ Alpha 6 รวมถึงห้ามขายให้กับประเทศอิรัก และอัฟกานิสถาน และเครื่อง GT200 มีใช้งานในทุกเหล่าทัพของประเทศไทยมากกว่า 2,000 เครื่อง
กลุ่มนักวิชาหว้ากอ ได้นำเสนอข้อเท็จจริง และข้อมูลการทดสอบของต่างประเทศ ต่างระบุว่าเครื่องมือนี้ไม่ได้มีการใช้หลักทางวิทยาศาตร์ หรือ เทคโนโลยีที่พิสูจน์ได้ อย่างที่ข้อมูลของอุปกรณ์ระบุว่า แท้ที่จริงแล้ว ข้างในตัวเครื่องเป็นกล่องว่างๆ ไม่มีวงจรไฟฟ้า วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ไม่มีแม้แต่ถ่านไฟฉาย แบตเตอรี่ หรือ แหล่งพลังงาน เสาอากาศก็หมุนฟรีลื่นๆ ไม่ได้มีมอเตอร์ ไม่ได้มีฟันเฟืองเครื่องกล กำกับการเคลื่อนที่ของเสาแต่อย่างใด
ชุมชนนักวิทยาศาสตร์หว้ากอ ยังระบุ ในอีเมล์ดังกล่าวอีกว่า ตัวการ์ดเซนเซอร์ แผ่นละหลายหมื่นบาทที่ใช้เสียบกับเครื่อง GT200 ก็เป็นแค่แผ่นกระดาษเคลือบมัน ไม่มี "ชิพ" ไม่มี "ซิม" อะไร โดยอ้างว่าเครื่องมือนี้ใช้ไฟฟ้าสถิตย์จากร่างกายมนุษย์ที่ยังไม่มีการพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ จึงกลัวว่างบประมาณแผ่นดินจำนวนมหาศาล จะหายไปกับเครื่องมือลวงโลกที่ไม่สามารถใช้งานได้จริง และเป็นแค่เครื่องมือที่ใช้การอุปทานของผู้ใช้งาน
ประเด็นดังกล่าวนี้ได้ขยายใหญ่ลุกลาม กลายเป็นหัวข้อที่ภาคประชาชนวิพากษ์วิจารณ์จนเมื่อวันที่ 27 ม.ค. กองทัพบก ได้มีการนำเอาเครื่อง GT200 ออกมาสาธิตการใช้งานต่อสื่อมวลชน และผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาตร์ ด้วยวิธีการหาระเบิดโดยใช้ เครื่อง GT200 ที่คลังแสง จ.ราชบุรี เป็นการทดสอบโดยไม่ได้ใช้เครื่องมืออื่นช่วยร่วมด้วย การทำสอบเริ่มโดยนำสารระเบิดซีโฟร์มาวางซ่อนไว้ในกล่อง 1 ใน 3 กล่อง แล้วใช้เครื่อง GT200 ตรวจสอบ โดยใช้เวลาเกือบ 15 นาที
ผลการทดสอบพบว่า เครื่องสามารถตรวจพบสารระเบิดซีโฟร์ในกล่องที่ถูกต้อง และผู้ใช้ต้องถือเครื่องด้วยวิธีที่ถูกต้อง เครื่องสามารถใช้ได้ผลในระยะ 700 เมตร โดย ผู้บัญชาการหน่วยทำลายล้างระเบิดอโณทัย กล่าวว่า ทหารที่ต้องใช้เครื่อง จำเป็นต้องเข้าอบรมหลักสูตรเบื้องต้นเป็นเวลา 5 วัน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญไม่เห็นด้วยกับการทดสอบ เพราะเครื่องต้องหาระเบิดได้ในจุดที่ซ่อนที่ไหนก็ได้ และค้นหาได้ทันทีโดยใช้เวลาไม่มาก
นายเจษฎา เด่นดวงบริพัฒน์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวผ่านรายการข่าว 3 มิติ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 3 ว่า เครื่องมือจีที 200 การทำงานของเครื่องใช้หลักสนามแม่เหล็ก ไฟฟ้าสถิตย์ คือ ฟังดูแล้วเท่มีการใช้วิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย แต่จริงแล้วเป็นวิทยาศาสตร์ลวงโลกไม่มีอยู่จริง ไม่ได้มีการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ หลักการทางวิทยาศาสตร์แม้แต่น้อย เป็นเพียงการใช้เล้นลวดมาติดกับแกนที่หมุนได้ ไม่ว่าเป็นยี่ห้อไหน แค่ "ลวดเดาว์ซิง (Dowsing rod)" ที่เอามาใช้ทำ "ไม้ล้างป่าช้า" เราโดนหลอกแล้ว ได้มีการพูดคุยกับนักข่าวบีบีซีว่า เมืองไทยมีกรณีเครื่องจีที 200 ยังเคลียร์ไม่ได้ เขาก็บอกว่าทดสอบแล้วเป็นเหมือนกันกับ ADE-651
อย่างไรก็ตามในส่วนของเจ้าหน้าที่ผู้ที่ใช้งาน โดยเฉพาะตำรวจทหารใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ต้องฝากชีวิตไว้กับเครื่องตรวจจับระเบิดจีที 200 ก็ได้ออกมาระบุตามข่าว "ผบ.พตท.การันตี ทีจี200ใช้ได้ ดีกว่าไม่มีอะไรhttp://www.thairath.co.th/content/region/61385" ที่ พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการผสมพลเรือนตำรวจทหาร ระบุว่า ในส่วนนี้ตนเองยังมีความเห็นว่า เครื่องจีที 200 ยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ เพราะประสิทธิภาพยังใช้ได้ผล เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ขณะนี้มีความต้องการเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องการเครื่องที่มีความปลอดภัยขั้นสูงสุด โดยในการใช้เครื่องจีที 200 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่มีความมั่นใจในการใช้งานในเครื่องนี้ เพราะได้ตามขีดความสามารถ ที่ผ่านมาการนำไปใช้งานเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ความผิดพลาดมีปริมาณน้อยมาก
อย่างไรก็ตาม ชมรมนักวิทยาศาสตร์หว้ากอ และชาวเว็บไซต์พันทิป ห้องหว้ากอ ยังคงเกาะติดเหตุการณ์และมีการแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง หลังจากรายการข่าวทางเคเบิลทีวีได้มีการพูดถึงประเด็นเรื่องความน่าเชื่อถือ และการขอให้หน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ และกองทัพผ่าพิสูจน์ เครื่องตรวจสารระเบิด จีที 200 เพื่อคลายข้อสงสัยของประชาชน และนักวิชาการ