บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553

จับตารัฐบาลนับถอยหลัง

ที่มา เดลินิวส์

บทนำ

แล้วสถานการณ์การเมืองภายในประเทศก็ตกอยู่ภายใต้ภาวะอึมครึมอีกครั้งหนึ่ง เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรคมีมติไม่ร่วมยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่พรรคร่วมรัฐบาลได้เคยบรรลุข้อตกลงในการที่จะร่วมมือกันเสนอแก้ไขโดยเฉพาะใน 2 มาตราคือ มาตรา 190 เรื่องการทำสนธิสัญญากับต่างประเทศ และมาตรา 94 ว่าด้วยเขตเลือกตั้ง ส่งผลให้อุณหภูมิทางการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลร้อนแรงขึ้นมาทันที ไม่นับรวมความขัดแย้งภายในพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งกำลังเขม็งเกลียวขึ้นมาทุกขณะ

ท่ามกลางกระแสข่าวการยึดอำนาจการปฏิวัติรัฐประหาร การเปลี่ยนขั้วทางการเมือง และการยุบสภา ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลโดยรวม และภาวะเศรษฐกิจซึ่งกำลังดีวันดีคืน ทั้งนี้ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลมองว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์มีมติไม่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะต้องการเล่นเกมยื้อเวลาสร้างภาพให้สังคมเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึง ไม่แปลกหากว่าพรรคเพื่อไทยอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์แล้ว พรรคร่วมรัฐบาลจะปล่อยให้ลูกพรรคฟรีโหวตเพื่อเป็นการแก้เผ็ดบ้าง

นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุว่า รัฐบาลถึงเวลานับถอยหลังแล้ว และการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะเกิดขึ้น ยังตอบไม่ได้ว่า ส.ส. พรรคชาติไทยพัฒนา จะมีการฟรีโหวตหรือไม่ แต่ให้จับตาให้ดี เพราะคงต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เอาไว้ต่อรอง เพราะสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดว่าเรื่องรัฐธรรมนูญให้สภาตัดสิน เรื่องอภิปรายให้เป็นหน้าที่พรรคร่วมก็ถูกต้อง เพราะถึงวันนั้น หาก กระแสสังคมจะยอมรับรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายหรือไม่พรรคชาติไทยพัฒนา ก็จะฟังเสียงสังคมแทนฟังเสียงของพรรคประชาธิปัตย์

เป็นที่น่าสังเกตว่า ปัญหาทางการเมืองต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น กำลังทยอยขมวดปมประดังเข้ามากระจุกตัวรวมศูนย์อยู่ในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ คล้ายกับว่ามีการนัดหมายกันเอาไว้ ทั้งเรื่องการเคลื่อนไหวของกองทัพ และข่าวลือการยึดอำนาจการปฏิวัติรัฐประหาร การยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญท่ามกลางความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย และการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล้วนเป็นสถานการณ์ที่น่าจับตามองอย่างชนิดไม่ควรกะพริบตาเด็ดขาด.

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker