ถ้าจะมีการปฏิวัติเกิดขึ้นมาอีกครั้ง..มันจะต่างกับการปฏิวัติที่เกิดขึ้นมาแล้วอย่างไร และในขณะนี้ประเทศไม่ได้อยู่ภายใต้การปฏิวัติตรงไหนรัฐธรรมนูญ 2550 เกิดและร่างกันขึ้นมาจากอำนาจนอกการเลือกตั้ง...และเหยียดหยามอำนาจของประชาชนผ่านพรรคการเมืององค์กรอิสระที่มีอายุแห่งอำนาจ 7 ปี 9 ปี และมีวิธีการใช้อำนาจที่เต็มไปด้วยคำถาม..และภาพลักษณ์ที่มัวซัว ก็ถือกำเนิดขึ้นมาจากคณะปฏิวัติครั้งแล้วครั้งเล่าที่รัฐบาลจากพรรคหนึ่งต้องถูกโค่นล้มลงไป..เพราะไม่สามารถใช้อำนาจแห่งความเป็นรัฐเหนือกองทัพ จนกระทั่งรัฐบาลเปลี่ยนไปเป็นของอีกฝ่ายหนึ่งที่เกิดจากการให้ปฏิสนธิของกองทัพ และสามารถใช้
กองทัพออกมาขจัดการชุมนุมกันของประชาชนเราเป็นประชาธิปไตยกันอยู่ตรงไหน..เรายังอยู่ใต้การปฏิวัติรัฐประหารกันอยู่มิใช่หรือว่ากนั ไปแลว้ ...การตอ่ สขู้ องประชาชนทเี่คยี งขนานกันไปกับการทำหน้าที่ฝ่ายค้านของพรรคเพื่อไทย..ก็คือการต่อต้านการยึดครองของอำนาจปฏิวัติ..และในระยะหลังๆ มานี้ได้จับทางถูกและบุกเข้าจู่โจมตรงจุดอ่อนของอำนาจปฏิวัติ..นั่นคือการยํ่าเหยียบกฎหมายหากขืนตั้งรับและปล่อยให้พลังประชาชนของคนเสื้อแดงเติบโตขึ้น นานไปจะ
รับไม่ไหว...วิธีการแก้ไข...ก็คือการทำปฏิวัติตัวเองอีกครั้งหนึ่ง..หลังจากนั้นฝ่ายปฏิวัติจะดำเนินการบริหารประเทศอย่างไร จะเอาพรรคประชาธิปัตย์กลับมาอีกครั้งหนึ่งหรือหรือจะปกครองเต็มรูปโดยการปฏิวัติผู้ปฏิวัติจะเอาอำนาจชนิดนั้นมาจากไหนจะถอนรากถอนโคน ประชาชนที่ฝักใฝ่ในความเป็นประชาธิปไตยอย่างไร...ประชาชนจะดำเนินการต่อสู้กับกองทัพด้วยอาวุธหรือไม่..สงครามอย่างที่เกิดขึ้นใน 3จังหวัดภาคใต้ จะลุกลามออกไปทั่วประเทศหรือไม่เมื่อนักการ
เมืองทั้งหลายหันไปต่อสู้ด้วยการเมืองใต้ดินปฏิวัติเมื่อ 19 กันยายน 2549 ที่ยังดำเนินการอยู่จนถึงทุกวันนี้นั้น..จะต้องยอมรับว่า....ท่านทั้งหลายกำลังถูกล้อมให้เข้าไปอยู่ในมุมอับของการเมืองไทย..พลังแห่งประชาธิปไตยที่สั่งสมกันมานานกว่า 78 ปี นั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าจะถูกทำลายให้แตกดับการยอมรับและคืนอำนาจให้กับประชาชนบนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย...จึงเป็นทางออกที่เหลืออยู่ทางเดียวของประเทศเป็นทางเดียวที่ไฟจะไม่ท่วมเมือง