บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553

เกียรติยศของกองทัพ

ที่มา สยามรัฐ

เกียรติยศของกองทัพ / ตีโฉบฉวย

เสือตัวที่ 628/1/2553

ข่าวการถล่มกองบัญชาการกองทัพบกด้วยลูกระเบิด M 79 คืนก่อนวันกองทัพไทย 4 วัน นับเป็นการหยามเกียรติยศ และศักดิ์ศรีทหารในกองทัพบกไทยอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย

ก่อนหน้านี้เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว อย่างมากก็แค่ระเบิดเลาะรั้วกองบัญชาการเท่านั้น แต่มาครั้งนี้ เกิดขึ้นบริเวณชั้น 6 ซึ่งเป็นชั้นของผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพทั้งสิ้น แม้จะเป็นภายนอกของอาคารซึ่งไม่ได้ก่อความเสียหายมากนัก แต่ก็เป็นการหยามเกียรติ และศักดิ์ศรีกองทัพซึ่งเป็นหน่วยงานหลักของชาติด้านความมั่นคงของประเทศอย่างไม่น่าเชื่อ

เหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้ ยังไม่กระจ่างชัด สร้างความสงสัยให้สังคมว่า เกิดขึ้นได้อย่างไรทำไมถึงเพิ่งเป็นข่าวหลังจากนั้นร่วม 7 วัน แต่จากการวิเคราะห์แล้ว แม้จะเกิดจากการกระทำของบุคคลภายนอกที่มุ่งหวังสร้างสถานการณ์และต้องการหยามศักดิ์ศรีของกองทัพบกที่มี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นผู้นำ หรือเป็นความต้องการกระตุกหนวดเสือของมือที่ 3ให้กองทัพกระโจนเข้าร่วมสงครามความขัดแย้งครั้งนี้อย่างเต็มตัว หรือเป็นการกระทำของคนภายใน บก.ทบ. เอง ที่ต้องการสร้างสภาพแวดล้อมที่เกื้อกูลต่อการทำลายล้าง ตัดกำลังฝ่ายตรงข้าม หรืออาจถึงขั้นนำไปสู่การใช้เป็นข้ออ้างของการยึดอำนาจหากสถานการณ์อำนวย ก็ตาม

แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใด ก็ได้สร้างความเสียหายให้กองทัพจนป่นปี้แล้ว เพราะสังคมทั้งในและต่างประเทศรับรู้ได้ว่า นับประสาอะไรกับขีดความสามารถของกองทัพไทยในการรักษาความมั่นคงของชาติ ด้วยขนาดกองบัญชาการใหญ่ ยังไม่สามารถรักษาความมั่นคงให้ตนเองได้ ซ้ำเป็นการตอกย้ำความคลางแคลงใจใน สังคมไทยที่มีต่อศักยภาพของทัพ ที่ส่งลูกน้องไปเสี่ยงตายไม่เว้นวัน จากการระงับเหตุร้ายภาคใต้ อย่างไม่เห็นจุดหมายปลายทาง

การตัดสินใจสั่งการให้ตำรวจ ร่วมสารวัตรทหารจำนวนมาก เข้าค้นบ้านพักอย่างอุกอาจของ พลตรี ขัตติยะ ซึ่งเป็นบ้านพักนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในเขตทหาร จึงส่งสัญญาณเป็นนัยว่า ต้องการตอบโต้คนๆ นี้ที่ถูกสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ระทึก การกระทำครั้งนี้จึงบานปลายไปสู่การเรียกเกียรติ และศักดิ์ศรี ความเชื่อมั่นต่อคนทั้งในและนอกกองทัพกลับคืนมามากกว่าการใช้เหตุผลของคนระดับผู้ใหญ่ของกองทัพที่ควรมีวิจารณญาณในการตัดสินในเรื่องละเอียดอ่อนให้มากกว่านี้ เรื่องดังกล่าวจึงกลายเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีมากกว่าเหตุผล หารู้ไม่ว่า ยิ่งดิ้นรนเพื่อตอบโต้ผู้ต้องสงสัยที่ยังไม่มีหลักฐานมากพอ ก็ยิ่งเป็นการกัดเซาะเกียรติ และศักดิ์ศรีของตนเอง ให้ตกต่ำลงไปอีก เพราะบ้านดังกล่าว เป็นบ้านพักอาศัยของราชการ อยู่ในเขตทหาร และเป็นบริเวณบ้านพักของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่ควรมีเหตุผล ความรอบคอบ ใช้วิธีที่ให้เกียรติ มีความประนีประนอม ละมุนละม่อม อ่อนนอก แต่แข็งในเพื่อคงรักษาเกีรติยศของคนในกองทัพได้มากกว่านี้

เหตุการณ์ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า กองทัพภายใต้การนำของ พลเอก ประวิตร และพลเอก อนุพงษ์ กำลังอยู่ในสภาพไม่น่ายำเกรงของฝ่ายตรงข้าม ด้วยเพราะผู้นำทั้งหลายได้ลากพากองทัพไปร่วมความขัดแย้งของสังคม การเมืองอย่างปฏิเสธไม่ได้ ตั้งแต่นำกำลังเข้ายึดอำนาจ 19 กันยายน 49 ของ พลเอก สนธิ

และหากเป็นการสร้างสถานการณ์ของคนในกองทัพเองเพื่อมุ่งหวังอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่มีการกล่าวหา ก็ยิ่งเป็นการลากพากองทัพไปสู่ความเสื่อมมากขึ้นไปอีก และที่แน่ๆ การสั่งการให้ค้นบ้านพักของนายทหารชั้นผู้ใหญ่อย่างไม่ให้เกียรติ เพื่อหวังตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามอย่างรุนแรงฉับพลันทันใด ก็ยิ่งเป็นการทำลายเกียรติยศและ ศักดิ์ศรีของตนเองไปด้วย พลเอก อนุพงษ์ ในฐานะผู้รับผิดชอบกองทัพบกที่กำลังตกเป็นเหยื่อ ต้องตั้งสติให้ดี ผลีผลามทำไปก็กระเทือนตนเองและองค์กร หยิกเล็บก็เจ็บเนื้อตนเองเปล่าๆ

เกีรยติยศของกองทัพบอบช้ำจากการหลงผิด ตั้งแต่ 19 กันยา 49 และขอบอกว่าเกียรติยศ และศักดิ์ศรีของกองทัพสร้างและรักษาได้ด้วยผลงานในหน้าที่ให้สังคมยอมรับ ถึงเวลาแล้วที่จะนำกองทัพออกจากการเมืองอย่างแท้จริง

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker