ประเทศไทยเป็นประเทศที่ประชาชนมีอาชีพทำนามากที่สุด แต่อาชีพนี้ก็เป็นอาชีพเดียวที่คนเป็น “ชาวนา”ถูกเอารัดเอาเปรียบมากที่สุด! ยากจนมากที่สุด!!โดยนายทุนที่มีกลุ่มอำมาตย์หนุนหลังมาตลอดเวลาที่ยาวนานชาวนาไทย ขายข้าวเปลือกได้ในราคาที่ถูกมากถูกจนขาดทุน แต่ชาวนาไทยอีกนั่นแหละ ที่ต้องซื้อข้าวสารกินในราคาที่แพงระยับเท่ากับมหาเศรษฐีควักกระเป๋าซื้อมันมีความสลับซับซ้อนในธุรกิจการค้าข้าวและส่งออกของประดาพ่อค้าที่มีสายสะดือติดอยู่กับนักการเมืองผู้มีอำนาจคุณพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ออกมายืนยันถึงความไม่ชอบมาพากลของพ่อค้าส่งออกในการประมูลข้าวครั้งล่า
สุด ทำให้มองเห็นภาพชัดเจนว่าทำไมชาวนาไทยถึงยากจน??การประมูลขายข้าว 3.75 แสนตัน เมื่อวันที่21 มกราคม คงต้องล้มประมูล เนื่องจากราคาที่เสนอซื้อต่ำเกินไปและอาจมีการฮั้วราคาเสนอซื้อจากผู้ส่งออกรายใหญ่มีการกดราคาเสนอซื้อไม่เกินตันละ 16,200 บาทบางรายเพิ่มราคาให้เพียง 100 บาทต่อตัน ทั้งที่เป็นข้าวคุณภาพดีราคาหลังต่อรองอยู่ที่ตันละ 15,500-16,500 บาทตํ่ากว่าราคาส่งออกอยู่ที่ ตันละ 18,000-19,000 บาทส่วนข้าวเหนียวราคาส่งออก
เกิน 20,000 บาท แต่เสนอซื้อ 14,000-15,000 บาทเท่านั้นรัฐมนตรีพรทิวา หาทางออกไว้แล้วว่า วิธีแก้เผ็ดพ่อค้าส่งออกที่เอาเปรียบกันเกินไปขนาดนี้ คือการเพิ่มวิธีการระบายข้าวรัฐ ด้วยการเปิดประมูลทั่วไปและประกาศราคาขายที่ชัดเจนพรทิวา นาคาศัย เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง แต่ก็“สู้” กับอำนาจมืดของมาเฟียค้าข้าวมาตลอด จนกลายเป็นเป้าหมายในการจ้องทำลาย ของ “คนที่มีอำนาจกว่า” ในรัฐบาลชุดนี้ใครจะเล่นการเมืองกันอย่างไร? ทำลายล้างกันอย่าง
ไร? แต่ พรทิวา นาคาศัย คงไม่มีเวลาไปยุ่งกับใครลำพังที่ต้องสู้กับ “พ่อค้าส่งออกรายใหญ่” ก็เปลืองยาพาราเซ็ตตามอลวันละกำมืออยู่แล้ว เพราะนั่นหมายถึงการตัดสินใจเข้าไป “รื้อรังแตน”!!สงสารคนไทยที่กินข้าวสารแพง สงสารชาวนาที่ขายข้าวเปลือกราคาถูก!! และเบื่อหน่ายรัฐบาลที่ตะบี้ตะบัน “สร้างภาพ” กันอย่างเดียว!!