เกมวัดใจพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะเอาอย่างไรกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ได้คำตอบที่ไม่พลิกล็อกอย่างที่มีข่าวลือที่มีข่าวลือ
ที่ประชุม กก.บริหารพรรคประชาธิปัตย์ 19 คน ใช้เวลาตัดสินใจแค่ 20 นาที ลงมติว่า ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ 170 คน จะ "ไม่ร่วมลงชื่อสนับสนุนญัตติแก้รัฐธรรมนูญ" ของ 5 พรรคร่วมรัฐบาล
เช่นเดียวกับที่ประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์วงใหญ่ ก็ลงมติ "ไม่เห็นชอบ" กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ประเด็น
พูดสั้นๆ ง่ายๆ คือ ไม่เอาด้วย นั่นแหละโยม
ส่วนที่เคยรับปากกันไว้ว่าจะสนับสนุนแก้รัฐธรรมนูญตอนเจรจาตั้งรัฐบาล...ถือเป็นข้อตกลงส่วนตัว
ไม่มีผลผูกพันที่พรรคประชาธิปัตย์ ต้องปฏิบัติตามสัญญา
ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลจะทวงสัญญา ก็ขอให้ไปทวงจาก "เทพเทือก" เอาเอง
เอวังก็มีประการฉะนี้แล
"แม่ลูกจันทร์" เห็นว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์กล้าขัดใจพรรคร่วมรัฐบาลถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา
เพราะกรณีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรค ยื่นข้อเรียกร้องต่อพรรคประชาธิปัตย์โดยตรง!!
แต่พรรคประชาธิปัตย์ยังปฏิเสธเพื่อนได้ลงคอ
(ถ้าคิดจะรักประชาธิปัตย์ ต้องลืมคำว่าเสียใจ)
นายกฯอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า การแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของสภาฯ
ถึงแม้พรรคประชาธิปัตย์จะไม่สนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ ก็จะไม่เป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกในรัฐบาล
แต่ถ้ากรณีแก้รัฐธรรมนูญจะเกิดปัญหาขัดแย้งในรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมรับผลที่จะตามมา
พูดภาษาชาวบ้านก็คือ พร้อมรับมือทุกกรณี
ทีนี้กลับมาดูทางด้านพรรคร่วมรัฐบาลบ้างว่าเป็นอย่างไร??
การถูก "หักหน้ากลางตลาด" ขนาดนี้พรรคร่วมรัฐบาลต้องกลืนเลือดกันหลายปี๊บแน่นอน
ถึงแม้ปากบอกว่าจะไม่เป็นปัญหาในการร่วมรัฐบาล
แต่ "แม่ลูกจันทร์" เชื่อว่าบาดแผลครั้งนี้เจ็บลึกถึงกระดูกดำ
ไม่มียาขนานใดที่จะรักษาให้หายได้ แม้แต่ "น้ำมหาบำบัด" สูตรป้าเช็ง
เพราะการที่พรรคประชาธิปัตย์ปิดประตูลงกลอนไม่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามคำขอร้องของพรรคร่วมรัฐบาล
นั่นคือคำพิพากษาว่าการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ ไม่สำเร็จแน่นอน!!
เพราะพรรคร่วมรัฐบาล 5 พรรค มีเสียง ส.ส.รวมกันแค่ 100 เสียง แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องใช้เสียงเกิน 313 เสียงขึ้นไป
ฉะนั้น ถึงจะยื่นญัตติได้ ก็ต้องแท้งกลางสภาฯ
สรุปว่า ในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งต่อไปยังต้องใช้ระบบเขตใหญ่เรียงเบอร์ ที่พรรคใหญ่ ได้เปรียบ แต่พรรคเล็กเสียเปรียบทุกประตู
ทีนี้ย้อนกลับมาวิเคราะห์แนวโน้มการเมืองหลังพรรคประชาธิปัตย์หักดิบพรรคร่วมรัฐบาล
"แม่ลูกจันทร์" เห็นว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์กล้าหักดิบพรรคร่วมรัฐบาลจั๋งหนับขนาดนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เกิดผลได้ 2 ทาง...
1, เป็นการส่งสัญญาณว่าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้กุมอำนาจเหนือพรรคร่วมรัฐบาลอย่างชัดเจน
ถึงแม้พรรคร่วมรัฐบาลจะรวมพลังกดดันอย่างไร พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ไหวหวั่นตะครั่นตะครอ
เพราะถึงที่สุด "อภิสิทธิ์" ยังมีอำนาจยุบสภาฯอยู่ในมือ
2, เป็นการวัดใจว่าเจอของแข็งขนาดนี้ ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลยังทนร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไปได้ ก็แสดงว่าเสถียรภาพรัฐบาลมั่นคง
ไม่มีแนวโน้มที่จะพลิกขั้วไปร่วมพรรคเพื่อไทย
เรียกว่าตีไพ่ใบเดียวกินรอบวง.
"แม่ลูกจันทร์