บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2553

บทสรุป 3 นายพล

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน



ท่ามกลางข้อมูลที่หลั่งไหลจากผู้รู้ทางกฎหมาย ทำให้ความเชื่อตามสูตรเดิมๆ ที่ว่า มติของป.ป.ช.ไม่สามารถลบล้างด้วยมติขององค์กรอื่นใดได้ เริ่มคลอนแคลน

รายละเอียดทางกฎหมายบอกว่า มติของก.ตร.หรือคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หลังรับพิจารณาอุทธรณ์ จาก 3 นายตำรวจที่โดนป.ป.ช.ชี้มูลลงโทษร้ายแรงนั้น

ก.ตร.สามารถทำได้

เพราะเป็นการรับอุทธรณ์ตามที่พ.ร.บ.ตำรวจให้อำนาจไว้ และพ.ร.บ.ของป.ป.ช.เองก็ชี้ช่องให้สามารถอุทธรณ์ได้ด้วย

ทั้งกฎหมายตำรวจและกฎหมายป.ป.ช.สอดรับกัน ไม่ขัดแย้งกัน

รวมทั้งไม่ขัดรัฐธรรมนูญ

แล้วผู้รู้ทางกฎหมายทุกสำนักชี้ตรงกันว่า มติของก.ตร.ในเรื่องนี้ องค์กรที่เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตามในทันที ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาตามมาไม่สิ้นสุด!

นายตำรวจทั้งสาม เมื่อพ้นโทษในคดีม็อบ 7 ต.ค. 51 และคดีม็อบอุดรธานีแล้ว

ต้องได้รับตำแหน่งหน้าที่กลับคืน

นายกฯอภิสิทธิ์ต้องคืนสถานะเดิมให้กับพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ!

เพื่อบันทึกเอาไว้ในประวัติราชการว่า เกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. 2552

สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องรับพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว และพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ กลับเข้ารับราชการ

นายตำรวจทั้งสาม รับราชการมายาวนานกว่า 30 ปี ไม่มีเรื่องประพฤติเสียหายร้ายแรง

ไม่เคยทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่เคยโกงกินกับการจัดซื้อจัดจ้างหลายพันล้าน

จะอดรับเงินบำนาญหลังเกษียณอายุราชการ ทั้งที่ไม่ได้โดนลงโทษในคดีทุจริตและประพฤติชั่วร้ายแรงอะไรเลยหรือ!?

ข้อกล่าวหานายตำรวจเหล่านี้ คือ การปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ม็อบ

ทั้งที่พล.ต.อ.พัชรวาท ผบ.ตร.ขณะนั้น คือผู้ประนีประนอมกับม็อบ ไม่ใช่ตำรวจบ้าอำนาจซาดิสต์แต่อย่างใด

ควรจะต้องพิสูจน์กันอย่างเปิดเผยและโดยผู้เชี่ยวชำนาญที่ทุกฝ่ายเชื่อถืออย่างแท้จริง

ต้องมีผู้ชดใช้หนี้ชีวิตให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ 7 ต.ค.

แก๊สน้ำตาทำให้ตายได้จริงหรือไม่ และผู้ตายเสียชีวิตด้วยอาวุธใดกันแน่

ดีกว่าปล่อยให้อึมครึม แล้วนำเอาความเลวร้ายในเหตุการณ์นี้มาเป็นเครื่องมือ

เพื่อทำลายล้างศัตรูคู่อาฆาตกันเท่านั้นเอง!

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker