รายงานพิเศษ
 |
เป็นมติของที่ประชุมส.ส.พรรค ภายหลังกรรมการบริหารพรรคโยนให้ใช้เสียงโหวตของส.ส.ตัดสิน
การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นข้อเสนอของพรรคร่วมรัฐบาล โดยมี พรรคชาติไทยพัฒนา เป็นหัวหอก จับมือกับ พรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และพรรคกิจสังคม ประกาศผลักดันแก้ใน 2 ประเด็น
คือมาตรา 190 เรื่องสนธิสัญญาระหว่างประเทศ และประเด็นการแก้ไขที่มาส.ส. หรือรูปแบบการเลือกตั้ง จากเขตใหญ่ กลับไปใช้แบบเขตเล็ก หรือเขตเดียวเบอร์เดียว
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ เกิดปัญหาเสียงแตกเรื่องเขตใหญ่-เขตเล็ก การสัมมนาพรรคที่ จ.กระบี่ ก็ยังไม่มีข้อยุติ จนต้องเลื่อนมาชี้ขาดกันในวันที่ 26 ม.ค.
ความคิดที่แตกต่างกันนี้เกิดขึ้นทั้งในระดับ ส.ส. และแกนนำพรรค
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ในฐานะผู้จัดการรัฐบาล เห็นไปในทางเดียวกับพรรคร่วม เพราะเรื่องแก้รัฐธรรมนูญถือเป็นข้อเสนอตั้งแต่ก่อนร่วมรัฐบาล
จนถึงขนาดพูดกลางวงสัมมนาว่าหากไม่แก้เป็นเขตเล็ก ก็เตรียมยุบสภาได้เลย
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค มีท่าทีชัดเจนตั้งแต่แรกว่าต้องเป็นเขตใหญ่
นายชวน ระบุว่า เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง เขตใหญ่เรียงเบอร์ กับ เขตเดียวเบอร์เดียว พบว่าเขตใหญ่ซื้อเสียงได้ยากกว่า มีตัวอย่างให้เห็นในการเลือกตั้งท้องถิ่น เช่น อบต. หรือเทศบาล
เขตเดียวเบอร์เดียว การซื้อเสียงทำได้ง่ายและรุนแรงกว่า ส่วนเขตใหญ่เรียงเบอร์ไม่ใช่จะไม่มีการซื้อเสียงเลย แต่ซื้อเสียงได้น้อยและทำได้ยากกว่า ทั้งหมดคือส่วนหนึ่งของการพยายามแก้ไขการเมืองแบบธุรกิจการเมือง หรือการเมืองแบบโคตรโกง โกงทั้งโคตร
ส่วนนายบัญญัติ ประเมินล่วงหน้าแล้วว่า ในฐานะที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหลายคนเป็นนักการเมืองเก่าแก่ น่าจะวิเคราะห์ออกว่าพรรคประชาธิปัตย์คงลำบากใจที่จะเทเสียงให้ และพรรคร่วมก็ไม่ได้หวังผลเรื่องการแก้ไขรัฐธรมนูญ แต่เป็นการประกาศความร่วมมือกันในอนาคต รวมถึงตอนเลือกตั้ง
พิจารณาจากกรรมการบริหารพรรค 19 คน เข้าประชุม 16 คน พบว่า เสียงสนับสนุนนายสุเทพ ที่เห็นว่าควรกลับไปใช้เขตเล็ก กับเสียงหนุนในซีกของหัวหน้าพรรค ก้ำกึ่งกัน
ที่เห็นว่าควรเป็นเขตเล็ก ประกอบด้วย นายสุเทพ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน นายวิทยา แก้วภราดัย นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู และ นายธีระ สลักเพชร
รวม นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ไปด้วยอีกคน แต่ไม่นับรวม นางอัญชลี วานิช เทพบุตร และนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ที่ไม่ได้เข้าประชุม
ส่วนที่เห็นว่าควรเป็นเขตใหญ่ ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ นายกรณ์ จาติกวณิช น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายสาธิต ปิตุเตชะ นายวิรัช ร่มเย็น ไม่รวม นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ที่ไม่ได้เข้าประชุม
กรรมการบริหารพรรคใช้เวลาประชุมเพียงสั้นๆ ไม่ถึง 20 นาที ก่อนโยนให้ที่ประชุมส.ส.ไปตัดสิน ตามข้อเสนอของหัวหน้าพรรค
นายอภิสิทธิ์ กล่าวในที่ประชุมว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ เหมือนตอนที่พรรคมีมติไม่ส่งผู้สมัครส.ส. จึงควรนำไปพูดกันในที่ประชุมส.ส.พรรค เพราะหากกรรมการมีมติไม่แก้ก็อาจขัดกับความเห็นที่ประชุมใหญ่ แต่หากมีมติต้องแก้ก็จะถูกกล่าวหาว่าอยากเป็นนายกฯ อยากเป็นรัฐมนตรี
อีกทั้งพรรคร่วมรัฐบาลก็มีเสียงพอที่จะยื่นญัตติอยู่แล้ว ขอให้ไปพูดกันในที่ประชุมส.ส. ให้ส.ส.โหวตกันว่าจะเอาอย่างไร
กรรมการบริหารพรรคทุกคนเห็นด้วยกับข้อเสนอของหัวหน้าพรรค รวมทั้งนายสุเทพ ที่เสนอให้ใช้วิธีโหวต ตั้งแต่การสัมมนาที่ จ.กระบี่ แล้ว
หลังการประชุมกรรมการบริหาร นายอภิสิทธิ์ เรียกประชุมส.ส.พรรค เพื่อขอความชัดเจน
หลังนายกฯ แจ้งมติกรรมการบริหารพรรค นายสุเทพ กล่าวเรียกร้องให้ที่ประชุมรีบตัดสินใจ เพราะรับปากกับพรรคร่วมรัฐบาลว่าเมื่อเปิดสภาจะนำมติของพรรคไปแจ้งให้ทราบ
และโน้มน้าวว่า การต่อสู้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นเรื่องใหญ่ พรรคประชาธิปัตย์ จะต่อสู้กับพ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียวไม่ได้ และพรรคร่วมได้ขอร้องมาว่า ถ้าเป็นการเลือกตั้งแบบเขตใหญ่ เขาสู้ไม่ได้ ก็ขอให้เขาได้เกิดในอีสานบ้าง เราจะอยู่แบบโดดเดี่ยวหรือจะมีเพื่อน
พร้อมกล่าวจูงใจว่า 1 ปี นักธุรกิจให้ความเชื่อมั่น ที่ผ่านมาก็มีหลายคนขอให้เราเป็นรัฐบาล 2 ปี ทหารก็รับประกันว่าไม่มีปฏิวัติ
ทุกประเด็นของนายสุเทพ ถูกสวนกลับจากนายชวน ว่า
การแก้รัฐธรรมนูญไม่ใช่ปัญหาของชาติ ผมเห็นตรงกับนายบัญญัติ ว่ารัฐธรรมนูญไม่สามารถแก้วิกฤตของชาติได้ ประชาชนจะเข้าใจเราอย่างไร เพราะ 2 ประเด็นที่แก้ไขไม่ใช่ประโยชน์ของประชาชนเลย แต่เป็นประโยชน์ของเราเอง
ที่บอกว่าเราต้องร่วมมือกับพรรคร่วมรัฐบาล ทำไมเราถึงไม่พูดว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องมาร่วมมือกับเรา ไม่อย่างนั้นเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของเราจะอยู่ที่ไหน พรรคเรามีหลักในการซื่อสัตย์มาตลอด
คนไม่ได้หวังว่าเราจะเป็นรัฐบาลนานหรือเร็ว แต่เขาอยากให้เราเป็นเสาหลักในการบริหารบ้านเมือง เพื่อความซื่อสัตย์
แม้ส.ส. 3 คน คือ น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก น.พ.อสิ มะหะมัดยังกี ส.ส.สตูล และ นายธวัชชัย อนามพงษ์ ส.ส.จันทบุรี ลุกขึ้นสนับสนุนการเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว
ระบุว่าพรรคต้องเห็นใจนายสุเทพ ที่ต้องเอาใจพรรคร่วมรัฐบาลด้วย
แต่ก็ถูก นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวสวนว่า รัฐบาลต้องสู้กับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่จะเอานายบรรหาร ศิลปอาชา และนายเนวิน ชิดชอบ มาเป็นแนวร่วมก็คงจะแพ้ จะต้องเอาความศรัทธาของประชาชนเข้าช่วย
ก่อนโหวต นายอภิสิทธิ์ กล่าวปิดท้ายว่า เราจะอยู่ได้หรือไม่ ไม่ใช่อยู่ที่เราจะแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่อยู่ที่ศรัทธาของประชาชน และประเด็นเรื่องการเลือกตั้งแบบเขตเล็กก็ไม่ใช่ข้อตกลงในการตั้งรัฐบาล
และว่า ที่นายเนวิน บอกว่าจะสู้กับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ก็พบว่าในการเลือกตั้งที่อีสาน แพ้ทุกที แสดงว่าการใช้อำนาจรัฐไม่ใช่ทางออก แต่ต้องเอาศรัทธาประชาชนเป็นหลัก
พรรคประชาธิปัตย์ต้องเป็นหลักในการแก้ปัญหาบ้านเมือง ถ้าไม่เป็นหลักแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ จะกินเรียบ พรรคประชาธิปัตย์จะไม่เหลืออะไรเลย
ไม่ต้องกลัวคำขู่ว่าจะยุบสภา หรือไม่ลงคะแนนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะถ้าเราทำตัวไม่ต่างจากพ.ต.ท.ทักษิณ เราจะพังเอง ไม่มีเหตุผลที่จะมีการยุบสภา
ผลการลงมติลับ ปรากฏว่ามีส.ส.ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญถึง 82 เสียง เห็นด้วยกับการแก้ไข 48 เสียง งดลงคะแนน 2 เสียง 1 ใน 2 คือนายอภิสิทธิ์
หลังมติแพร่กระจาย มีเสียงตอบโต้จากพรรคร่วมอย่างร้อนแรง
นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย คิดว่าทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบพรรคประชาธิปัตย์ต่างก็อึดอัดกันหมดแล้ว ไม่รู้จะกลัวอะไรนักหนา หรือเป็นเพราะนายกฯ ตัวจริง เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ถึงเป็นอย่างนี้
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตอบคำถามถึงการโหวตผ่านกฎหมายสำคัญๆ และการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า จะให้เป็นเอกสิทธิ์ในสภาของส.ส. ให้ฟรีโหวตได้เลย
ส่วน ชาญชัย ชัยรุ่งเรือง หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า ข้อตกลงของสัญญาลูกผู้ชาย ก่อนร่วมรัฐบาลต้องเป็นคำศักดิ์สิทธิ์ ลูกผู้ชายไร้สัจจะแล้วใครจะคบ
ขณะที่ ข่าวกระฉอกจากพรรคชาติไทยพัฒนาว่า เป็นการวัดใจเขาว่าเรื่องแค่นี้ช่วยพรรคเล็กได้หรือไม่ ช่วยได้หรือช่วยไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะเรามีทางออกเรื่องนี้ไว้แล้ว
ทางออกของพรรคร่วม จะเป็นอย่างไร ต้องติดตาม
