บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2553

พิทักษ์ โตนวุฒิ: นักสู้เพื่อสิทธิชุมชนและปกป้องสิ่งแวดล้อม ยังอยู่ในหัวใจของเรา

ที่มา Thai E-News

โดย ประชา ธรรมดา
21 มกราคม 2553


ปัญหาวิฤตการณ์การจัดการทรัพยากรธรรมชาตินับวันมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

เนื่องจากการเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติโดยกลุ่มนายทุนอิทธิพลที่มีผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่นภ ายใต้การเอื้อประโยชน์จากรัฐผ่านนโยบายและกฏหมาย หรืออาศัยช่องโหว่ทางกฎหมาย ใช้อำนาจบาตรใหญ่ใช้อิทธิพลร่วมมือกับข้าราชการบางหน่วยบางคน ทำให้ชุมชนท้องถิ่นที่ออกมาปกป้องธรรมชาติต้องเผชิญกับความรุนแรงมากขึ้นยิ่งขึ้นเช่นกัน

ยามเย็นของวันที่ 17 พฤษภาคม 2544 นักสู้ลูกหลานของประชาชน "พิทักษ์ โตนวุฒิ" หรือ “พี่โจ” ของน้องๆชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยรามคำแหง ขับมอเตอร์ไซค์กลับยังหมู่บ้าน ภายหลังกลับมาจากการปฏิบัติพันธกิจสำคัญ ประชุมเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบให้กับโรงโม่หิน ที่ว่าการอำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เพื่อปกป้องสมบัติของแผ่นดิน

ยังมิทันถึงที่พักพิง"พิทักษ์ โตนวุฒิ" ถูกมือปืนสังหารอย่างเหี้ยมทมิฬ และสิ้นชีวิตลงในวันนั้น ภายหลังจากที่เขาได้เดินทางไกลมา ณ ดินแดนแห่งนี้


เขาได้เลือกทางเดินของชีวิต อุทิศตนเสียสละความสบายส่วนตน และความก้าวหน้าตามที่สังคมกำหนด มาร่วมสู้และได้ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ต่อสู้เพื่อพิทักษ์ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของประเทศชาติ เมื่อรัฐไทยได้มีนโยบายอนุมัติให้กลุ่มทุนเข้ามาสร้างโครงการโรงโม่หินที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม

"พิทักษ์ โตนวุฒิ" ชายหนุ่มจากบุรีรัมย์ อดีตประธานชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยรามคำแหงได้ร่วมกับชาวบ้านคัดค้านโครงการดังกล่าวที่ลิดรอนสิทธิการของชาวบ้านคนท้องถิ่นในการควบคุมทรัพยากรธรรมชาติ หรือสิทธิชุมชน

"พิทักษ์ โตนวุฒิ" คงคิดว่าคนท้องถิ่นมีปัญหาในชีวิตให้ต้องต่อสู้ดิ้นรนมากมายอยู่แล้ว ไฉนต้องมีโครงการที่สร้างปัญหาเพิ่มเข้ามายัดเยียดให้อีกด้วยเล่า ในเมื่อโรงโม่หินที่มีอยู่แล้วก็ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในชุมชนมากพอและไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และก็ไม่เคยถามกันเลยว่า ชาวบ้านเขาต้องการหรือไม่

เมื่อรัฐและ เจ้าของโครงการไม่ฟังเสียงประชาชน พวกเขามีทางเลือกเดียวคือต้องต่อสู้

ท่ามกลางทุนนิยมโลกาภิวัตน์ มีประชาชนท้องถิ่นหลายพื้นที่ในสังคมไทยที่ต้องต่อสู้เหมือนเช่น "พิทักษ์ โตนวุฒิ " เนื่องจากภายใต้การพัฒนาตามกระเแสทุนนิยมโลกาภิวัฒน์ ที่รัฐได้มีนโยบายการพัฒนาที่สร้างผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่น การพัฒนาที่แย่งยึดปล้นชิงสมบัติของท้องถิ่นของประเทศชาติมาเป็นสมบัติส่วนตนของกลุ่มนายทุน โดยรัฐทำหน้าที่สนับสนุนเอื้อประโยชน์ให้

หรือมองทรัพยากรธรรมชาติเป็นเพียงสินค้าหากำไรมากกว่าคำนึงถึงต้นทุนทางธรรมชาติที่ควรรักษาไว้ให้ยั่งยืน เฉกเช่น กรณีการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นที่ทำลายป่าสักทองผืนสุดท้าย ซึ่งทำลายความหลายหลายของพันธุ์พืชและสัตว์ที่หายากประเมินค่าทางเศรษฐกิจหามิได้ กรณีการสร้างโรงไฟฟ้าลิกไนต์ ที่ก่อสารพิษให้กับคนชุมชนรอบข้าง และอีกหลายกรณีหลายพื้นที่เกิดทั่วหัวระแหงในสังคมไทย

แท้ที่จริงแล้วรัฐบอกให้พวกเขาต้องเสียสละเพื่อ "กลุ่มทุน" หาใช่เพื่อ "ชาติ" ไม่ ?

การตายของ "พิทักษ์ โตนวุฒิ" นอกจากกลุ่มนายทุนอิทธิพลที่จ้างมือปืนเข่นฆ่าแล้ว กล่าวได้หรือไม่ว่า นโยบายของรัฐเป็นบ่อเกิดรากเหง้าปัญหาสำคัญยิ่งในการสังหาร "พิทักษ์ โตนวุฒิ" แม้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับ 40 และ 50 ปัจจุบันจะบัญญัติไว้ว่า ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รัฐต้องเคารพสิทธชุมชน แต่รัฐธรรมนูญจึงเป็นเพียงกระดาษอันว่างเปล่าหาได้เป็นกติกาการปกครองการบริหารของสังคมไทยอย่างแท้จริง ตราบใดที่อำนาจรัฐยังเมินเฉยแทนที่จะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ

เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ข้าราชการบางส่วนได้ร่วมมือกับกลุ่มนายทุน กลุ่มอภิสิทธิ์ชน ร่วมกันหาประโยชน์จากสมบัติสาธารณอย่างผิดกฎหมาย ที่เรียกกันว่ากลุ่มผู้มีอิทธิพลเกิดขึ้นควบคู่กับสังคมไทยมานมนานในการปล้นชิงทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การทำไม้เถื่อน การออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ การรุกที่สาธารณะประโยชน์ ฯลฯ

เราปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า ถ้ารัฐยังคงรวมศูนย์อำนาจโดยหน่วยงานเดียวไม่ว่า กรมป่าไม้ กรมที่ดิน สปก.กรมราชพัสดุ กรมชลประทาน เราจึงได้ยินข้อมูลข่าวสารว่า มีการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบที่ จ.ลำพูน จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย มีการรุกพื้นที่ป่าสาละวิน จ.แม่ฮ่องสอน กรณีการเช่าพื้นที่สวนปาล์มเกินกำหนดสัมปทานของนายทุน จ.กระบี่ จ.สุาษฎร์ธานี กรณีพื้นที่บ่อนอก-หินกรูด และอีกหลายพื้นที่ทำนองเดียวกัน

ท้ายสุด คงไม่มีใครปรารถนาให้การตายของ "พิทักษ์ โตนวุฒิ" นักรบผู้พิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศชาติสูญเปล่า รัฐต้องดำเนินการจับกุมมือปืนและผู้บงการอยู่เบื้องหลังหรือผู้มีอิทธิพล ให้ได้ และยุติการให้สัมปทานพื้นที่โดยเด็ดขาดไม่ว่าเพื่อโรงโม่ หรือเพื่อโครงการอื่นๆของรัฐ เช่น เขื่อน โดยไม่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการพิจารณา

และถ้าสังคมไทยไม่ต้องการให้มีการสูญเสียอีกต่อไป ต้องผลักดันให้รัฐไทยคืนอำนาจในจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติ ให้ชุมชนท้องถิ่นและประชาชนมีส่วนร่วมตรวจสอบถ่วงดุลได้อย่างแท้จริง

ขอคาระจิตวิญญาณ "พิทักษ์ โตนวุฒิ" นักสู้ผู้อยู่ในหัวใจประชาชนชั่วนิรันดร์

0000

กำหนดการฌาปนกิจศพ นายพิทักษ์ โตนวุฒิ

ตั้งศพบำเพ็ญกุศล ณ ศาลาวัดบ้านชมภู ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก วันที่ ๒๑-๒๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๓

เวลา ๒๐.๐๐ น.พระสงฆ์สวดอภิธรรม

วันที่ ๒๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๓

บรรจุศพ-สวดอภิธรรม

วันที่ ๒๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๓

ติดตามผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหา ณ จังหวัดพิษณุโลก

วันที่ ๒๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๓

ลงศึกษาพื้นที่ต้นน้ำคลองชมภู/ชมนิทรรศการ

วันที่ ๒๔ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๓

เวลา ๑๐.๐๐ น. เวทีเสวนา “บทเรียน มาตรการปกป้องนักต่อสู้และ

ชุมชนในสงคราการแย่งชิงทรัพยากร”

เวลา ๑๓.๐๐ น.พิธีรำลึก ประกาศเจตนารมณ์ “พิทักษ์ โตนวุธ”

เวลา ๑๔..๐๐ น.พิธีฌาปนกิจศพ

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker