บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2553

สกัดทายาทป๋า / ตะเกียงเจ้าพายุ

ที่มา สยามรัฐ

บุญกรม ดงบังสถาน14/1/2553


สกัดทายาทป๋า

ปัญหาที่ดินเขายายเที่ยงเป็นเรื่องที่ทำให้พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรี ต้องเสียรังวัดมากทีเดียว แม้จะได้”ตัวช่วย”มากมาย เช่น ส.ว.ลากตั้งบางคนและอัยการสูงสุด

แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ยิ่งพูดก็ยิ่งเข้าเนื้อพล.อ.สุรยุทธิ์มากขึ้น มีช่องโหว่ให้สวนกลับได้ทุกที

เรื่องนี้จะไปโทษว่าเป็นเกมการเมืองของฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ได้ เพราะได้มีการตรวจสอบหลังจากพล.อ.สุรยุทธ์ได้เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปลายปี 2549 โดยในบัญชีทรัพย์สินของพล.อ.สุรยุทธ์และภริยาที่แสดงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)นั้นมีบ้านพักเขายายเที่ยงอยู่ในบัญชีทรัพย์สินที่ได้แสดงด้วย

พล.อ.สุรยุทธ์จะมาอ้างว่าตัวเองไม่ใช่นักการเมืองก็ไม่ได้ เพราะตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็คือนักการเมืองนั่นเอง เพียงแต่ไม่ได้เป็น ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น

เมื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ตามกฎหมาย ซึ่งพล.อ.สุรยุทธ์และภริยามีทัพย์สินรวม 90 กว่าล้านบาท เฉพาะภริยาของท่านมี 65.5 ล้านบาท เป็นเครื่องเพชร 14 ล้านบาท

ตรงนี้จึงเกิดความสงสัย โดยเฉพาะบ้านเขายายเที่ยง เนื่องจากเป็นที่ป่าสงวนแล้วพล.อ.สุรยุทธ์ถือครองได้อย่างไร จึงได้มีการตรวจสอบจนกระทั่งได้พบความจริง

ซึ่งคนที่ตรวจสอบค้นหาความจริงก็ไม่ใช่ฝ่ายค้านหรือคนของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวิตร อดีตนายกฯ แต่เป็นคนที่คุ้นเคยกับพล.อ.สุรยุทธ์เป็นอย่างดีแล้วก็ทำงานรับใช้พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีมาด้วยกัน

นั่นคือ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ซึ่งขณะนั้นเป็นประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจและสิทธิมนุษยชน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) น.ต.ประสงค์ได้แถลงหลังจากคณะทำงานได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบบ้านเขายายเที่ยงว่า คณะทำงานได้มีทั้งภาพถ่าย แผนที่ กฎหมายป่าไม้ กฎหมายที่ดิน พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติรวมทั้งคำพิพากษาของศาลที่เคยตัดสินคดีบุกรุกป่ามาพิจารณาด้วย

จากการลงพื้นที่ของคณะทำงานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ในเบื้องต้นมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าบ้านพักของพล.อ.สุรยุทธ์อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนและเขายายเที่ยงก็อยู่
ในเขตป่าโซนซี ซึ่งเป็นเขตป่าอนุรักษ์เขตลุ่มน้ำชั้นที่ 1 หรือ 2 เนื่องจากเป็นต้นน้ำของห้วยน้ำขาวที่ไหลลงลำตะคอง

ซึ่งตาม พ.ร.บ.ป่า พ.ศ.2484 มาตรา 54 ผู้บุกรุกครอบครองจะมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 50,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

แต่อัยการสั่งไม่ฟ้องเฉยเลย โดยอ้างว่าพล.อ.สุรยุทธ์ไม่มีเจตนาบุกรุก

ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าเรื่องบ้านเขายายเที่ยงไม่ใช่ฝ่ายทักษิณหรือแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ
หรือคนเสื้อแดงเป็นคนจุดประกายขึ้น และก็ไม่ใช่เป็นเกมการเมืองที่ต้องการกระทบชิ่งพล.อ.เปรมมาตั้งแต่แรก

ถ้าจะเป็นก็เป็นเกมการเมืองระหว่างลูกป๋าด้วยกัน เนื่องจากบางคนคิดว่าตัวเองจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีแต่ก็ไม่ได้เป็น

ส่วนคนเสื้อแดงมาเอาจริงเอาจังในช่วงหลัง ซึ่งก็ได้ผล เพราะทำเอารัฐบาลและอำมาตย์กระเทือนไปหมด

เริ่มจากรัฐบาลไปเลย การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงเรื่องบ้านเขายายเที่ยงได้ส่งผลกระทบต่อรัฐบาล โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายทักษิณ คนเสื้อแดงหรือแม้กระทั่งประชาชนที่ไม่ได้สังกัดสีก็ยังเห็นว่ารัฐบาลมีการกระทำสองมาตรฐาน ไม่ได้บังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมหรือเสมอภาคเท่าเทียมกัน

อัยการสั่งไม่ฟ้องพล.อ.สุรยุทธ์เพราะขาดเจตนาบุกรุก ขณะที่ชาวบ้านที่อยู่ตีนเขาถูกศาลพิพากษาตัดสินจำคุก ทำให้ประชาชนได้เห็นความเหลื่อมล้ำทางสังคม ความแตกต่างระหว่างอำมาตย์หรืออภิสิทธิ์ชนกับตาสีตาสาที่ยากจนต่ำต้อย

ไม่เพียงแต่รัฐบาลเท่านั้น แต่ยังกระทบถึงกระบวนการยุติธรรมตลอดจนองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ชี้มูลความผิดในคดีความต่างๆ เพราะที่ผ่านมาองค์กรเหล่านี้ถูกคนเสื้อแดงโจมตีมาตลอดว่าได้รวมหัวกันทำลายทักษิณ

ส่วนพล.อ.สุรยุทธ์นั้นแน่นอนได้รับผลกระทบเต็มๆเลยแหละ ต่อให้มีตัวช่วย เช่น อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องก็ไม่ทำให้สังคมหายสงสัยได้ มีคำถามมากมายว่าพล.อ.สุรยุทธ์ที่เคยเป็นทั้งเม่ทัพภาคที่ 2 ผู้บัญชาการทหารบก นายกรัฐมนตรี ไม่รู้เลยหรือว่าที่บนเขานั้นเป็นป่าสงวนห้ามประชาชนเข้าครอบครอง

ถ้าเป็นชาวบ้านธรรมดาอาจจะอ้างได้ว่าไม่รู้กฎหมาย ถึงแม้ในทางกฎหมายทุกคนจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายเพื่อให้ตัวเองพ้นผิดไม่ได้ แต่ชาวบ้านอาจไม่รู้จริงๆ

แต่สำหรับพล.อ.สุรยุทธ์นั้นแตกต่างจากชาวบ้านมาก นอกจากตำแหน่งทางทหารและเคยเป็นถึงนายกรัฐมนตรีแล้ว
ยังเป็นประธานมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อีกด้วย

เพราะฉะนั้น จะไม่รู้เชียวหรือว่าที่เขายายเที่ยงเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ

ภาพของพล.อ.สุรยุทธ์นั้นเป็นภาพของคนที่มีคุณธรรม จริยธรรม ซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งก็ไม่แตกต่างกับพล.อ.เปรม แต่เมื่อมีกรณีนี้เกิดขึ้นก็ทำให้ภาพเหล่านี้สั่นคลอน ในทางกฎหมายอาจเอาผิดไม่ได้

เนื่องจากอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เพียงแค่ให้กรมป่าไม้ดำเนินการเอาที่ดินบ้านเขายายเที่ยงคืนเท่านั้น แต่ในด้านจริยธรรมล่ะพล.อ.สุรยุทธ์ควรจะรับผิดชอบอย่างไรหรือไม่

ในกรณีนี้ได้มีการนำไปเปรียบเทียบกับกรณีที่ดินรัชดา ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณได้เซ็นต์ยินยอมให้ภริยาซื้อโดยไม่ได้ทุจริต แต่มีความผิดติดคุก 2 ปี ส่วนพล.อ.สุรยุทธ์ครอบครองที่ป่าสงวนผิดกฎหมาย แต่อัยการสั่งไม่ฟ้องเพราะขาดเจตนา

นอกจากนี้ในกรณีของพ.ต.ท.ทักษิณอีกเช่นกัน คุณสมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ ป.ป.ช.ได้บอกว่าพ.ต.ท..ทักษิณไม่ได้ทุจริต แต่ทำผิดจริยธรรม ฝ่าฝืนกฎหมาย จึงถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก 2 ปี

แล้วกรณีของพล.อ.สรุยุทธ์ละผิดจริยธรรมหรือใม่ ถ้าผิดควรจะทำอย่างไรต่อไป

ไม่ว่าอย่างไร ปัญหาบ้านเขายายเที่ยงได้ส่งผลกระทบต่อพล.อ.สุรยุทธ์อย่างรุนแรง เท่ากับเป็นการสกัดทายาทของป๋า โอกาสที่จะได้เป็นตำแหน่งที่เตรียมเอาไว้คงเป็นเรื่องยากขึ้น

เพราะตำแหน่งที่ว่านี้มัวหมองแม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker