นายกรัฐมนตรีแจงเข้าพบ พล.อ.เปรม เมื่อวานนี้จริง แต่เป็นการเข้าเยี่ยมคารวะเนื่องในโอกาสปีใหม่ ไม่มีการพูดเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือทุกประเด็นตามที่มีกระแสข่าว เผย พล.อ.เปรม ให้กำลังใจ-ให้ยึดซื่อสัตย์สุจริตและบ้านเมือง
ตามที่เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา มีรายงานว่า ภายหลังที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกจากอาคารรัฐสภา เวลา 17.00 น. ได้เปลี่ยนรถประจำตำแหน่งและเดินทางเข้าไปพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ โดยไม่ทราบเหตุผลในการเข้าพบ จากนั้นในเวลา 18.30 น. นายอภิสิทธิ์ได้เดินทางกลับเข้ามายังทำเนียบรัฐบาล และเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลไปในเวลา 19.00 น.
โดยก่อนหน้าที่นายอภิสิทธิ์ จะเดินทางมารัฐสภา ASTVผู้จัดการออนไลน์ อ้าง “แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล” ที่ระบุว่า นายอภิสิทธิ์ “ได้ออกจากทำเนียบรัฐบาล เพื่อเดินทางไปยังโรงแรมอินเตอร์คอนทิเนนตัล ย่านราชประสงค์ และเข้าไปยังห้องอาหาร Fireplace Grill โดยให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแจ้งสื่อมวลชนของ ว.5 (ส่วนตัว) เพื่อไม่ให้ติดตามทำข่าว ทำให้สื่อมวลชนเดินทางมารอนายกรัฐมนตรีที่รัฐสภา เนื่องจากนายอภิสิทธิ์มีกำหนดการชี้แจงกรณียกเลิกหวยออนไลน์ต่อคณะ กรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ โดยนายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงล่าช้ากว่ากำหนด”
“แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล” ยังอ้างว่า “ในช่วงที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังโรงแรมอินเตอร์ฯ นั้น เป็นการพบและร่วมรับประทานอาหารร่วมกับทีมที่ปรึกษา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผู้ถือครองที่ดินในพื้นที่เขาสอยดาว ที่คนเสื้อแดงจะเดินทางไปชุมนุม ทั้งนี้ มองกันว่าคนเสื้อแดงพยายามเชื่อมโยงการถือครองที่ดินเขาสอยดาวให้ถึงตัว พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ทั้งนี้ ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีพบปะกับทีมที่ปรึกษาดังกล่าว เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ พล.อ.เปรม ได้นัดพบนายแบงก์ใหญ่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน กทม.”
ASTVผู้จัดการออนไลน์ ยังอ้างการรายงานของ “แหล่งข่าวใกล้ชิด พล.อ.เปรม” ซึ่งอ้างว่า “พล.อ.เปรม ได้แสดงความเป็นห่วงกรณีเขาสอยดาว และกำลังให้ฝ่ายกฎหมายไปดูกรณีที่มีบุคคลกล่าวพาดพิงหรือกล่าวหา ขณะที่กรณีเขายายเที่ยงของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ซึ่ง พล.อ.เปรม บอกให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย”
“ทั้งนี้ พล.เปรม เป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมือง โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามรุกหนักในช่วงนี้เพราะต้องการที่เงินจำนวน 7.6 หมื่นล้านบางส่วนคืน จึงพยายามต้องการเดินเกมเพื่อล้มรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งเบื้องต้นมีการประเมินสถานการณ์ว่า ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพรรคชาติไทยพัฒนาของนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย และกลุ่มพรรคภูมิใจไทยของนายเนวิน ชิดชอบ ที่พยายามกดดันรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากมีการกดดันมาก รัฐบาลอาจจะมีการประกาศยุบสภา ซึ่งจากการเข้าพบครั้งนี้ พล.อ.เปรม ได้ให้กำลังใจนายกฯ ไม่อยากให้นายอภิสิทธิ์ยุบสภา และอยากให้นายอภิสิทธิ์บริหารชาติต่อไป ทั้งนี้ พล.อ.เปรม พร้อมจะพูดคุยถึงปัญหาดังกล่าวกับนายบรรหารเพื่อแก้ปัญหา” “แหล่งข่าวใกล้ชิด พล.อ.เปรม” ตามการรายงานของ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ระบุ
เช่นเดียวกับ มติชนออนไลน์ ที่อ้างว่า “รายงานข่าวแจ้งว่านายอภิสิทธิ์ใช้เวลาหารือ พล.อ.เปรม ประมาณ 30 นาที ถึงปัญหาสถานการณ์บ้านเมือง โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามรุกหนักในช่วงนี้ เพราะต้องการที่เงิน จำนวน 7.6 หมื่นล้านบานคืนจึงพยายามต้องการเดินเกมเพื่อล้มรัฐบาลชุดนี้ เบื้องต้นมีการประเมินสถานการณ์ว่า ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพรรคชาติไทยพัฒนาของนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย และ กลุ่มพรรคภูมิใจไทยของนายเนวิน ชิดชอบ ที่พยายามกดดันรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากมีการกดดันมาก รัฐบาลอาจจะมีการประกาศยุบสภา ซึ่งจากการเข้าพบครั้งนี้ พล.อ.เปรม ได้ให้กำลังใจนายกฯ ไม่อยากให้นายอภิสิทธิ์ ยุบสภา และอยากให้นายอภิสิทธิ์บริหารชาติต่อไป ทั้งนี้พล.อ.เปรม พร้อมจะพูดคุยถึงปัญหาดังกล่าวกับนายบรรหาร เพื่อแก้ปัญหา”
มติชนออนไลน์ ยังรายงานเพิ่มเติมวันนี้ (14 ม.ค.) ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 ม.ค. ว่า เป็นการเข้าเยี่ยมคารวะและรายงานสถานการณ์ตามปกติ ไม่ได้เข้าหารือถึงปัญหาการครอบครองพื้นที่บนเขาสอยดาว จ.จันทบุรี
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (14 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันถึงการเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ว่า เป็นเพียงการเข้าเยี่ยมคารวะเนื่องในโอกาสปีใหม่และไม่มีการพูดถึงประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือทุกประเด็นตามที่มีกระแสข่าว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องชี้แจงเรื่องนี้กับนายบรรหาร ศิลปอาชา เพราะข่าวที่ออกมานั้นไม่ใช่เรื่องจริง ดังนั้น ผู้ที่ต้องไปชี้แจงกับนายบรรหารก็คือ สื่อมวลชนที่นำเสนอข่าว พร้อมกับกล่าวด้วยว่า พล.อ.เปรมได้ให้กำลังใจ โดยให้ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริตและบ้านเมือง